“เพื่อไทย” แถลงจับมือ “ชาติไทยพัฒนา” ตั้งรัฐบาล ย้ำ จุดยืนร่วมกันฝ่าวิกฤต ชี้ ยิ่งประวิงเวลาออกไป ยิ่งเสียหาย ยัน คุย “ก้าวไกล” แค่ชวนปลดล็อก รธน. แทงกั๊ก เชิญ 3 พรรคร่วมรัฐบาล แต่มั่นใจเสียงโหวตเพียงพอม้วนเดียวจบ ยินดีรับฟังเสียงวิจารณ์เพื่อไทยการละคร
10 ส.ค.2566 - ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยขัย รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล
ภายหลังจาก นพ.ชลน่าน อ่านแถลงการณ์จบแล้ว นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอบคุณพรรค พท.ที่ให้เกียรติส่งเทียบเชิญมาหลังจากที่เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ได้ไปหารือพูดคุยถึงแนวทางจุดยืนของพรรค ซึ่งการได้รับเกียรติเชิญในวันนี้แสดงให้เห็นถึงการที่พรรค พท.และพรรค ชทพ.มีแนวคิดนโยบายทัศนคติในหลายเรื่องที่ไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถทำงานด้วยกันได้ น่าจะเป็นผลดีกับประเทศที่สุด ทั้งนี้ เรายินดีที่จะตอบรับการเชื้อเชิญของพรรค พท. ในการเข้าร่วมทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงเชื่อมั่นในศักยภาพของพรรค พท.ในการสร้างความมั่นคงที่จะทำนโยบายให้ก้าวไปข้างหน้า ส่วนกรณีที่พรรค พท.ไปคุยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อหาเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นหน้าที่ของทุกพรรคการเมืองที่ต้องช่วยกันหาเสียง เป็นสิทธิของพรรคพท.หรือแม้แต่พรรคชทพ.ที่ตอบรับมาร่วมรัฐบาลนั้น ก็ต้องมาช่วยหาคะแนน เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตของสว.ที่มองการที่พรรค พท.ไปขอคะแนนพรรค ก.ก.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี อาจจะมีการดึงพรรค ก.ก.มาร่วมรัฐบาลภายหลังว่า พรรค พท. พรรคก.ก.พยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน แต่ไม่สำเร็จ ไม่ได้รับการสนุบสมนุนจากรัฐสภา เราพยายามอย่างถึงที่สุดในการขอคะแนนทุกฝ่าย แต่ถ้าเราเดินทางเดิมก็จะได้แค่ 324 เสียง จึงต้องหาทางจากทุกฝ่าย และจากการสอบถามทุกพรรคการเมืองอย่างเปิดเผย ได้คำตอบว่าไม่ว่าจะแก้ไขหรือไม่แก้ไขมาตรา 112 มี 4 พรรคการเมืองก็จะไม่ลงคะแนนให้พรรค ก.ก. และไม่ร่วมรัฐบาลด้วย และมี 1 พรรคบอกหากไม่แตะมาตรา 112 ก็จะร่วมรัฐบาลได้ ดังนั้น พรรค พท.จึงมีความจำเป็นที่จะหาเสียงเพิ่มจากพรรคอื่น เราจำยอมต้องทำในการไปหาเสียงจากพรรคอื่น และไม่เคยเกลียด พรรค ก.ก. แต่หากปล่อยประเทศเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อประชาชน กรณีที่สว.มีความกังวลดังกล่าว เราประกาศไปแล้วว่าไม่มีพรรค ก.ก. การที่เราไปคุยกับพรรค ก.ก.มีเจตจำนงเพื่อสอบถามว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะมาปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่ได้มีการเชิญพรรค ก.ก.มาร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ และเราสามารถตอบความกังวลของสว.ได้
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า การไปพบพรรค ก.ก.เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ไม่ใช่สิ่งผิดปกติที่พรรค พท.กำลังดำเนินการ เพราะเราไปทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกคนทั้งสส.และสว. เพราะนั่นคือการปฏิบัติที่เป็นจริง ที่ต้องการว่าเราต้องการสลายขั้วขัดแย้งทุกพรรคการเมือง แต่ยืนยันว่าการไปเมื่อวานนี้ไม่ได้เชิญพรรค ก.ก.มาร่วมรัฐบาล เพราะเราชัดเจนอยู่แล้วว่าตั้งแต่เราแยกกันในเอ็มโอยู พรรค ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้าน พรรคเรามาเป็นรัฐบาล การที่เราไปเมื่อวานนี้คือการรับฟังความเห็นเพื่อให้การตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นมิติการเมืองใหม่
เมื่อถามว่า หากเสียงไม่พอ จะต้องเชิญอีก 3 พรรคคือประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสซ.) มาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ได้ไปเชิญใครมาร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจนทุกอย่าง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือเชิญมาโหวตให้ความไว้วางใจให้พรรค พท. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพท. แต่ทุกพรรคเราไปพบมาหมดแล้ว แต่กระบวนการที่จะมาสู่ขั้นตอนการสรุปคงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการกรอบเวลา เราจะไม่หยุดสิ่งที่เราคิดและดำเนินการ จากนี้พรรคใดพร้อมเราก็พร้อมที่จะเปิด แต่พรรคใดที่ยังไม่พร้อมเราก็จะไม่ไปคาดคั้น แต่ให้พิสูจน์ให้เราเห็นในวันที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เรายืนยันว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งมาตลอดและก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีเราจะได้เสียงเพียงพอแน่นอน เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะเป็นแบบม้วนเดียวจบ
เมื่อถามว่า คุยกับพรรคปชป. พรรคพปชร. และพรรครทสช. เพื่อให้โหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรค พท.เหมือนที่คุยกับพรรค ก.ก.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คุยสถานการณ์กับคุยเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี คุยทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ตนคิดว่าไม่ควรถามเรื่องแบบนี้แล้ว
นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า หนทางการจัดตั้งรัฐบาลของ พรรค พท.เราพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด อะไรที่เป็นความต้องการส่วนใหญ่ที่เราต้องการจะทำได้ เราก็พยายามหาทางนั้นเป็นทางเลือกแรก เช่น ไปเจรจาให้พรรคการเมืองและสว.ลงคะแนนให้พรรคพท.โดยไม่มีเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล ถ้าทำสำเร็จก็ตอบสนองความต้องการประชาชนได้ แต่หากทำไม่ได้ก็ต้องมีทางเลือกอื่นบนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ยอมรับว่าพรรพค พท.ใช้ต้นทุนสูงมากในการทำงานครั้งนี้ ที่ผ่านมาเรารณรงค์เรื่องแลนด์สไลด์ แต่ทำไม่สำเร็จก็ต้องยอมรับ เราใช้สถานการณ์เช่นนี้มาบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า หากพรรค ปชป. และพรรคของ 2 ลุงโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรค พท. จะดึง 3 พรรคนี้มาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลจะมีเสถียรภาพต้องมีเสียงข้างมาก ขณะนี้เรามั่นใจว่าเรามีเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง แต่จะเด็ดขาดถึงขั้น 280-300 เสียงหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนปฏิบัติ เรามีข้อจำกัดในทางเลือกมาก แต่ก็พยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุดบนพื้นฐานความเป็นไปได้ แต่หากเป็นไปไม่ได้ทางเลือกต่อมาเราก็ต้องเลือก เพราะเชื่อว่าหากทำทางเลือกนี้ได้ ไม่ใช่แค่เพื่อเรา เราจะทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพื่อไทยการละคร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณเสียงของพี่น้องประชาชน เราเป็นผู้แทนประชาชน เป็นองค์กรทางการเมืองที่อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน ทุกคำวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง ส่วนจะถูกใจหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิธีคิดและฐานจิตของแต่ละคน เราก็ยินดีที่จะรับมาอะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะมาปรับใช้ อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ก็รับฟังมาแล้วผ่านไปส่วนกรณีที่สส.พรรคก.ก.ใช้เฟซบุ๊กสอบถามประชาชนว่าจะโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท.หรือไม่นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ใช้เสียงของประชาชนประกอบการพิจารณา แต่การรับฟังความเห็นส่วนใดส่วนหนึ่งมาประกอบการตัดสินใจก็ต้องคำนึงพอสมควร ประชากรไทยมีเยอะ ซึ่งพรรคการเมืองก็จะมีคนสนับสนุนของตนเองที่เป็นกลุ่ม และตนเชื่อว่ายังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่จะตัดสินในอนาคตอีกเยอะ ฉะนั้น เราก็รับฟังหากพรรค ก.ก.มีข้อเสนออย่างไร โดยเฉพาะจากฐานประชาชนเราก็ยินดีรับฟัง หากตอบเราว่าไม่สามารถสนับสนุนเราได้ เราก็จะใช้ทางเลือกที่เรามีแนวทางอื่นๆ ในการทำงานต่อไป ไม่ได้ยึดติด ไม่ได้อ้าง ก.ก. อย่าไปพูดทำนองว่าพรรค พท.ไปเล่นละครที่จะเป็นข้ออ้างในการร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งสิ่งที่เราทำ เราทำบนพื้นฐานของข้อเสนอแนะทุกช่องทาง ทำแล้วได้ผลหรือไม่ได้เราก็จะยังเดินหน้าต่อไป
นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า เราปฏิเสธความคิดของคนที่เห็นแตกต่างกันไม่ได้ สิ่งที่วันนี้พรรค พท.ยืนยันและจะได้รับการมองให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เราตั้งใจที่จะสลายความขัดแย้งจริงๆ ตนคิดว่าเรามีหน้าที่ที่จะทำงานและพิสูจน์ความจริงใจในการที่จะบริหารประเทศ และความตั้งใจของพรรค พท.จะเป็นบทสรุปในอนาคต เราได้กล่าวไปแล้วว่าหากเราคิดไม่ดีกับประเทศหรือเราตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เราก็พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เราตั้งใจทำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองเลขาฯเพื่อไทย ฟาดกลับ 'ไอซ์ รักชนก' แซะแจกเงินหมื่นช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ใจเย็นๆ นิดนะคะ รัฐบาลตั้งใจส่งเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือกลุ่มเป้าหมายให้เร็วที่สุด
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท