'พิธา' พิง 14 ล้านเสียง มั่นใจได้เสียงส.ว.เพียงพอต่อการโหวตให้เป็นนายกฯ

11 ก.ค.2566 – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการส.ว.เตรียมใช้ข้ออ้างในการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี หากกกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ในคดีหุ้นสื่อว่า การที่จะเลื่อนการโหวตเลือกผู้นำของประเทศในช่วงสภาวะวิกฤตแบบนี้ จะทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจของประธานสภา และสมาชิกรัฐสภาร่วมกัน โดยตนขอวิงวอนเพื่อนสมาชิกว่า การให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีต่อไปจะทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตนแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าในจำนวนส.ว.ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าเพียงพอแล้วต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่เป็นส.ว.สายพลเรือน หรือสายทหาร นายพิธา กล่าวว่า เราคงไม่ได้ดูว่าเป็นส.ว.มาจากสายไหน แต่เป็นเรื่องของหลักการที่ส.ว.ยังหนักแน่นในการที่บอกว่า ถ้ารัฐบาลได้เสียงข้างมากเหมือนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดว่าคงจะต้องโหวตตามหลักการนี้ และไม่โหวตสวนมติของประชาชน ทั้งนี้เราก็ได้มีการหารือกับส.ว.เพื่อทลายกำแพงซึ่งกันและกัน และเมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เสียงส.ว.เพียงพอต่อการโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธา กล่าว ยังมั่นใจอยู่ ส่วนจำนวนที่ชัดเจนจะต้องรอดู เพราะถ้าพูดออกไปตอนนี้อาจจะแรงกระทบต่อการตัดสินใจในอีก 2 วันนี้เพราะฉะนั้น

ถามอีกว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าในวันโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอชื่อนายพิธา เพียงคนเดียว หรือมีการเสนอชื่ออื่นแทรกขึ้นมา เขาตอบว่า เป็นไปได้หมด ซึ่งไม่ได้ผิดปกติอะไร ปี 2562 ก็มีการเสนอ 2 ชื่อ แต่ถ้ามีแค่ชื่อเดียวก็เป็นอีกกรณีหนึ่งไม่ได้ผิดรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

ซักว่าในวันที่ 13 ก.ค. มีมวลชนหลายกลุ่มเตรียมรอติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีนอกสภา เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ แคนดิเดต นายกฯ พรรคก้าวไกล ตอบว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ประชาชนเลือกตนมาแล้ว ก็ไม่ควรมาลุ้นอีก ซึ่งขณะนี้ควรจะประชุมเพื่อผลักดันกฎหมายได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จะต้องมาลุ้นกันต่อ แต่เชื่อว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาจะบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างดี ส่วนการควบคุมประชาชนในการรวมตัวกันอย่างสันติ เป็นเรื่องของประชาธิปไตยอยู่แล้ว

ส่วนการลงพื้นที่พบมวลชน ขั้วการเมืองตรงข้ามมองว่าจะเป็นการปลุกมวลชนเพื่อกดดันการโหวตนายกรัฐมนตรีทหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่ได้ลงพื้นที่เพื่อขอให้พวกเขามาปกป้องตน แต่ตนต้องปกป้องการตัดสินใจของพวกเขาเมื่อวันที่ 14 พ.ค.เพื่อให้เขามั่นใจว่ามติที่ประชาชนให้มาได้รับการปกป้อง นอกจากนี้เพื่อความสม่ำเสมอตนจึงต้องลงพื้นที่ขอบคุณประชาชน และรับฟังปัญหาต่างๆด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย

เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้

ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การ​บริหาร​ส่วน​จังหวัด​ (อบจ.)​ อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก

'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย

นายพิธา​ ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง​ นายคณิศร​ ขุริรัง​ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน