'วันนอร์' แจงเลื่อนโหวตนายกฯรอบ 3 ไม่เกี่ยวการเมือง เบรก 'ก้าวไกล' ทบทวนมติ เสนอชื่อ 'พิธา' ซ้ำ

'วันนอร์' แจงเลื่อนโหวตนายกฯรอบ 3 ไม่เกี่ยวการเมือง ไม่จำเป็น 'ก้าวไกล' ชงทบทวนมติ เสนอชื่อ 'พิธา'ซ้ำ บอกเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว หากรัฐสภาวินิจฉัยขัดแย้ง อาจเกิดปัญหา

26 ก.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการสั่งงดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาบุคคลที่สมควรได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค. ว่า เหตุที่งดการประชุมวันที่ 27 ก.ค. นั้น เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติของรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเมื่อมีผู้สงสัยก็ส่งเรื่องให้องค์กรสูงสุด เพื่อให้วินิจฉัยแนวทางปฏิบัติ เป็นแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนได้ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันธ์กับทุกองค์กร คำฟ้องศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ดีกับทุกฝ่าย

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะกระทบต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากเลือกนายกฯไปแล้วศาลชี้ว่า ทำไม่ได้ ก็จะเกิดความเสียหายย้อนกลับ ไม่ใช่แค่เรื่องเวลา แต่บุคคลที่เราเลือกเป็นนายกฯก็จะเสียหายไปด้วย รวมถึงกระบวนการต่อไปก็จะเกิดความเสียหาย จึงต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีอยู่หลายแนวทาง หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องก็สามารถดำเนินการต่อ หากมีคำสั่งให้ชะลอเราก็ต้องชะลอ ก็มีโอกาสเสนอชื่อซ้ำได้

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เกี่ยวกับการปฏิบัติของรัฐสภา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและสมาชิกก็ไม่ต้องเสียเวลาโดยใช่เหตุ ประกอบกับอีกเหตุผลหนึ่ง ว่าองค์ประชุมในวันที่ 27 ก.ค. อาจจะมีปัญหา เนื่องจากมีสมาชิกหลายคนแจ้งมาว่าในวันที่ 28 ก.ค. จะมีพระราชพิธีสำคัญทุกจังหวัด ทั้ง สส. และ สว. ต้องรีบเดินทางไปเข้าร่วม หากประชุมในวันที่ 27 ก.ค. อาจจะกลับไปไม่ทันช่วงเช้าหรือสมาชิกอาจจะไม่มาประชุมเลย

เมื่อถามว่าวันโหวตนายกฯครั้งต่อไปจะเริ่มวันที่เท่าไหร่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ หากไม่รับคำร้องก็สามารถเปิดการประชุมได้เลย แต่หากศาลรับคำร้องจะต้องดูว่าให้ชะลอการประชุมหรือไม่ หากไม่มีคำสั่งให้ชะลอแล้วเราควรจะรอหรือไม่ ก็จะต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะหากรอนานเกินไปก็จะเกิดความเสียหายเหมือนกัน แต่ตนมองว่าศาลรัฐธรรมนูญคงเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์พิเศษ จำเป็นที่จะต้องมีนายกฯ ศาลรัฐธรรมนูญคงตระหนักและพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว แต่เราก็ไม่สามารถไปคาดคั้นได้

“หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องการเปิดประชุมรัฐสภาจะสามารถเกิดขึ้นได้ทันที ที่สามารถออกหนังสือเรียกประชุมได้ ผมไม่อยากให้รอ เสียเวลาแม้แต่น้อย เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องก็จะเร็วแน่นอน” ประธานรัฐสภา กล่าว

เมื่อถามว่า การเสนอญัตติ ขอให้ที่ประชุมสภาทบทวนมติที่เคยลงมติไปแล้ว สามารถทำได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากมีอีกองค์กรหนึ่งเช่นรัฐสภาไปวินิจฉัยด้วย และผลออกมาไม่ตรงกันก็จะเกิดปัญหาความขัดแย้งในการปฏิบัติ ซึ่งความจริงรัฐสภาได้วินิจฉัยไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ค. มีผู้เห็นแย้งว่าขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตนคาดว่าน่าจะได้ข้อยุติ ไม่ทราบว่ารัฐสภามีความจำเป็นต้องวินิจฉัยหรือไม่ แต่ก็สามารถปรึกษาหารือได้ แต่ต้องดูว่าจะทำได้โดยมีปัญหาหรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

ถามว่า พรรคก้าวไกลมองว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมาแทรกแซงรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากทำแล้วไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เขาก็ทำ แต่หากทำแล้วขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ ก็ต้องว่ากันอีกที

ถามด้วยว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องแล้ว ในวันที่ 9 ส.ค.จะสามารถนัดประชุมเพื่อโหวตนายกฯได้หรือไม่ เนื่องจากการจัดประชุมรัฐสภาจะต้องแจ้งอย่างน้อยก่อน3 วัน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ประธานรัฐสภาสามารถใช้อำนาจในการนัดประชุมวันถัดไปทันทีหลังศาลมีมติไม่รับคำร้องได้เลย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระเตง‘พ่อนายกฯ’ แก้กม.ลูกปมสมาชิก/‘ภท.-รทสช.’ยี้รื้อจริยธรรม

“วันนอร์” พลิกเตรียมชำเรารัฐธรรมนูญก่อนกลาง ต.ค. “ชูศักดิ์” ขยันจัดเตรียมชงแก้ไขกฎหมายลูก รีบปัดไม่เกี่ยวกับเอื้อนายใหญ่