'บิ๊กตู่' ดันไทยศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ไฟเขียว 5 แนวทาง กำชับหน่วยงานเร่งเครื่อง

15 เม.ย.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นศักยภาพ และขีดความสามารถของประเทศ เกี่ยวกับมาตรการด้านสาธารณสุขและการบริการของไทยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก รัฐบาลจึงได้วางนโยบายกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ภายในระยะ 10 ปี นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2559-2568 เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในเชิงของการท่องเที่ยว เพื่อเป็นโอกาสต่อยอดสู่การสร้างอาชีพให้ประชาชน

นายธนกร กล่าวว่า โดยล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพ 5 เรื่อง ได้แก่ (1.) แนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจสุขภาพอันดามัน (Andaman Wellness Corridor : AWC) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่างการระบาดและหลังการระบาดของโรคโควิด 19 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และระนอง

(2.) แนวทางการพัฒนาต้นแบบ Wellness Industry ด้วยนวัตกรรมสีเขียว (Green Medicine) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (3.) แนวทางการพัฒนาการเป็นศูนย์กลางกัญชาโลกในรูปแบบโลกเสมือนจริง (4.) การบริการรักษาพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูง (World Class Super Center) ได้แก่ จัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูงเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง และ (5.) การให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนทางการแพทย์ โดยการเพิ่มกำลังการผลิตแพทย์รองรับนโยบาย Medical Hub ทั้งหลักสูตรแพทยศาสตร์นานาชาติ และหลักสูตรการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขเพื่อต่อยอดรองรับการพัฒนาสร้างโอกาสทางการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และระบบสาธารณสุขของทุกประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีจึงใช้โอกาสนี้ กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการ และติดตามความก้าวหน้า เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical Hub ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลังโควิด–19 ซึ่งจะสามารถสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการแพทย์ของประเทศ สร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในภูมิภาคได้อีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ครอบคลุม 21 ล้านไร่ วงเงิน 2.3 พันล้านบาท

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้ ให้ความเห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี

'นุ่น สินิทธา' กับชีวิตที่เปลี่ยนไป ใช้ 'Water Fasting' รักษาเนื้องอก!

นักแสดงสาวสายสุขภาพ "นุ่น-สินิทธา บุญยศักดิ์" เปิดใจเล่าถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป หันมาใส่ใจสุขภาพสาเหตุจากการป่วยเป็นโรคเนื้องอก ทำทุกวิถีทางจนต้องใช้การรักษาแบบ Water Fasting เพราะต้องการมีอิสรภาพทางการแพทย์ ในรายการ "On the way with Chom" โดยมีซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ "ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต" รับหน้าที่เป็นพิธีกร

รัฐบาลโต้ตัวเลขเปิดโรงงานใหม่ สูงกว่าปิดกิจการถึง 73%

'โฆษกรัฐบาล' แจงข่าวโรงงานปิดกิจการเพิ่มขึ้น ยันตัวเลขเปิดสูงกว่าที่ปิดถึง 73% ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของผู้ประกอบการ

'ธนกร' ยินดี สว.ใหม่ หวังทำหน้าที่ยึดประโยชน์ประเทศ เชื่อมีอิสระไร้การเมืองเบื้องหลัง

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่แล้วว่า ต้องขอขอบคุณสว.ชุดเก่า 250 ค