'รทสช.​' นัดประชุมพรรค 26 ก.ค. หารือดีล 'พท.'

‘ธนกร’ ​ เผย​ รทสช.​ นัดประชุมสส.​- กก.บห. 26 ก.ค. ปมเจรจากับ พท. ย้ำขณะนี้ยังไม่ได้ร่วมรัฐบาล ถามด้อมส้ม​ ประเทศไทยมี ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ได้คนเดียวหรือ

24 ก.ค. 2566 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ​ กล่าวถึงท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังเดินทางร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะเป็นการส่งสัญญาณร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่​ ว่า​ เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์​ สาลีรัฐวิภาค​ หัวหน้าพรรค ได้แสดงจุดยืนไปแล้ว แต่จะร่วมกันหรือไม่ต้องมาหารือร่วมกันภายในพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุม สส. ในวันพุธที่ 26 ก.ค. เวลา 16.00 น.​ โดยหัวหน้าและเลขาธิการพรรค​ จะนำผลการหารือมาพูดคุยในที่ประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรค พร้อมกับย้ำว่าก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเคยแสดงเจตจำนงค์ไปแล้วว่ามีแนวคิดอย่างไร​

ส่วนทิศทางแนวโน้มของ สส.รวมไทยสร้างชาติ ใน​ขณะนี้มีความคิดเห็นอย่างไรนั้น นายธนกร กล่าวว่า สส. ภายในพรรคเป็นเอกภาพ​ ฉะนั้น การพูดคุยเจรจาถ้ามีเงื่อนไขทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตนก็คิดว่าสส. ของพรรค ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ในฐานะอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่ หลังการหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย​ นายธนกร กล่าวย้ำว่า​ พลเอกประยุทธ์​ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว แต่เท่าที่ได้พูดคุยและทำงานกับพลเอกประยุทธ์อยู่​ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้วนั้น​ ซึ่งการที่ รทสช. ไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร

“การที่พลเอกประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดทางให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมทางทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ​ เนื่องจากที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ก็เปรยตลอดว่าหากถึงเวลาที่เหมาะสม ท่านก็จะต้องวางมือ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่พลเอกประยุทธ์ คิดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากทำงานให้ประเทศชาติมากว่า 8-9 ปี ถึงเวลาที่เหมาะสมที่ท่านต้องพักผ่อน และหาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติในมิติ ซึ่งผมก็เชื่ออยู่แล้วว่าพลเอกประยุทธ์พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศชาติ” นายธนกร ระบุ

เมื่อถามถึงกรณี นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ออกมาระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคในลำดับที่ 3 จะต้องรัฐบาล จะถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ นายธนกร​ กล่าวว่า​ ตามหลักการพรรคอันดับ 1 จัดตั้งไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคในลำดับที่ 2 และหากพรรคในลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เป็นไปตามหลักการทั่วไป​ ซึ่งตนก็เห็นใจพรรคเพื่อไทย เหมือนมติของ 8 พรรคร่วมให้ไปแสวงหาคะแนนเพิ่ม ในแนวทางต่างๆ เมื่อพรรคเพื่อไทยไปแสวงหาแกนนำพรรคก้าวไกลก็กลับเหน็บแนม​ และสมาชิกพรรคก้าวไกลก็บุกไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย และมีการใช้แป้งเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวาน​ ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสม​ พร้อมกับระบุว่าเมื่อท่านเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจระบอบประชาธิปไตย และควรทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่รักใคร่ชอบพอ เพราะบรรยากาศแบบนี้เหมือนท่านปล่อย ซึ่งมันเป็นทฤษฎี 2 ขา นำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมต่างๆสามารถทำได้เป็นไปตามที่นายสมบัติ​ บุญงามอนงค์​ หรือบก.ลายจุด​ จัดกิจกรรม ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเพราะทำตามกฎหมาย

“แต่แกนนำจะตั้งรัฐบาลอันดับ 1 คือวันนี้พอเป็นนายกฯ ไม่ได้​ ไม่มีใครเป็นได้แล้วหรือ นอกจากคุณพิธา​ ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมาหากอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ ก็อันดับ 2 ตั้งไป เป็นเรื่องปกติมากทางการเมือง และที่บอกว่ารอไปสัก 10 เดือน ส่วนตัวมองว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จกลไกการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีก็ควรเดินหน้าไป ไม่ควร​ แม้มีอุปสรรคบ้าง เพราะมันเป็นการเมืองแบบรัฐสภา​ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ไม่ควรรอถึง 10 เดือน เพราะประเทศเสียหาย และประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ และนักธุรกิจก็เฝ้ารอดูอยู่” รองหัวหน้าพรรค รทสช. ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายภายในพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ จะทำให้ MOU​ 8 พรรคร่วมล่มหรือไม่​ นายธนกร​ ปฏิเสธว่า​ ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ตนเห็นบรรยากาศแล้วที่มีการนำแป้งไปโรยนั้น ก็สงสาร นายสันติ​ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะเลอะแป้งไปถึงศีรษะ ซึ่งมันไม่ควรมีบรรยากาศแบบนี้ เนื่องจากเป็นการเจรจาตามกรอบที่พรรคร่วมแตกพรรคได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย​ โดบในการเจรจาเบื้องต้นก็ต้องมีการพูดคุยว่าเขาคิดกันอย่างไร และมันยังไม่ได้ไปถึงจุดร่วมรัฐบาลกันเลย และเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้แล้วในอนาคตตนมองว่าก็อาจจะยุ่งยากเหมือนกัน

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อไทยควรจะบอกเลิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายธนกรปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่ขอก้าวล่วง พร้อมย้ำว่า หากพรรคในลำดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็ควรเป็นพรรคในลำดับที่ 2 หากพรรคลำดับ 2 ไม่ได้ก็ควรเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกข์พรรคการเมืองควรเข้าใจ และคิดว่าทุกพรรคที่ได้รับการเชิญไปพูดคุยก็เข้าใจ ไม่ใช่ว่าถูกเชิญไปพูดคุยแล้วจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้เราก็ไม่รู้ แต่นี่เป็นการเจรจาในเบื้องต้น

ส่วนท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมออกจากพรรคร่วมรัฐบาลนั้น​ นายธนกร​ ระบุว่า “แบบนี้มันเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้วเขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาอย่างนี้ วันหนึ่งเมื่อหมั้นกันแล้วพ่อแม่คลุมถุงชนมาเขาก็ยังเลิกกันได้เลย​ เพราะมันไม่ได้รักกันด้วยหัวใจไง ฉะนั้นคนที่จะแต่งงานกัน มันต้องมีความรักที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง แต่ต้องรักด้วยหัวใจ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' แค่พยักหน้า ปม รพ.ตร. ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'พ่อนายกฯ' ให้ ป.ป.ช.

'นายกฯอิ๊งค์' ปฏิเสธตอบคำถาม ปม รพ.ตำรวจ ไม่ส่งเวชระเบียนรักษาตัว 'ทักษิณ' หลัง ‘ป.ป.ช.’ ทวงแล้ว 3 ครั้ง ทำแค่พยักหน้ารับทราบ

'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.

'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที

'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน

'ไพบูลย์' เบรกหัวทิ่มมือกฎหมายเพื่อไทย  คลอดประชามติ 2 ครั้ง

“ไพบูลย์” โต้ ”ชูศักดิ์“ ใช้คำวินิจฉัยส่วนตน 6 ตุลาการอ้างทําประชามติ 2 ครั้งไม่ได้ บอก ต้องยึดคําวิฉัยกลาง ชี้มีแค่แก้รายมาตราเท่านั้นไม่ต้องทำ