นายกฯ พอใจการดำเนินงาน ป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 ของ ศปม. ชื่นชมฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เสีย สละเพื่อประชาชน-ประเทศชาติ พร้อมกำชับคุม เข้ม เฝ้าระวัง จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้า ไทยตามแนวชายแดน
24 เม.ย. 2565 – นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลการดำเนินงานการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)ในส่วนต่าง ๆ ซึ่ง ศปม. ได้รายงานในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่7/2565 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชม ขอบคุณกำลังพลฝ่ายความมั่นคงที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เสียสละเพื่อประชาชนไทยและประเทศชาติตลอดห้วงเวลาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พร้อมกำชับให้คุมเข้ม เฝ้าระวัง จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
นายธนกร กล่าวว่า ด้านการปฏิบัติของ ศปม. ในพื้นที่ชายแดน ในการจับกุม สอบสวน แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย (1- 20 เม.ย. 65 มียอดรวม 13,405 คน แบ่งเป็น พื้นที่ตอน ใน 919 คน ติดชายแดน 12,486 คนโดยในจำนวนนี้เป็นผู้นำพา 110 คน ขณะที่การสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด การสืบสวนสอบสวน และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของ กลางยาเสพติด จำแนกเป็น ยาบ้า จำนวน 3,146,857 เม็ด และกัญชาอัดแท่ง จำนวน 556 กก. นอกจากนี้ ศปม. ได้มีการสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการ (เฉพาะกิจ) เพื่อติดตามและกำกับดูแลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยจัดกำลังร่วมปฏิบัติในการติดตามและกำกับดูแลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
กำหนดเส้นทางและจุดรับ-ส่ง ผู้เดินทางจากท่าอากาศยานไปยังโรงแรมที่พัก ตรวจสอบและกำกับ การเดินทางให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาในกรณีที่ผู้เดินทางหลบหนีหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งบูรณาการและประสานความร่วมมือกับศปก.กก. และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
“นายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินงานการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ โควิด-19 ของ ศปม. พร้อมให้กำลังใจกับทุกการทำงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยในห้วงที่ผ่านมาแม้จะมีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก ทั้งแรงงานผิดกฎหมายและผู้นำพา แต่ก็พบว่ายังคงมีความพยายามที่จะลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นายกฯ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ คุมเข้ม เฝ้าระวัง จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างเข้มงวด ตามเส้นทางตลอดแนวชายแดน และเส้นทางในการลักลอบเข้าสู่พื้นที่ตอนใน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าหากพบมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบหรือปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่จะต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด” นายธนกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบแล้ว 6 วัยรุ่นแก๊งเมียนมา เหิมหนักใช้อาวุธมีด ยกพวกรุมกระทืบคนไทย
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รองผบก. รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมือง พ.ต
ผบ.ตร. สดุดีตำรวจกล้า 'ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์' ถูกกระบะขนแรงงานต่างด้าว พุ่งชนเสียชีวิตขณะตั้งด่าน
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีรถขบวนการขนย้ายแรงงงานต่างด้างชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร เสียชีวิตขณะตั้งด่าน ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองกำแเพงเพชร ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ
“พิพัฒน์” เอาจริง! ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างแรงงานต่างด้าว ป้องปรามแย่งอาชีพคนไทย ออกจับ ปรับส่งกลับประเทศ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงาน สภาพการจ้าง การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย
เปิดเวทีชำแหละมติ ครม. บริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ต่อใบอนุญาตทำงานแบบ MOU
นายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงานองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ เปิดเผยว่า เวทีในวันที่ 4 ธันวาคมนี้จะมีการวิพากษ์ตามมติ ครม. โดยเฉพาะในกรณีของการต่ออายุการอนุญาตในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปีหน้า