โต้เฟกนิวส์! 'ทัพภาค 3' ยันทหารรื้อสะพานไม้ไผ่ ตัดเส้นทางขนสิ่งผิดกม. ไม่ได้สกัดผู้ลี้ภัย

ทัพภาค 3 โต้เฟกนิวส์ทหารรื้อสะพานไม้สกัดชาวเมียนมาหนีภัยสงคราม แจงเป็นภาพเก่าเจ้าหน้าที่รื้อถอนสะพานไม้ไผ่ช่องทางธรรมชาติชายแดนตากเส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนเกิดเหตุสู้รบในประเทศเมียนมา

4 พ.ค.2565 - กองทัพภาคที่ 3 ได้ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์กรณีที่ทหารไทยดำเนินการรื้อถอนสะพานไม้ไผ่ที่กลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ใช้เดินทางอพยพเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตากว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าข่าวสารและข้อมูลเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการจัดกำลังพลร่วมกับส่วนราชการพลเรือนที่เกี่ยวข้อง และผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชนในพื้นที่ เข้าดำเนินการรื้อถอนสะพานไม้ไผ่แบบชั่วคราวจำนวน 1 แห่ง ในพื้นที่บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา (ยังไม่เกิดสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย และยังไม่มีกลุ่มหนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา อพยพเข้ามายังฝั่งไทย)

ซึ่งสะพานไม้ดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลไม่ทราบฝ่าย นำมาใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย ขอยืนยันเหตุรื้อสะพานไม้ไม่เกี่ยวข้องกับการข้ามเข้ามายังฝั่งไทย ของกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด และเป็นคนละห้วงเวลากัน ทั้งนี้ เป็นการจัดระเบียบพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามกลุ่มขบวนการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งเพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดตาก/ศูนย์สั่งการชายแดนไทยจังหวัดตาก ในการระงับการเข้า - ออกของบุคคล และยานพาหนะ รวมทั้งสินค้าผ่านแดน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการข้ามเข้ามายังฝั่งไทย ของกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาแต่อย่างใด

ปัจจุบัน (4 พฤษภาคม 2565) ในพื้นที่จังหวัดตาก มีพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว สำหรับกลุ่มหนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อยู่ในเฉพาะพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บ้านเซอทะ,บ้านหนองหลวง, บ้านเลตองคุ และบ้านไม้ระยองคี มีจำนวน 1,547 คน โดย กองกำลังนเรศวร รับผิดชอบอำนวยการดูแล ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม) ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม มีรายละเอียดดังนี้1. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก, จังหวัดตาก, กองกำลังนเรศวร และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมดูแล ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา(ผภสม.) ตามหลักมนุษยธรรม2. จัดแพทย์ พยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุข เข้าดูแลและให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่3. กองกำลังนเรศวร จัดกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่พักพิงของผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ได้ปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก และรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ขอยืนยันว่าจะดำรงตน เพื่อรักษาอธิปไตย, ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยตลอดไป โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ทุกฝ่าย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับด้วยความสมัครใจมาโดยต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564 จนกระทั่งปัจจุบัน//

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุทิน' ผลักดันมวยทหารไทย สู่มวยกองทัพโลก หนุน Soft Power ไทย

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงนโยบายการผลักดัน Soft Power ของกระทรวงกลาโหม เนื่องจากวันนี้จะมีการจัดงาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum ที่ศูนย์ประชุมแห่ง

'ตำรวจไซเบอร์' เปิดปฏิบัติการ! ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ตั้งฐานเชียงใหม่

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.), พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.

สมาคมประกันวินาศภัยฯ เตือนอย่าแชร์ข้อมูลเท็จรายชื่อบริษัทประกันรถที่ถูก Black List

นายสมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความเท็จเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกัน (รถยนต์) ที่ถูก Black List ซึ่งเป็นข้อความเก่าที่ยังคงมีผู้หลงเชื่อนำกลับมาเผยแพร่และแชร์ต่อกันทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้อง

เหล่าทัพขานรับนโยบาย 'บิ๊กทิน' ซื้ออาวุธแบบแพ็กเกจ

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า มีการหารือกันเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ดีอี เตือนระวัง 'โจรออนไลน์' สวมรอยหน่วยงานรัฐหลอกลวง

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์รายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ธ.อิสลาม ช่วยเหลือประชาชน รับรวมหนี้ ต่อธุรกิจ ปิดหนี้ และหมุนธุรกิจ” รองลงมาคือเรื่อง “กรุงไทยปล่อยสินเชื่อ ผ่านเพจสินเชื่อส่วนบุคคล SME” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรืออาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และมีผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง