6 มิ.ย.2566 - เวลา 12.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แถลงหลังการประชุมคณะทำงานชุดเล็กทั้ง 7 คณะที่ตั้งขึ้นตามมติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้มีวาระการประชุมในการตามงานจากคณะทำงานทั้ง 7 คณะที่ได้มีการตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตั้งตามข้อตกลงลงนามหรือ MOU อีกทั้งกำหนดบทบาทการทำงานรวมถึงผลลัพธ์ที่ต้องการเห็นจากคณะทำงานทั้ง 7 คณะ โดยกำหนดกรอบพิจารณาเพื่อให้คณะที่เหลือสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีเอกภาพและมีผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนได้จริง
นอกจากนี้ได้กำหนดคณะทำงานเพิ่มได้แก่ 1.คณะทำงานเศรษฐกิจและรัฐบาลดิจิทัล 2.คณะทำงานต่อต้านคอร์รัปชั่นและส่วย 3.คณะทำงานสาธารณสุขโดยเน้นเรื่องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล 4.คณะทำงานเพื่อความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม 5.คณะทำงานปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ทั้งนี้เป็น 5 คณะทำงานที่เราได้ตั้งใหม่ซึ่งหวังว่าจะมีคำตอบให้กับสังคมในช่วงที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ซึ่งเป็นการทำงานล่วงหน้า
นายพิธา กล่าวว่า อายุของคณะทำงานที่ได้ตั้งมีแค่ 2 เดือน ถามว่าปฏิบัติได้ไหมคนปฏิบัติไม่ได้เพราะว่าฝั่งนั้นคือรัฐบาล แต่หลายๆเรื่องเขาได้โยนให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้ดูแล ซึ่งตนมีความน่าจะเป็นที่จะได้เป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องทำงานล่วงหน้า แต่ขณะเดียวกันคนเราจะต้องการคือเมื่อตั้งรัฐบาลได้ รัฐบาลชุดนี้จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อีกทั้งในการประชุมครม.ในช่วง 100 วันแรก ตนสามารถคิดได้ว่าควรจะเรียงลำดับความสำคัญอย่างไรในการที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชน
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้มีข้อเสนอแนะ5 ข้อที่เป็นกรอบการทำงานใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน ประกอบด้วย 1.ข้อเสนอเรื่องความมั่นคงทางการคลังโดยทุกนโยบายที่ต้องใช้เงินในงบประมาณต่างๆนั้นต้องคิดคำนวณทุกบาททุกสตางค์จะต้องมีผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจออกมาให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินภาษีของประชาชน เราตั้งใจที่จะลดการขาดทุนทางการคลังลงเรื่อยๆและมีข้อเสนอแนะว่าถ้าเราสามารถเข้าสู่สมดุลทางการคลังในอีก 7 ปีข้างหน้าก็จะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับประเทศไทย
2.ข้อเสนอแนะเรื่องระบบภาษี ประสิทธิภาพซึ่งจะต้องมีฐานภาษีที่สูงขึ้นนั่นหมายความว่ามีคนเข้าสู่ระบบฐานภาษีได้มากขึ้น ให้รัฐมีรายได้ที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นการคิดเรื่องอัตราภาษีนั้นต้องมีการคำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงผลกระทบทั้งในแง่บวกและแง่ลบ
3.ข้อเสนอแนะในการออกแบบนโยบายจะต้องคิดและคำนวณอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจควบคู่กับการเท่าเทียมของการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจ
4.แต่ละคณะทำงานจะต้องวางแผนการทำงานในระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนรวมถึงการวางแผนในระยะกลางและระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างในด้านต่างๆทั้งพลังงานสิ่งแวดล้อมและระบบเศรษฐกิจ
และข้อ 5.เปิดให้ประเทศมีการหารายได้เข้ามาจากการต่างประเทศที่สร้างรายได้ เปิดให้ประเทศไทยเชื่อมต่อโลกดึงการค้าการลงทุนเพื่อให้เข้ามาในประเทศซึ่งเป็นรายได้มหาศาลที่จะเกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' ตีมึนไม่รู้ 'ทักษิณ' หมายถึงใคร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีสัมม
ประมวลคำกร่างคับประเทศ 'พ่อนายกฯ' จะคุยกับพระเจ้า-ตะเพิดพรรคร่วม-ควายเท่านั้น
สถานการณ์การการเมืองไทยร้อนระอุ ขึ้นมาทันที หลัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โชว์วาทะเผ็ดร้อนระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน
เลขาฯเพื่อไทย เชื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอม ปัด 'ทักษิณ' ส่งซิกเขี่ยบางพรรคพ้นรัฐบาล
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลบางพ
เตือนคุกรออยู่! ระวัง 'บ้านเพื่อคนไทย' ซ้ำรอย 'บ้านเอื้ออาทร'
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ฟังนโยบาย “บ้านเพื่อคนไทย” นึกถึงนโยบาย “บ้านเอื้ออาทร” นโยบายดี แต่มีปั
ดร.เสรี เฉลยแล้ว 'ทักษิณ' ตะเพิดพรรคร่วม แล้วเพื่อไทยจะรวมกับใคร
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันก่อนเขาไล่พรรคร่วม แล้วคิดว่าเขาจะไปรวมกับใคร
พระเจ้า! 'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' กร่างเกินเบอร์ ระวังจบไม่สวย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลกรณีไม่เข้าประชุม ครม