'เพื่อไทย' ยื้อเก้าอี้ประธานสภาฯ ลั่นถอยให้ก้าวไกลแล้ว อย่าทำให้เป็นอุปสรรคจัดตั้งรัฐบาล

“ประเสริฐ” ลั่น “เพื่อไทย” ขอตำแหน่ง “ประธานสภา” มอง ไม่อยากให้ถึงขั้นเสนอชื่อแข่ง รอคุยก้าวไกลอีกครั้งหลังวันนี้ “ศิริกัญญา” อ้าง 3 วาระจำเป็น ชู “ชลน่าน” เหมาะสม ระบุหัวหน้าพรรคเป็นประมุขแต่ละฝ่ายก็ไม่เลว

25 พ.ค.2566 - เมื่อเวลา 13.40 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าการพูดคุยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคก้าวไกล ว่า ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา 8 พรรคการเมืองได้ลงนามเอ็มโอยู พรรคเพื่อไทยได้แจ้งความประสงค์ไปยังแกนนำพรรคก้าวไกลถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคก้าวไกลบอกว่าขอเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อจะเอาคำตอบมาให้ และขณะนี้ก็รอพรรคก้าวไกลอยู่

เมื่อถามว่าหลายคนในพรรคก้าวไกลออกมาระบุว่าตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนว่ากองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่งก็ประสงค์ที่จะให้ส.ส.และแกนนำของแต่ละพรรคเป็น และหากมองอดีตที่ผ่านมาปี 62 ประธานสภาก็เป็นนายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคลำดับที่ 4 และตนมองว่าด้วยความที่เสียงใกล้กันมาก โดยเฉพาะส.ส.แบบแบ่งเขตที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ 112 เท่ากัน เพราะฉะนั้นอยากให้มีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยประสานงานไปแล้ว จึงอยากให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้ลงนามเอ็มโอยูไปแล้ว ไม่อยากให้บางเรื่องมาเป็นอุปสรรค

เมื่อถามว่า จะต้องนัดพูดคุยกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหรือไม่ เพราะก้าวไกลประกาศชัดเจนว่าตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกล นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกัน เพราะหากปล่อยให้ต่างฝ่ายออกมาพูดก็ไม่จบซะที และยิ่งนานไปก็ไม่ใช่ผลดี หากมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการเรื่องคงจบได้ ที่ผ่านมาการคุยกับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมอื่นๆบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดีทุกครั้ง ไม่มีบรรยากาศที่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

เมื่อถามย้ำว่าน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแถลงยืนยันว่า ตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกลจะต้องคุยกับพรรคก้าวไกลใหม่หรือไม่เพราะพรรคเพื่อไทยเคยเสนอเรื่องนี้ไปแล้ว นายประเสริฐ กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝั่งต่างออกมาพูดว่าตำแหน่งต้องเป็นของฝั่งไหน ซึ่งตำแหน่งประธานสภาเป็นตำแหน่งสำคัญ อยากให้คำนึงถึงความเหมาะสม แต่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอมพรรคเพื่อไทยก็คงต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร หรือกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะว่าอย่างไร

เมื่อถามว่าจะไปถึงขั้นกระทบกับการจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายืนยันเจตนารมย์ชัดเจนตั้งแต่ต้น และวันนี้ยังยืนยันอยู่ ว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จุดยืนนี้ไม่เปลี่ยน ส่วนเรื่องประธานสภาเป็นคนละกรณีกัน ซึ่งไม่มีในเอ็มโอยูด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี ออกมาระบุว่าหากถูกบีบคั้นขนาดนี้พรรคเพื่อไทยควรจะแยกออกมาเป็นฝ่ายค้านนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า คงเป็นเพียงความเห็นและความรู้สึกส่วนตัวของนายสมคิด และตนยังเชื่อว่าการพูดคุยน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

เมื่อถามว่า 10 เสียงที่ห่างกันไม่ได้มากพรรคเพื่อไทยถอยให้กับพรรคก้าวไกลพอสมควรหรือยังนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า พอสมควร เพราะ 10 เสียงเป็นคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ต่างกันเท่านั้น ซึ่งที่จริงหากพรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้งส.ส.เกินครึ่งหนึ่ง คือ 250 จะจบปัญหานี้ ไม่เกิดแน่นอน และในอดีตที่ผ่านมาพรรคที่ได้ลำดับที่ 1 กับลำดับที่ 2 จะมีข้อแตกต่างกัน มีความชัดเจนว่าลำดับที่ 1 คะแนนห่างจากลำดับที่ 2 และเป็นคนละฝั่งกัน แต่ครั้งนี้เป็นฝั่งพรรคประชาธิปไตยเหมือนกัน และไม่มีพรรคใดที่ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงความเหมาะสม ย้ำว่า ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ เป็นตำแหน่งศักดิ์ศรีของประเทศ เป็นหมายเลข 1 ของนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นการตั้งประธานสภาต้องใช้ความละเอียดอ่อน และอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน

“ทางพรรคก้าวไกลได้นายกฯเบอร์ 1 ไปแล้ว ถ้าเพื่อไทยจะมีโอกาสทำงานตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย”นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่าจะถึงขั้นเสนอชื่อแข่งกันหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่อยากให้มองอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยมีรายชื่อในใจว่าจะเสนอใครแล้วหรือยัง นายประเสริฐ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคต้องนำมาหารือในที่ประชุมอีกครั้ง

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีชื่อของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ กล่าวว่า นพ.ชลน่านมีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในสภา เป็นส.ส. 6 สมัย และเก่งเรื่องข้อบังคับ รวมถึงยังเป็นหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่ง “หัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นนายกฯและหัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นประธานสภาก็ไม่เลวนะ ผมว่า”

เมื่อถามว่า การพูดคุยกับส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้าในนามของพรรคไม่มี เพราะเท่าที่คุยกับพรรคก้าวไกลจะเป็นคนประสานเอง เนื่องจากเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน แต่ถ้ามีเรื่องอะไรให้เราช่วยเราก็ยินดี

เมื่อถามถึงกรณีของนพ.ชลน่าน กับน.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ นายประเสริฐ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า อยากให้บรรยากาศดีกว่านี้ และได้หันไปมองผู้สื่อข่าวและถามว่า จะให้พูดอย่างไรดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า จะต้องเคลียใจกันโดยเร็วหรือไม่ นายประเสริฐ จึงพยักหน้าและระบุว่า ต้องเคลียใจกันเร็วๆ ที่จริงเมื่อก่อนทั้งสองฝ่ายก็รักกันดี ถูกคอกัน ซึ่งนพ.ชลน่านเป็นผู้ใหญ่และเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อมาเจอคำถามในลักษณะเหมือนจะจี้ท่านถามครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อีก ตนว่าคงทำให้ท่านหงุดหงิดพอสมควร แต่ตนคิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านคงให้อภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลากไส้พรรคเพื่อไทย เคยด่า 'คนละครึ่ง' ต่อให้สิ่งที่ทำดี ถ้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็จ้องโจมตี

จากกรณีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวว่า จะมีการฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง

บิ๊กอ้วนหงุดหงิด! ถูกจี้ถาม สส.เพื่อไทยในคดีตากใบ

'ภูมิธรรม' หงุดหงิดถูกจี้ถามคดีตากใบ บอกไม่รู้ 'พล.อ.พิศาลและพวก' อยู่ในไทยหรือไม่ แต่หากอยู่ก็ถูกจับหรือเชิญตัวไปแล้ว ขอสื่อใส่ใจเรื่องน้ำท่วมช่วยประชาชน

'หริรักษ์' ชี้เพื่อไทยขว้างงูไม่พ้นคอ เล่นเกมเขย่าแบงก์ชาติ แต่คนหน้าแหกคือ นายกฯอิ๊ง

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี นักข่าวตั้งคำถามเรื่อง

'เพื่อไทย' พับแผนแก้กฎหมายลูก! หวังยืมมือ ส.ส.ร.ตอนร่างรัฐธรรมนูญใหม่

รัฐบาลเพื่อไทยพลิกเกม หวังยืมมือ ส.ส.ร. ดันแก้กฎหมายลูกปมยุบพรรค-ครอบงำพรรค ริบอำนาจ ป.ป.ช. หลบกระแสต้านแก้ รธน.รายมาตรา