5 เม.ย.2565 - นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ให้สัมภาษณ์ ถึงการเพิกถอนเอกสิทธิถือครองที่ดิน น.ส.3 ก. ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุตรอีก 2 คน คือน.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า นางสมพร มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมที่ดินภายใน 15 วัน เมื่ออุทธรณ์ต่อกรมที่ดินแล้วไม่เป็นผล นางสมพรมีสิทธิไปฟ้องศาลปกครองได้ เพราะถือว่าการเพิกถอนเป็นคำสั่งทางปกครอง จึงต้องไปดูว่าศาลปกครองจะพิจารณาอย่างไร ส่วนตนยังไม่ได้ทราบว่านางสมพรยื่นเรื่องมาหรือยัง หากนางสมพรไม่ได้อุทธรณ์ก็ถือว่าจบ เพราะการเพิกถอนมีผลอยู่แล้ว และถือว่าไม่มีเอกสารสิทธินั้น โดยที่ดินดังกล่าวจะคืนสภาพเป็นที่ป่า การให้ศาลปกครองตรวจสอบถือเป็นเรื่องดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะศาลปกครองจะได้ดูพยานหลักฐานทั้งหมดว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางสมพร ระบุว่าถือครองที่ดินดังกล่าวมา 30 ปี ไม่มีปัญหา แต่เมื่อนายธนาธรเล่นการเมืองมีคดีเกิดขึ้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า กรณีนี้ให้ความเป็นธรรมกับนางสมพร เพราะนางสมพร ไปซื้อที่ดินต่อมาจริง แต่เมื่อมีการร้องเรียน ก็ต้องตรวจสอบซึ่งได้ความจริงว่า มีหนังสือจากกรมพัฒนาที่ดิน และกรมป่าไม้ มายืนยันว่าพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ป่าถาวร ซึ่งครม. ประกาศตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 ทางกรมที่ดินไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า การดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองต่อนายธนาธร นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ซึ่งได้กำชับกรมที่ดินว่าต้องให้ความเป็นธรรม เมื่อไปดูสารบบการจัดซื้อที่ดินจำนวน 60 แปลง หลายแปลงอาจจะอยู่ในเขตป่า ซึ่งทางนั้นก็รับทราบ และยินดีรับโอน จึงมีผลว่านางสมพร อาจจะรับรู้ตั้งแต่ก่อนโอนแล้วจึงเซ็นรับไว้
“ผมพยายามดูเรื่องนี้ เพราะเกรงกลัวที่จะอ้างว่าใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ผมได้กำชับทุกฝ่ายไปทำให้เกิดความธรรมที่สุด ซึ่งเมื่อผมมาดูแผนระวาง รวมถึงดูเจ้าหน้าที่เดินสำรวจและรับทราบรายงาน ก็ไม่มีทางอื่น เพราะระบบโครงข่ายการรังวัดด้วยดาวเทียมแบบจลน์(RTK GNSS Network) ที่ใช้ตรวจ พบความคลาดเคลื่อนน้อยมาก เพราะดูจากรูปถ่ายดาวเทียม ลงแผนที่เป๊ะหมด มีอยู่ 1 แปลงจาก 60 แปลงที่บางส่วนคาบเกี่ยวซึ่งถ้าคาบเกี่ยวนอกเขตก็ต้องให้เขา และให้เขาไป ในส่วนที่ไม่ติดก็ไปแก้โฉนดให้ถูกต้อง” นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะคาบเกี่ยวกับคดีอาญาหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของกรมที่ดิน ต้องไปดูว่าใครมีหน้าที่ดูแลเขตป่า เช่น กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ต้องว่าไป และใครมีอำนาจตามกฎหมายก็ต้องไปดูว่าสามารถดำเนินคดีอาญาได้หรือไม่ เพราะคดีอาญาต้องดูที่เจตนา ถ้าไม่มีเจตนาก็ว่ากันไป ถ้ามีเจตนาก็เข้าสู่คดีอาญา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กรมที่ดิน' โต้ยิบการรถไฟฯ ชี้คำพิพากษาศาลฎีกาผูกพัน 35 ราย ไม่ได้เหมารวม 5,083 ไร่
กรมที่ดินออกแถลงการณ์ว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการดำเนินการของ การรถไฟฯ เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดง
'วัชระ' ไล่บี้ ป.ป.ช. เร่งสอบ 2 กรณี ทุจริตรัฐสภาใหม่-กรมที่ดินขัดคำสั่งศาลปมเขากระโดง
นายวัชระ เพชรทอง เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเรื่องอธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณเขากระโดง อ.เมือง จ
เปิดข้อมูลใหม่ปม 'ปมกระโดง' พิรุธแผนที่การรถไฟฯรุกสิทธิชาวบ้าน
ปมพิพาทพื้นที่บริเวณเขากระโดง กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย (มท.2) และ “กรมที่ดิน” ลงพื้นรับฟังปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน และหน่วยราชการ ในพื้นที่เขากระโดงใน จังหวัดบุรีรัมย์
อธิบดีที่ดิน ชี้เพิกถอน 'เขากระโดง' หลักฐานต้องชัด 100% ต่าง 'คดีอัลไพน์' ทำนิติกรรมไม่ถูกต้อง
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการอ้างสิทธิในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.
'ทรงศักดิ์' ซัดพวกน่ารังเกียจใช้การเมืองละเมิดสิทธิประชาชน ปมที่ดินเขากระโดง
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่ประชาชนอาจสับสน ซึ่งกรมที่ดินได้ดำเนินตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
'มท.2' ควงอธิบดีที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทกับ รฟท.
'มท.2' ควงอธิบดีกรมที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทที่ดิน รฟท. ชาวบ้าน 2 ตำบล โชว์เอกสารสิทธินส.3 หลักฐานยันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เรียกร้องความยุติธรรม