ตำรวจกวดขันวินัยจราจรจริงจังวันแรกส่งดำเนินคดี 4.7 หมื่นราย

12 เมษายน 2565 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยรายงานสถิติการกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุ โดยบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหา ตามมาตรการรณรงค์เพื่อการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ในชื่อแคมเปญ “10 ร ส ข ม”

รถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับรถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการขับขี่ที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนใน 5 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ 1) ขับรถย้อนศร 2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และ 5) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

นอกจากนี้ เน้นการบังคับใช้กฎหมาย การกระทำผิดเกี่ยวกับเครื่องหมายทางม้าลาย 4 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย, ขับรถโดยใช้ความเร็วเกินกำหนดบริเวณทางม้าลาย, จอดในทางม้าลาย และไม่ข้ามถนนในทางม้าลาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการตรวจจับการกระทำผิด จะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน (Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 65 เป็นต้นไป สำหรับสถิติการดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมาย ใน 10 ข้อหาหลักตั้งแต่วันที่ 4 – 10 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นสัปดาห์ ก่อนเข้าสู่ 7 วันควบคุมเข้มข้น หรือ 7 วันอันตราย ( 11- 17 เมษายน 2565 ดังนี้

1.ไม่สวมหมวกนิรภัย 7,920 ราย 2.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 5,053 ราย 3.เมาแล้วขับ 1,467 ราย 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 1,580 ราย 5.ไม่มีใบขับขี่ 22,475 ราย 6.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 167,469 ราย 7.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 4,947 ราย 8.ขับรถย้อนศร 1,210 ราย 9.แซงในที่คับขัน 100 ราย 10.ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 110 ราย ในช่วง 7 วัน ก่อนเข้าสู่ 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ 2565 ตำรวจจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรใน 10 ข้อหาหลัก รวม 212,331 ราย

รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พอใจกับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยการจราจรและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยในวันแรกของช่วง “7 วันควบคุมเข้มข้น” สถิติในภาพรวมเมื่อเทียบกับวันเดียวกับสงกรานต์ปีก่อน ลดลงทุกตัวเลข ข้อมูลสถิติของวันที่ 11 เมษายน 2565 เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้ง วันเดียวกันปี 2564 อุบัติเหตุ 345 ครั้ง สถิติลดลง 108 ครั้ง คิดเป็น 31.30% มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 238 ราย ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 105 คน คิดเป็นลดลง 30.61% ผู้เสียชีวิต 26 คน ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 10 ราย คน คิดเป็น 27.78%

ขณะเดียวกัน สำหรับการบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหาหลัก วันแรกของช่วงควบคุมเข้มข้น (11 เมษายน) มีจำนวน 47,643 ราย จำแนกเป็น ไม่สวมหมวกนิรภัย 6,717 ราย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 1,218 ราย, เมาแล้วขับ 1,162 ราย, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 2,012 ราย, ไม่มีใบขับขี่ 9,311 ราย, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 25,207 ราย, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 1,195 ราย, ขับรถย้อนศร 546 ราย, แซงในที่คับขัน 81 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 194 ราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเบื่อความขัดแย้งในสตช.

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “หัวอกของคนเสพข่าวความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,040 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2567

เลขาฯ ก.ตร. แถลงผลประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ โดยชอบกฎหมาย

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่หวั่นตายเดี่ยว พร้อมรับทุกอย่าง ยันเซ็นปลด 'โจ๊ก' ยึดหลักสุจริต

'บิ๊กต่าย' ลั่นไม่คิดโดนเช็กบิล หลัง 'โจ๊ก' จ่อยื่น ป.ป.ช. ยันเซ็นปลดสุจริต ย้ำหากเกิดอะไรขึ้นพร้อมน้อมรับ ร้องโอ้โห ไม่เคยคิดนั่ง 'ผบ.ตร.' ไม่หวั่นตายเดี่ยว ยกธรรมะเข้าสู้

'บิ๊กต่อ' ยังไม่เข้า สตช. หลังหนังสือส่งตัวกลับยังไม่ถึงสำนักงานกำลังพล

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตลอดทั้งวันนี้ ได้มีสื่อมวลชนหลายสำนักเดินทางมารอติดตามความเคลื่อนไหวและการกลับเข้ามาทำงานวันแรกของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เอ๊ะยังไง! นายกฯ เซ็นคำสั่งเองส่งคืน 'บิ๊กต่อ' แต่ขอดูอีกรอบก่อนเผยแพร่

นายกฯ ขอดูคำสั่ง 'บิ๊กต่อ' กลับ ตร. ก่อนเผยเเพร่ วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป รับปัญหาวงการสีกากีมีมานาน ยันพยายามสะสางไม่ได้ทิ้ง ลั่นพบผิดฟันขั้นเด็ดขาดแน่