'ชลน่าน' สงสารก้าวไกล ลั่นขณะนี้ยังไม่ปล่อยมือร่วมรัฐบาลกัน รอ 8 พรรคเคาะชื่อนายกฯใหม่

“ชลน่าน” สงสาร “ก้าวไกล” เผยรอนัดหารือ 8พรรคร่วมรัฐบาล รับ เอฟเฟคมติตีความข้อบังคับรัฐสภา ทำ“เพื่อไทย”ลำบาก ลั่นไม่รบบนสมรภูมิที่แพ้แล้ว หวั่นปัญหามีชื่ออยู่คนเดียวแล้วโหวตไม่ผ่าน แต่จะไม่รอถึงวันนั้น พร้อม ยุ กก. ยื่นศาลรธน. ตาม “บวรศักดิ์” ชี้ช่องไว้ เล็ง สว.หมดวาระปีหน้า แก้ข้อบังคับสภาฯโหวตนายกอย่างชอบธรรม

20 ก.ค.2566 - ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ว่า มติเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ตีความว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติที่ไม่สามารถเสนอซ้ำได้ในสมัยประชุมเดียวกันได้ ทำให้ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำเป็นรอบสอง ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะจะผูกมัดต่อไปในอนาคต แต่จะเป็นเพียงการผูกมัดแค่มาตรา 272 เมื่อเปลี่ยนไปใช้การมาตรา 159 แต่งตั้งนายกฯ ข้อผูกพันนี้จะลดไป อย่างไรก็ตาม ทราบว่าเบื้องต้นเลขาธิการของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลพูดคุยเราก็รอจะมีการนัดหมายเมื่อใด

เมื่อถามถึงความคิดเห็นของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายบวรศักดิ์ไม่เห็นด้วยกับผลการลงมติของรัฐสภา และยังแนะนำว่าใครเห็นว่าถูกละเมิดสิทธิ์สามารถไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้

ถามว่าวันนี้ใช้คำว่าเพื่อไทยต้องรอพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียวได้ใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรค กล่าวว่า ต้องรอ ในฐานะที่เป็น 8 พรรคร่วม การตัดสินใจและท่าทีอยู่ที่พรรคก้าวไกลก่อน

ถามย้ำว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ปล่อยมือพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า “ขณะนี้ยัง ยังอยู่”

ถามถึงการเสนอชื่อนายกฯครั้งต่อไปจะต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่การหารือที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ โดยจะรอนัดหมาย อาจเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็แล้วแต่เขาจะนัดหมายกัน

ถามต่อว่าแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคนไม่พอใจการทำงานของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีใครพอใจ ส่วนตัวก็ไม่พอใจเหมือนกัน จะเสนอญัตติโดยใช้เสียงข้างมากธรรมดาโดยไม่มีช่องทางที่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แต่เมื่อออกมาเช่นนั้นก็ต้องยอมรับ เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา ระบบเสียงข้างมาก ก็ต้องยึดถือ เพียงแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่อาจมีความแคลงใจ คาใจและไม่พอใจ คือเสียงข้างมากไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และจะทำให้ระบบรัฐสภามีปัญหาแน่นอน แต่บทเรียนครั้งนี้สามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขได้ เมื่อหมดวาระของสว. ในวันที่ 11 พ.ค. 67 เรามีความชอบที่จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนำเรื่องการให้ความเห็นชอบนายกฯมากำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมสภาฯ อะไรที่เป็นข้อจำกัดในข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไปบัญญัติไว้ในข้อบังคับการประชุมสภาฯแทน

เมื่อถามถึงความเป็นห่วงว่าการเสนอชื่อนายกฯเป็นญัตติไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ในสมัยประชุมเดียวกันนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อข้อบังคับถูกวินิจฉัยเช่นนี้ทุกคนเป็นห่วง ถ้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ตกภาระลำบาก

ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยห่วงว่าถ้ายังจับกับพรรคก้าวไกลแล้วเสนอชื่อรอบ3 หรือรอบต่อๆไปจะไม่ผ่านเหมือนกันใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เสนอชื่อซ้ำก็ห่วงทุกมิติ ถ้าเขาเห็นว่าเราไม่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย ทุกคน ก็ยากมากที่จะฝ่าด่านไปได้ ดังนั้น หลักการคือ พรรคแกนนำไม่ว่าพรรคใดต้องแสวงหาความมั่นใจว่าเสนอไปแล้วจะผ่าน ไม่มีใครรบบนสมรภูมิที่แพ้ แล้วจะรบอีก เพราะเราก็จะเสียคนของเราไปด้วย โดยเฉพาะถ้าเรามีเพียงคนเดียวเราเสนอไม่ได้อีก มันก็จบ นี่คือปัญหา

ถามถึงกระแสข่าวพรรคก้าวไกลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สมควรยื่น อะไรที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญควรดำเนินการ

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ แต่ยังจับขั้วกับพรรคก้าวไกล ชื่อที่พรรคเพื่อไทยเสนอก็จะไม่ผ่าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข่าวก็คือข่าว ต้องรอพิสูจน์ว่าข่าวนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรณีถ้าถึงคิวที่พรรคเพื่อไทยเป็นคนเสนอ คงไม่รอให้ชื่อของเราไม่ผ่าน ถ้ารอมติตรงนั้นเราก็แพ้อย่างเดียว

“ผมสงสารก้าวไกลที่ใช้ประเด็นเหล่านี้มาเป็นเงื่อนไข ขณะนี้ไม่ใช่แค่ 112แล้ว เพื่อไทยไม่มีความคิดก้าวล่วงสิทธิและเสรีภาพของพรรคก้าวไกล เราเป็นพรรคร่วมก็จริง การที่บอกว่าคุณไปลดหน่อย โน้นนี่นั่น เราไม่มีสิทธิ์อยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเขา” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจาะแพ็กเกจ แก้รธน. พริษฐ์ พรรคประชาชน กับด่านสำคัญที่รออยู่

การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในเดือนตุลาคม ดูเหมือนจะคลายความร้อนแรงทางการเมืองไปพอสมควร หลัง"พรรคเพื่อไทย"

เกมยื้อแก้ 'รัฐธรรมนูญ' ' อิ๊งค์' หนักคอพาดเขียง

ประเด็นการเมืองร้อนแทรกขึ้นมาท่ามกลางปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน และเศรษฐกิจ หลังพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ใจตรงกันยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยมีเป้าหมายคือลดอำนาจการตรวจสอบนักการเมืองผ่านองค์กรอิสระ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. และ กกต.

ลากไส้พรรคเพื่อไทย เคยด่า 'คนละครึ่ง' ต่อให้สิ่งที่ทำดี ถ้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็จ้องโจมตี

จากกรณีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวว่า จะมีการฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง

บิ๊กอ้วนหงุดหงิด! ถูกจี้ถาม สส.เพื่อไทยในคดีตากใบ

'ภูมิธรรม' หงุดหงิดถูกจี้ถามคดีตากใบ บอกไม่รู้ 'พล.อ.พิศาลและพวก' อยู่ในไทยหรือไม่ แต่หากอยู่ก็ถูกจับหรือเชิญตัวไปแล้ว ขอสื่อใส่ใจเรื่องน้ำท่วมช่วยประชาชน