'ก้าวไกล' หวัง 2 ก.ค. ได้ข้อสรุป 'ปธ.สภา' ดักคอ พท. ไม่แทงข้างหลัง

‘เลขาฯก้าวไกล’ แจงยังไม่ได้ข้อยุติเก้าอี้ ‘ปธ.สภา’ มั่นใจ 2 ก.ค. จบได้แน่ ดักคอ ‘เพื่อไทย’ จริงใจไม่แทงข้างหลัง จับมือตั้งรัฐบาล หนุน ‘พิธา’ นายกฯ

30 มิ.ย. 2566 – เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ข้อยุติแล้วในตำแหน่งประธานสภา ว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลกำลังรอนัดหมาย และกำหนดเวลา เพื่อจะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งควรจะเป็นแบบนั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล หวังว่าจะพยายามให้ได้ข้อยุติร่วมกัน ก่อนที่จะประชุมร่วม 8 พรรค ย้ำว่าทั้งสองพรรคยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องของตำแหน่งประธานสภาอย่างเป็นทางการ

สำหรับสมการการจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) 15+2 และ 13+2 นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยืนยันจริงๆ ว่ายังไม่ได้พูดคุยกันเลย ที่ผ่านมามีเพียงแค่กระแสข่าวที่ออกมาเท่านั้น ยืนยันว่าทั้งสองพรรคจะพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนไม่ผิดหวัง

เมื่อถามว่า มีรายงานว่าพรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งมีเงื่อนไขหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ไม่สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวนี้มาจากไหน แต่เราเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น เพราะผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคก้าวไกล เลือกพรรคเพื่อไทย มีความต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตย และแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ดังนั้น เราต้องช่วยกัน ไม่ทำให้ความผิดปกติที่อยู่ในที่อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กลายเป็นเรื่องปกติ ตนยังเชื่อมั่นว่าทั้ง ส.ส.และ ส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง ให้พรรคที่ได้รับชัยชนะเป็นอันดับหนึ่งจากประชาชน เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ หลังจากคุยกัน 8 พรรคการเมือง ในวันที่ 2 ก.ค.แล้ว และในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งจะมีการโหวตประธานสภา ที่เป็นการโหวตลับ จะเป็นไปตามที่ได้คุยกันไว้หรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้า 8 พรรคการเมืองจับมือกันแน่น ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของตำแหน่งประธานสภา ยังยืนยันในหลักการเดิมก่อนที่จะมีการพูดคุยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นหลักการที่เป็นปกติในระบอบประชาธิปไตย ยังยืนยันว่าต้องรอผลสรุปจากการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการระหว่างสองพรรค เชื่อว่าจะจบได้ดี ทั้งสองพรรคเราทำงาน และตัดสินใจภายใต้ผลประโยชน์ของประชาชน ที่พร้อมจะจับมือไปด้วยกัน

ส่วนกรณีหากขั้วรัฐบาลเดิม เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานสภา จะมีการป้องกันอย่างไรเพื่อทำให้เสียงไม่แตกนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่น ทั้งแกนนำและสมาชิกพรรคทั้ง 8 พรรค

เมื่อถามว่า มีการวางแผนไว้หรือไม่ หากนายพิธาไม่ถูกโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยยังเดินหน้าต่อไปได้ รวมไปถึงอาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียงพอ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าคิดไปไกลถึงสถานการณ์วันนั้นเลย เฉพาะหน้าเมื่อผ่านการเลือกประธานสภาแล้ว ทุกอย่างก็จะมีความชัดเจนขึ้น และตนยังเชื่อมั่นอย่างที่ได้ยืนยันไปข้างต้นว่า ทาง ส.ส. และ ส.ว. จะช่วยคืนความปกติให้กับการเมืองไทย ด้วยหลักการพื้นฐานว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง และสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ได้ ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล อย่างในกรณีปี 62 ที่อาจจะมีการผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ทาง ส.ว. ก็ให้เหตุผลในการโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ในสภาได้ ส.ว. ก็โหวตให้อย่างเป็นเอกภาพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 กับ ส.ว.อย่างไร เพื่อขอเสียงสนับสนุน และให้ ส.ว. โหวตตามหลักการ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะแก้กฎหมายฉบับใด หรือเสนอกฎหมายฉบับใหม่ มีกระบวนการนิติบัญญัติปกติอยู่แล้วในการถ่วงดุล และใช้เสียงส่วนใหญ่ในการหาข้อยุติในสภา อีกทั้งมีการตรวจสอบว่า กฎหมายฉบับใดไม่ผ่านสภา และขัดต่อธรรมนูญหรือไม่ เรื่องนี้อย่าเพิ่งกังวลไปล่วงหน้า ตนคิดว่าหลักการสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกนายกรัฐมนตรี คือหลักการที่อิงกับผลการเลือกตั้ง

ส่วนกระแสข่าวแลกตำแหน่งประธานสภากับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นข่าวลือ รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เรื่องแบบนั้น มีการพูดไปโดยที่ไม่ได้อิงจากข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า ในวันที่ 2 ก.ค. จะได้ความชัดเจนในเรื่องของตำแหน่งประธานสภาใช่หรือไม่ และจะมีการพูดคุยในเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน แต่คงไม่มีการคุยกันในเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรี คงเป็นการเตรียมพร้อมในการเปิดประชุมสภา ที่จะมีการเลือกประธานสภา ส่วนกระบวนการเรื่องการแบ่งงานกันทำในรัฐบาลชุดใหม่ เรามีการประชุมอยู่ตลอดเวลา

สำหรับความกังวลว่าอาจเกิดการแทงข้างหลังในการโหวตนั้น เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่กังวล ระหว่างขั้วเสียงข้างมาก และเสียงข้างน้อย มีความห่างกันมาก ดังนั้น ทั้ง 8 พรรค มีกำลังแน่น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลิก พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการเลื่อนการประชุมของทั้ง 8 พรรคในวันที่ 2 ก.ค.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยรอเสียบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการสะท้อนว่าใน 8 พรรค มีเกมการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองอย่างนั้น ตนยังเชื่อมั่นว่าเรายังทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจ เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการบางคนออกมาวิเคราะห์ว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เป็นเกมของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการผลักให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน จะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่ตนสัมผัสได้จากพรรคเพื่อไทยอย่างจริงใจคือ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมถึงอีกหกพรรคที่เหลือ เชื่อมั่นว่า การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่าง 8 พรรค เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศและยังเป็นแบบนั้นอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า “อยากออกก็ออกไม่ได้” สะท้อนอะไรในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงต้องไปถาม นพ.ชลน่าน แต่เท่าที่ทำงานร่วมกัน เราจริงใจ และเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด.