จเรตำรวจ กำชับทุกหน่วยเร่งตรวจสอบข้อร้องเรียนเชิงรุกรักษาภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ ให้ 'การบ้าน 3 ข้อ' เปรียบเสมือนกับแพทย์ที่วินิจฉัยโรคและจ่ายยาให้คนไข้ได้ถูกต้อง อาการของโรคจะต้องทุเลาลง
25 มี.ค.2565 -ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุม รองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ของหน่วยที่ทำงานสัมผัสกับประชาชน รวม 14 หน่วย ได้แก่ บช.น., บช.ภ.1-9 บช.ก.,บช.ตชด.,บช.สอท.และ สตม.ผ่านระบบการประชุมทางไกล ( Video Conference) เพื่อติดตามการทำงานของแต่ละหน่วย ตามที่ได้ให้นโยบายงานจเรตำรวจกับทุกหน่วยไป ที่เรียกว่า “ การบ้าน 3 ข้อ”
การบ้านข้อที่ 1 คือ ให้แต่ละ บช. แต่ละ บก. ไปเร่งรัดการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนในความรับผิดชอบให้เสร็จสิ้นตามที่ ผบ.ตร.ได้สั่งการลงไป ตัวชี้วัดความสำเร็จในเรื่องนี้ก็คือ เรื่องร้องเรียนที่เกินกำหนดจะต้องเท่ากับศูนย์ เป้าหมายคือไม่ให้มีเรื่องร้องเรียนคงค้างเกินกำหนดเลย ซึ่ง พล.ต.อ.วิสนุ เน้นให้เร่งรัดการตรวจสอบการร้องเรียนจากประชาชนในเรื่องต่างๆให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนคงค้างที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้นเป็นจำนวนมาก โดยย้ำว่าจะต้องเห็นใจประชาชนที่ได้รับความเเดือดร้อนหรือคับข้องใจถึงได้มีการร้องเรียนเข้ามา และกำชับให้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ตามที่ ผบ.ตร.ได้อนุมัติหลักเกณฑ์ไว้ คือ ภายใน 60 วัน และต้องแจ้งผลให้ผู้ร้องเรียนทราบในทุกกรณี รวมทั้งให้มีการประเมินความพึงพอใจของผู้ร้องเรียนเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการทำงานต่อไปด้วย
การบ้านข้อที่ 2 คือ ให้แต่ละ บช.- บก. ออกตรวจราชการหน่วยในสังกัดของตน อย่างมีคุณภาพครบ 100% ภายในกรอบเวลาที่กำหนด แล้วให้แต่ละหน่วยจัดลำดับมา ซึ่งจะให้สำนักงานจเรตำรวจลงไปตรวจซ้ำ เพื่อเป็นการรีเช็คว่าสถานีตำรวจที่มีผลการปฏิบัติดีเด่นดังกล่าว ดีเด่นจริงหรือไม่ อย่างไร นำมาเป็นแบบอย่างได้หรือไม่ ส่วนสถานีตำรวจที่พบว่ามีผลการปฏิบัติที่ควรจะต้องแก้ไขปรับปรุงนั้น ก็ให้ไปดูว่ามีปัญหาอย่างไร มีสาเหตุเกิดจากอะไร ปัญหาเกิดจากตัวบุคคลหรือว่ามีเรื่องใดที่หน่วยเหนือควรที่จะต้องเข้าไปสนับสนุนเพื่อแก้ปัญหาหรือไม่
สำหรับการบ้านข้อ 3 คือ ให้แต่ละ ผบช.- ผบก.ไปดูข้อมูลการร้องเรียนและการดำเนินการทางวินัยของหน่วย แล้วนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุ แล้ววางมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นการทำงานเชิงรุก ไปดูสาเหตุที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนคับข้องใจที่ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมา แล้วให้ผู้บังคับบัญชาวางแนวทาง วางมาตรการเพื่อ มิให้ปัญหาเดิมๆเกิดซ้ำๆขึ้นมาอีก ซึ่งหากแก้ปัญหาได้ตรงจุดวางมาตรการได้ถูกต้อง ตัวเลขการร้องเรียนจะต้องลดลง ซึ่งตัวชี้วัดความสำเร็จ ในเรื่องนี้ก็คือ สถิติเรื่องร้องเรียนและสถิติการกระทำผิดของตำรวจจะต้องลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
โดย พล.ต.อ.วิสนุ ได้เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า” การทำงานในลักษณะนี้ก็เปรียบเสมือนกับแพทย์ที่วินิจฉัยโรคและจ่ายยาให้คนไข้ได้ถูกต้อง อาการของโรคจะต้องทุเลาลง ดังนั้นหากได้นำนโยบายไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว ตัวเลขการร้องเรียนจะสะท้อนให้เห็น “ พร้อมกับย้ำว่า เราต้องใช้งานจเรตำรวจเป็นกลไกในการแก้ปัญหาให้ประชาชน และใช้เป็นกลไกในการรักษามาตรฐานการทำงานของหน่วยปฏิบัติ ทั้งนี้ ก็เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในสายตาของประชาชนเอาไว้ให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจเตรียมโอนคดี 'ดิไอคอน' ให้ DSI พบยอดผู้เสียหายเฉียดหมื่น
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป
ตร. จัดพิธีบำเพ็ญกุศล น้อมรำลึก 'ในหลวง ร.9'
ตร. จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 'ในหลวง ร.9'
เตือนเทรนด์ใหม่มิจฉาชีพ เปิดบัญชีปลอม ลงโฆษณาผ่าน Reels
เตือนเทรนด์ใหม่มิจฉาชีพ เปิดบัญชีปลอม ลงโฆษณาผ่าน Reels หลอกขายสินค้าราคาถูก
ผ่านฉลุย ‘สุวรรณภูมิ‘ เทสต์รันเวย์เส้นที่ 3 พร้อมเปิดใช้ปลายปี 67
‘สุวรรณภูมิ’ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ นำเครื่องบิน A320 ทำการทดลองปฏิบัติการ ทางวิ่งเส้นที่ 3 เน้นย้ำความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการปลายปี67 หวังเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการขยายตัวของการจราจรทางอากาศในอนาคต
ระวังไว้! สตช. เตือนระวังมิจฉาชีพเลียนแบบโดเมน “.go.th”
สตช.เตือนระวังมิจฉาชีพเลียนแบบโดเมน “.go.th” ของแท้จะต้องอยู่ช่องแรกถัดจาก https:// เท่านั้น
จบข่าว ก.พ.ค.ตร. เคาะแล้ว! คำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย
นายธวัชชัย ไทยเขียว หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และรองโฆษก ก.พ.ค.ตร. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ร้องทุกข์