นายกฯ ชวนประชาชนร่วมปลูกป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียว พาไทยบรรลุเป้าหมายลดโลกร้อน

นายกฯ ชวนคนไทยร่วมปลูกต้นไม้ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว รมว.ทส. รณรงค์ปลูกป่า หวังบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี ค.ศ.2065 มอบกรมป่าไม้แจกกล้าไม้เต็มอัตรา พร้อมย้ำรับได้เลยที่ศูนย์เพาะชำใกล้บ้าน

30 พ.ค.2565 -  นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการผลักดันให้มีทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ให้เป็นไปตามเป้าหมายนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกประเภทให้ได้ร้อยละ 55 ภายในปีพ.ศ. 2580

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทย ต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) ที่จะยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่และทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Greenhouse Gas Emission ภายในปี ค.ศ. 2065

โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการสนองตามนโยบายดังกล่าว ในเรื่องคนสามารถอยู่ร่วมกับป่า และช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน และสิ่งที่ทุกคนสามารถร่วมกันส่งเสริมให้ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนได้อย่างง่ายๆคือ การปลูกต้นไม้ ซึ่ง ทส. พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ตามนโยบาย ปี 2565 “ทส. ยกกำลังเอ็กซ์” ปีแห่งการปรับตัว และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”

นายวราวุธ กล่าวว่า มอบหมายให้กรมป่าไมเป็นหน่วยงานหลัก ดำเนินการแจกจ่ายกล้าไม้ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ” มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) การดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน นับมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งกรมป่าไม้ ได้ดำเนินมาตรการที่สำคัญประกอบด้วย หนึ่ง การปลูกและฟื้นฟูป่าธรรมชาติ ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ คทช. (ลุ่มน้ำ 1,2) ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ และป่าชายเลน เป็นต้น สอง การส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจ ได้แก่ พื้นที่ ค.ท.ช. (ลุ่มน้ำ 3,4,5) พื้นที่ป่าไม้ถาวร พื้นที่ ส.ป.ก. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เอกชนที่ดินกรรมสิทธิ์ และสาม การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและชนบท

รวมถึงมาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าและการป้องกันการเผาป่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกจากศักยภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้ถึง 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดทำโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและการเสื่อมสภาพของป่า โดยเฉพาะในพื้นที่เขาสูงชันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมีการดำเนินการให้ครอบคลุมในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน ป่าพรุ และในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์

สำหรับประชาชนที่มีความสนใจ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนให้สำเร็จ สามารถร่วมกันปลูกต้นไม้ โดยสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ ได้ที่ส่วนกลาง ณ กรมป่าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่า ส่วนผลิตกล้าไม้ โทร.02-561-4292 ถึง 3 ต่อ 5551 หรือในส่วนภูมิภาคสามารถรับกล้าไม้ ได้ที่ศูนย์หรือสถานีเพาะชำกล้าไม้ในสังกัดกรมป่าไม้ทั่วประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

IRPC และ ปตท. ร่วมรับมอบท่อ HDPE จากพันธมิตรการค้า สร้างระบบส่งน้ำพัฒนาพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้า

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นางสาวชนิดา สัณหกร ผู้จัดการอาวุโส บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) และนายคมกฤษณ์ ผิวทอง

“สึนามิน้ำจืด” เสียงเตือนจากธรรมชาติ ท่าน ว.วชิรเมธี แนะป้องกันด้วยการบวชป่า ปลูกป่า บนเวที SX2024

“สึนามิน้ำจืด” คำที่พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ใช้เรียกสถานการณ์น้ำท่วมที่เชียงราย และหลายพื้นที่ในปีนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่าต้นตอของปัญหาเกิดจาก “โลภาภิวัตน์” หรือความโลภ หากจะบรรเทาและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ต้องเริ่มจากตัวเราเอง