8 ก.ค.2566 - ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า “ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลจะต้องนัดหมาย 8 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อพูดคุยกันก่อนโหวต ส่วนวิป ส.ส. และวิป ส.ว. ก็จะนัดประชุมพูดคุยกันในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้เช่นเดียวกัน เพราะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่าแนวทางของ 8 พรรค จะเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวในรอบแรกใช่หรือไม่ ? ว่า “พรรคร่วมรัฐบาลได้ประกาศ MOU ไปแล้วว่าจะเสนอพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่หากโหวตรอบแรกไม่ผ่านจะเสนอรายชื่ออื่นในรอบที่ 2-3 ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีข้อกฎหมายบัญญัติไว้ว่าห้ามเสนอรายชื่อเดิม อีกทั้งหลักการในรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ว่าให้เราเคารพเสียงข้างมากเป็นสำคัญ ฉะนั้นหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงส่วนใหญ่มีมติให้ใครได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวมองว่า ส.ว. ก็ควรให้ความเห็นชอบร่วมด้วย
ที่ผ่านมา ส.ว. หลายท่านก็ได้ออกมาแสดงความเห็นและมีสัญญาณมาแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะส่อให้เห็นเจตนาว่าไม่ต้องการให้เป็นประชาธิปไตย และในการบริหารบ้านเมือง ส.ว. ก็ไม่ได้มาบริหารเอง ดังนั้นหากครบวาระของ ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล ก็จะมีหน้าที่แค่กลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรี หาก ส.ว. และ ส.ส. ยึดหลักจริยธรรมในการพิจารณาคุณสมบัติ ทั้งด้านความรู้ ความสามารถ จริยธรรม คุณธรรม และนโยบายที่หาเสียงกับประชาชน ส่วนตัวจึงคิดว่าในวันที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึงนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่สำหรับ ส.ว. บางส่วนที่นำเพียงนโยบายของพรรคการเมืองมาพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี ตนคิดว่าเป็นการใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ ซึ่งไม่ถูกต้อง”
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ขอให้ทุกคนใช้จริยธรรมในการเลือกบุคคลที่เหมาะสมเข้ามารับตำแหน่ง เพราะนโยบายต่างๆ นั้น ประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคอื่นๆ มาแล้ว การใช้ดุลยพินิจจึงควรเป็นไปตามครรลอง ไม่ใช่ตามอำเภอใจ แต่สำหรับการรวบรวมเสียงของ ส.ว. เรื่องนี้ต้องสอบถามไปยังพรรคก้าวไกล
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาติ และประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นประธานสภาเพียงปีเดียวและลาออกจากตำแหน่งนั้น พ.ต.อ.ทวียืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะประธานสภาต้องเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ และไม่เป็นผู้บริหารของพรรคการเมือง ท่านจึงมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่ด้วยขณะนี้ได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นประธานสภาแล้ว และฝ่ายนิติบัญญัติก็มีความสำคัญ จึงถูกจับจ้องเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี ท่านก็จะอยู่จนกว่าจะครบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทวี' เสียงแข็ง! 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่มี 'ทักษิณโมเดล'
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน
เพื่อไทยฉวยคดีเขากระโดง สบช่องเตะตัดขาภูมิใจไทย
ปมขัดแย้งกรณีที่ดินเขากระโดง แม้แกนนำรัฐบาลของทั้ง 2 พรรคคือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย
'ทวี' เผย เรือนจำดูแลความปลอดภัย 'ทนายตั้ม' หลังโดนจองกฐิน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาลดความแออัดภายในเรือนจำ ว่า ถือเป็นปั
'ทวี' การันตีไม่มีสักนาทีที่ 'ทักษิณ' ออกจากชั้น14 ยินดีให้ข้อมูล ป.ป.ช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรีย
'ทวี' ยังหวังปาฏิหาริย์คดีตากใบ แม้เหลือ 2-3 วัน ยัน จนท.ทำงานหามรุ่งหามค่ำ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎรสั่งปิดประชุม เมื่อวันที่ 16 ต.ค
'ทวี' ระบุ ออกหมายแดง 'พิศาล' ต้องให้ ตร.ประสานอินเตอร์โพล ย้ำไม่ได้เพิกเฉย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ออกหมายแดง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส