กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนชาวสวนมะพร้าว-ปาล์มน้ำมัน สำรวจ เฝ้าระวังหนอนปลอกเล็กก่อนแพร่ระบาดกระทบผลผลิต
11 เม.ย. 2566 – นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า “หนอนปลอกเล็ก” ศัตรูสำคัญของมะพร้าวและปาล์มน้ำมัน หากแพร่ระบาดรุนแรงในพื้นที่จะทำให้ผลผลิตมะพร้าวและปาล์มน้ำมันลดลงได้ โดยล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในระดับพื้นที่เรื่องหนอนปลอกเล็กเข้าทำลายสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคใต้กว่า 2,000 ไร่ และเริ่มแพร่กระจายเพิ่มขึ้นในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและชุมพร กรมส่งเสริมการเกษตร จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเร่งเข้าให้คำแนะนำและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวและปาล์มน้ำมันเกี่ยวกับวิธีการป้องกันกำจัดหนอนปลอกเล็ก โดยทั่วไปหนอนปลอกเล็กจะพบการระบาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้สามารถพบการเข้าทำลายได้ตลอดทั้งปี จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวและปาล์มน้ำมันในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ หมั่นสำรวจสวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมและป้องกันผลกระทบจากศัตรูพืชดังกล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแพร่ระบาดหนอนปลอกเล็ก สามารถแพร่กระจายได้โดยลม ระยะหนอนเป็นระยะที่ทำให้เกิดความเสียหาย โดยระยะตัวหนอนใช้เวลา 92 – 124 วัน การทำลายโดยหนอนจะแทะผิวใบมะพร้าวหรือใบปาล์มน้ำมันแล้วเอามาทำปลอกหุ้มตัว ทำให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล และกัดทะลุใบเป็นรูขาดแหว่ง ถ้ารุนแรงจะเห็นทางใบทั้งต้นเป็นสีน้ำตาลแห้งคล้ายใบไหม้ ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต และผลผลิตลดลง โดยวิธีการป้องกันกำจัดที่แนะนำคือ หมั่นสำรวจสวนอย่างสม่ำเสมอ หากพบการทำลายเล็กน้อย ให้ตัดทางใบที่หนอนกำลังทำลายมากำจัดทิ้ง แต่หากในพื้นที่พบการระบาดของด้วงงวงหรือด้วงสาคูไม่ควรตัดทางใบเพราะรอยแผลจะเป็นช่องทางเข้าทำลายของด้วงงวงได้อีก แนะนำให้เกษตรกรพ่นเชื้อบีที (Bacillus thuringiensis) อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบ
5 มิลลิลิตร พ่นให้ทั่วบริเวณใต้ใบและต้องพ่น ในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดที่จะทำลายเชื้อบีที โดยใช้เครื่องพ่นที่ปรับความดันได้ไม่น้อยกว่า 30 บาร์ และพ่นติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน กรณีพบการระบาดรุนแรง ใช้วิธีพ่นสารทางใบ โดยเลือกใช้สารชนิดใดชนิดหนึ่ง ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ ฟลูเบนไดเอไมด์ 20% WG อัตรา 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคลอแรนทรานิลิโพรล 5.17 % SC หรือลูเฟนนูรอน 5 % EC อัตรา 20 มิลลิเมตร ต่อน้ำ 20 ลิตร แต่ควรระมัดระวังการใช้สารลูเฟนนูรอนในบริเวณใกล้แหล่งน้ำหรือบริเวณเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากมีพิษสูงต่อกุ้ง โดยสามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาละวาดหนัก! คนร้ายลักตัดผลปาล์มน้ำมันเกลี้ยงสวน ช่วงราคาดี วอนลานเทอย่ารับซื้อของโจร
นายสมร สิงห์แก้ว ประธานสภา อบต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นำผู้สื่อข่าวไปพบกับ คุณตาประเภท ประทีป ณ ถลาง อายุ 81 ปี อาชีพเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.5 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
‘หมอมนูญ’ เตือนฤดูฝนไวรัส hMPV- RSV แพร่ระบาด อาการคล้ายกันต้องดูแลผู้สูงอายุใกล้ชิด
ฤดูฝนเป็นฤดูของการแพร่ระบาดของไวรัส hMPV และ RSV อาการของไวรัส 2 ชนิดนี้คล้ายกันมาก แยกได้ด้วยการแยงจมูกตรวจหาเชื้อ
'เกณิกา' เผยกระทรวงเกษตรฯ หารือ RSPO มุ่งยกระดับมาตรฐานปาล์มน้ำมันไทย
“เกณิกา”เผย กระทรวงเกษตรฯ หารือร่วมกับ RSPO มุ่งยกระดับมาตรฐานปาล์มน้ำมันไทย แข่งขันในตลาดโลก
ชาวสวนปาล์มยิ้มออก แห่ปลูกพรึ่บส่งผลทำเลทองราคาพุ่ง
ปาล์มน้ำมัน ราคา ดี 2 ปีซ้อน ชาวสวนแห่ทยอยปลูก ปีละ 30 % ระบุ แหล่งทำเลทอง “ลุ่มน้ำปากพนัง” รอยพื้นที่ จ.พัทลุง นครศรี สงขลา ที่ดินราคาพุ่ง
‘หมอยง’ เตือนไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดเพิ่มขึ้น แนะป้องกันลดสูญเสีย
การระบาดของไข้หวัดใหญ่เริ่มจากตามโรงเรียนต่างๆและกระจายออกมาได้อย่างรวดเร็วทุกคนจะต้องใส่ใจในการช่วยกันป้องกันการระบาดของโรค