22 มี.ค.2565- ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นจำเลยที่ และ บริษัท หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ จำกัด และบริษัท สารสู่อนาคต จำกัด เป็นจำเลยที่ 2 -3 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่ นายสมบูรณ์ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 ก.พ.63 ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าจากกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ทำไมประธานสภาจึงไม่ให้อธิบายปมถวายสัตย์ปฏิญาณของครม. โดยกล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรรับใช้ฝ่ายบริหารหรือไม่ นั้น ตนขอเรียนต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า ให้จำสัญญาที่ชอบย้ำคิดย้ำทำอยู่ตลอดว่า ในส่วนไม่เคยรับใช้ใคร ทำงานบนเส้นทางการเมืองที่สุจริตมานาน 50 ปี ไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตเหมือนบางคน โดยเฉพาะเรื่องความซื่อสัตย์นั้นนายชวนได้รับการยอมรับนับถือของคนทั้งประเทศและทั่วโลก และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะต้องรู้ว่าการให้เกียรติต่อประธานสถาบันที่ตนเองสังกัดอยู่นั้น เป็นสิ่งที่พึงกระทำ การที่คนจะให้เกียรติเราคือเราต้องให้เกียรติผู้อื่น
ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่านายชวนใช้สิทธิ์อะไร มาอ้างว่าเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่สามารถนำมาอภิปรายได้นั้น ขอเรียนว่าบางครั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อาจจะเป็นผู้แทนสภาราษฎรในสมัยนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนสมัยแรก หรือสมัยที่ 10 ก็ไม่ได้วัดว่าคนๆนั้นเข้าใจในเรื่องข้อบังคับ หรือกฎหมายหรือไม่ เพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องยึดกฎหมาย รัฐธรรมนูญ ข้อบังคับและข้อตกลงในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การทำหน้าที่เป็นไปด้วยความราบรื่น โดยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ประธานสภา และรองประธานสภาทั้งสองคน วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน มาร่วมตกลงประชุมปรึกษาหารือกันเรื่องการ พูดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตกลงว่าจะอภิปรายกัน ตั้งแต่วันที่24 ก.พ.- 27 ก.พ. เวลา 19.00 น. และในวันที่ 28 กพ.เวลา 09.30 น. จะมีการลงมติ มีผู้อภิปรายของฝ่ายค้าน 44 คน มีผู้ถูกอภิปราย 6 คน เรื่องใดอภิปรายได้และเรื่องใดอภิปรายไม่ได้
เหตุผลเรื่องประเด็นถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของครม. ผมอยากเรียนว่าถ้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ขี้เกียจ ขยันเหมือนกับคนอื่นที่มาประชุม ก็จะทราบเหตุผล แต่กลับมากล่าวหา มาด่าว่า ตัวแทนทั้งหลายที่มาประชุมเป็นไอ้เวร ความจริงแล้วคนที่ควรจะถูก ตำหนิหรือถูกด่าควรจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เอง ทั้งไอ้เวร ทั้งไอ้ขี้เกียจ เขามาทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการประชุม แต่กลับมากล่าวหาเขา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ตอบโต้ทางการเมือง แม้จะมีคำกระทบกระทั่งกันแต่ไม่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 ในฐานะเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะที่มีความใกล้ชิดกับนายชวน และในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ชอบที่จะแสดงความคิดเห็นเพื่อติชม ด้วยความชอบธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดหมิ่นประมาทตามฟ้อง
กรณีจำเลยที่ 2 และ 3 ที่นำคำแถลงข่าวของจำเลยที่ 1 ไปเผยแพร่จึงไม่เป็นความผิดเช่นกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยรอด 'เพื่อไทย' ไม่แน่
เราอาจยัง "ไม่รู้สึกตัวเอง" ก็อยากบอกให้ทุกคนได้ "รับรู้สภาพ" ไว้ว่า
'ความลับไม่มีในโลก'
"สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมทำโทษซ้ำ ใส่ผู้บาปเอง"
'เช่า ๙๙ ปี=ขายแผ่นดิน'
ถูกคนไทยด้วยกันด่า "ขายแผ่นดิน"...ไม่เจ็บ ถูก "คนต่างชาติ" ด่า นี่ซี....
คำตอบ 'ชาวบ้าน' ถึงลุงตู่
มีคำสองคำที่เหมือน แต่ "ไม่เหมือน" ที่รัฐบาลเลือกตั้งมักทำ โดยเข้าใจว่า "เหมือน"
"กฎหมาย" ใน "กฎกรรม"
กับผลเลือกตั้งนายก "อบจ.ปทุมธานี" ระหว่าง "ลุงชาญใจดี" กับ "แจ๊ส มีวันนี้เพราะพี่ให้"
'เศรษฐา' ที่ไม่รู้ 'หน้าที่'
คำสอน "ศาสนา-วิชาการ-ทฤษฎี-ลัทธิ-ตำรา"