20 มี.ค.2565-นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตอนนี้แก็งมิจฉาชีพเริ่มได้ใจตระเวนหลอกลวงประชาชนได้ทุกวัน เนื่องจากกฎหมายของประเทศไทยล้าหลัง ขั้นตอนล่าช้า แถมยังขาดเครื่องมือในการเอาผิดอย่างจริงจัง ต่างจากประเทศอื่นอย่างจีน ซึ่งมีหน่วยงานเฉพาะเจ้าหน้าที่ก็กวาดล้างกันทุกวัน ขณะที่ของไทยกลับต้องผ่านหน่วยงาน ปปง. ไปสู่พนักงานอัยการเพื่อยื่นเรื่องส่งฟ้องศาล ใช้เวลานานกว่าจะสามารถเรียกทรัพย์สินเสียหายคืน
“มีกฎหมายฟอกเงิน การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม มีแต่เปลือกปฎิบัติไม่ได้จริง ล่าสุดมีคนส่งเรื่องให้ผมเขาถูกฉ้อโกงจากเฟซบุ๊กไปแจ้งเรื่องกับโรงพักเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่สามารถตามตัวผู้ก่อเหตุได้ เพราะกระทรวงดิจิทัลฯแจ้งว่าแอคเค้าท์อยู่ต่างประเทศถ้ากฎหมายเข้มแข็งอาชญกรไม่กล้าทำ”
นายสามารถ กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลและบริษัทผู้ให้บริการมือถือจำเป็นต้องร่วมรับผิดชอบดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย โดย กสทช. ต้องมีมาตราการสั่้งตรงไปยังค่ายมือถือต่างๆ ที่จะต้องสามารถบล็อก หรือตรวจจับข้อความ sms ที่ส่งไปยังปลายทางด้วย เพราะปัญหานี้เข้าข่ายพยายามฉ้อโกงคุกคาม มีโทษทางอาญา หากบริษัทค่ายใดไม่ให้ความร่วมมือ คู่สัญญา อย่าง กทสช. ก็ต้องกล้าเพิกถอนใบอนุญาต
“วันนี้เราต้องใช้เทคโนโลยีปราปรามหาจุดหน่วยงานที่รับผิดชอบกฎหมายต้องทันสมัย ถามว่าตั้งใจทำหรือเปล่า? ตอนนี้กลายเป็นว่า ชาวบ้านต้องระวังตัวเอง มันต้องไม่มีข้อความส่งให้ตั้งแต่เริ่มแรกไม่ใช่มาเตือนหมายเลขโน้นนี้ให้ระวัง เขาเองเปลี่ยนเบอร์ไปเรื่อยๆ ขนาดผู้บัญชาการไซเบอร์รับสายเองอาชญากรยังไม่วางสายเลย ไม่เกรงกลัวกฎหมายกันเลย ผมอยากสะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายเราบังคับไม่ได้ไม่รุนแรง”
ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมาด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ 1.SMS ที่ส่งผ่านทางมือถือ ว่าเหยื่อจะได้รับเงินกู้จากหน่วยงานน่าเชื่อถือ อย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย พอกดลิงค์จะเข้าสู่โหมดตอบข้อมูลส่วนตัว จนถูกดึงเงินออกจากบัญชีเหยื่อ 2. คือ การชักชวนลงทุนเงินกู้ 5 แสนบาท แต่แก๊งมิจฉาชีพจะแจ้งว่าจะต้องมีการฝากเงินก่อน เหยื่อถึงจะดึงเงินออกมาได้ ท้ายสุดเหยื่อจะหลงกลฝากเงินเรื่อยๆจนตามไม่ได้ 3. มีสายติดต่อเข้ามาพูดคุย เสมือนคนรู้จัก แจ้งเรื่องการรับพัสดุ จนกลายเป็นการหลอกโอนเงิน ล่าสุดมีผู้เสียหาย เป็นพ่อค้าซาลาเปา โดนเกือบไป4ล้านบาท และ คนพิการก็ยังโดนหลอกลวงให้ลงทุน วันนี้ท่านนายกฯพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็น 10 เรื่องด่วน ที่ต้องเร่งทำ แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านโดนหลอกลวงทุกวัน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเรื่องนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง แต่ทำไมพ่อแม่พี่น้องประชาชนยังตกเป็นเหยื่อ ผมจึงขอให้ท่านนายกฯเอาจริง ใครทำไม่ได้ก็เปลี่ยนตัว เพราะความเดือดร้อนประชาชนรอไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นักกฎหมาย' โต้ยิบ 'กรมที่ดิน' ปมที่ดินเขากระโดง
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีกรมที่ดินชี้แจง 5 ประเด็นเกี่ยวกับที่ดิน 'เขากระโดง' ว่าคำแถลงของกรมที่ดิ
คุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'เมียตั้ม ษิทรา' หวั่นหลบหนี
ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้
เผยแจ้งความออนไลน์ 1 มี.ค 65 - 31 ต.ค. 67 เฉลี่ยเสียหายวันละ 7.7 ล้านบาท
'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค 65 – 31 ต.ค.67 มูลค่าความเสียหายรวม 7.48 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 77 ล้านบาทต่อวัน
'ทนายตั้ม' โผล่ฉายหนังคนละม้วน อ้างปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน เป็นมิจฉาชีพหลอก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ผสานพลัง AIS ยกระดับเดินหน้าภารกิจปกป้องประชาชน เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร กดแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพได้ทันที หลังวางสาย
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB จับมือ AIS ยกระดับการปกป้องลูกค้า และ ประชาชน จากมิจฉาชีพต่อเนื่องไปอีกขั้น เปิดตัวบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร
‘พปชร.’ ปลดแอก ‘สามารถ’ โยนระเบิดเข้า ‘เพื่อไทย’ ต่อ
‘พลังประชารัฐ’ ฝั่งบ้านป่าฯ สถาปนาตัวเองเป็น ‘ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น’ เต็มตัว