19 มิ.ย.2567 - ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ โลกร้อนทำให้เครื่องบินตกหลุมอากาศบ่อยขึ้น มีเนื้อหาดังนี้
1.สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ เที่ยวบินNZ 607 บินจากเวลลิงตันไปยังควีนทาวน์บินลงทางใต้ของประเทศตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายนที่ระยะความสูง 34,000 ฟิตหรือ10,363 เมตร ทำให้มีผู้โดบาดเจ็บ 2 รายโดยรายที่ ถูกน้ำร้อนจากถ้วยกาแฟหกราดลงบนตัวผู้โดย สารผู้หญิงและอีกรายเกิดจากการที่ลูกเรือกระแทกกับผนังของเครื่องบินอย่างรุนแรง
2.สาเหตุมาจากที่เครื่องบินแอร์นิวซีแลนด์ ประสบกับ full on turbulance หรือตก หลุมอากาศ อย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญ ญาณบอกเหตุมาก่อนทั้งท้องฟ้าแจ่ม ใส (Clean Air Turbulane)
3. นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของประ เทศสหรัฐอเมริกาพบว่าเครื่องบินตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงบ่อยขึ้นซึ่งมีความสัม พันธ์โดยตรงจากการที่โลกร้อนขึ้นจึงแนะ นำให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดตลอดเวลาขณะที่นั่งอยู่บนเครื่องเครื่องบินเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ จากการตกหลุมอากาศอย่างกะ ทันหันโดยที่ไม่มีสัญญาณบอกเหตุ
4. ก่อนหน้านั้นสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ก็ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 มีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คนและผู้โดยสาร 79 คนและลูกเรือ 6 คนได้รับบาดเจ็บ จากกรณีที่เครื่องบินตกหลุมอากาศโดยไม่คาดฝันมาก่อนทั้งๆที่ท้องฟ้าแจ่มใส ขณะที่เมื่อวันที่ 26 พค. 2567 สายการบินการ์ต้าแอร์เวย์เที่ยวบิน QR 017 เดินทางจากกรุงโดฮาไปยังไอซ์แลนด์ ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงโดยที่ไม่คาดฝัน ทั้งๆที่ท้องฟ้าแจ่มใสเช่นกัน มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 6 คนและลูกเรือบาดเจ็บ 6 คน
5. การที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้กระแสลมในระดับสูงที่เครื่องบินใช้เป็นเส้นทางบินมีความเร็วลดลงในบางขณะบางช่วงทั้งที่ท้องฟ้าแจ่มใส เหมือนกับการที่ขับรถมา บนทางที่ราบเรียบแล้วมาเจอทางขรุขระจึงเกิดการสะเทือนของรถยนต์ เช่นกันเมื่อเครื่องบินบินผ่านกระแสลมที่พัดมาด้วยความเร็วสม่ำเสมอและมาเจอช่วงที่อากาศร้อนขึ้นจึงทำให้ความเร็วของลมลดลงซึ่งมีผลทำให้ความหนาแน่นของมวลอากาศบริเวณดังกล่าวลดลงหรือบางลงด้วยเช่นกันซึ่งก็คือการเกิดอากาศแปรปรวนนั่นเองก็จะทำให้เครื่องบินที่บินผ่านเกิดการสั่นสะเทือน เมื่อมวลอากาศบางลงจะทำให้แรงโน้มถ่วงของโลกหรือค่าgจะฉุดเครื่องบินให้ตกลงมาซึ่งก็คือการตกหลุมอากาศ นักบินจึงต้องขับเครื่องบินขึ้นให้พ้นแรงดึงดูดของโลกและให้พ้นอากาศที่แปรปรวนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นักวิชาการสิ่งแวดล้อม' ชี้สัญญาณเตือนโลกกำลังจะเปลี่ยนไป จากอุณหภูมิสูงขึ้น หายนะจะตามมา
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
ดร.ธรณ์ ชี้โลกร้อนฆ่าพะยูน ตายเฉลี่ยเดือนละ 3.75 ตัว แนะไทยควรพูดใน COP29
ในอดีตพะยูนตายเฉลี่ยเดือนละ 1 ตัว ปัจจุบัน (2566-67) พะยูนตายเฉลี่ยเดือนละ 3.75 ตัว
นักวิชาการ ชี้ ‘เมฆระเบิด’ ต้นเหตุฝนกระหน่ำหนัก เกิดบ่อยที่ไทยทุกฤดูฝน
นักวิาการ อธิบายเมฆระเบิด(Cloudburst) ทำให้เกิดฝนกระ หน่ำ(RainBomb)หนัก จะเกิดขึ้นบ่อยที่ประเทศไทยในทุกฤดูฝน
'ดร.ธรณ์' ชี้มหาพายุเฮอริเคน 'มินตัน' สภาพอากาศสุดขั้ว คนอเมริกานับล้านต้องอพยพหนี
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
'โลกร้อน-โลกเดือด'! กระทบ 'พะยูน' เข้าใกล้จุดสูญพันธุ์
เป็นที่รับรู้กันมานานแล้วว่า พะยูนเป็นสัตว์ทะเลหายาก มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ แต่สถานการณ์ปัจจุบันยิ่งทำให้พะยูน ก้าวข้าม
‘ดร.สนธิ’ ผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อม เปิด 3 สาเหตุสำคัญน้ำท่วมเชียงใหม่
น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่สาเหตุสำคัญคือฝนตกหนักบนดอยที่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรกรรมพืชเชิงเดี่ยว...