ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด โต้รับเป็นทนายให้ ดายศ เดชจบ พี่ชายของสาวแตงโม เผยแค่เป็นคนที่อยากร่วมค้นหาความจริงเพื่อให้ความยุติธรรมกับนางเอกสาว ไม่สนหาก แม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน จะพอใจหรือไม่พอใจ เพราะพี่ชายถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นกัน
“รับเป็นทนายให้พี่ชายน้องไหม ยังไม่มีการรับเป็นทนายให้นะครับ แต่เรื่องนี้ผมออกมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้น้องแตงโมแล้วพี่เขาเห็นด้วย เราจะออกมาร่วมกันครับ ไม่ใช่ในฐานะทนายความ แต่ในฐานะคนที่ช่วยกันทำเพื่อน้องแตงโม ถ้าแม่ไม่พอใจ อันนั้นเรื่องของคุณแม่ เรื่องนี้ผมคิดว่าคงจะไม่ต้องขออนุญาตคุณแม่เพราะเรื่องนี้เราทำเพื่อน้องไม่ได้ทำเพื่อคุณแม่
เมื่อวันก่อนที่ได้คุยกับพี่ดายศก็พอจะได้รู้อะไรมาแล้วแหละ สำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าจะเปิดเผยกับสื่อคงต้องคุยกับเขาก่อน หรือสื่อไปถามเขาเองดีที่สุด พบพิรุธเกี่ยวกับการทำสำนวนคดีนี้ครับ ที่แม่บอกว่าเขาไม่สามารถเป็นผู้เสียหายได้ แล้วทำไมต้องไปจำกัดไม่ให้เขาเป็นผู้เสียหายล่ะครับคุณแม่ เขาออกมาทำเพื่อน้องแล้วคุณแม่ติดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ให้คนอื่นเขาออกมาทำเพื่อลูกของคุณแม่ จริงๆแล้วในคดีเพ่งตัวของคุณแม่มีสิทธิมากกว่า แต่ในฐานะที่เป็นพี่ชายเขาก็มีสิทธิที่จะสงสัยในสาเหตุการตายและติดตามเรื่องได้ แม้กระทั่งเป็นญาติยังมีสิทธิได้เลย ตอนนี้จากที่คุยกันเขามีความสงสัยทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้การคนบนเรือ สภาพบาดแผล จุดที่มีการตก หรือกระทั่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เขามีอะไรที่เขารู้อยู่แล้วแต่เขายังไม่เคยพูดออกสื่อเท่านั้นเอง
พรุ่งนี้เราจะไปหาตำรวจในแนวว่าเรามีข้อสงสัยแล้วกัน ให้ตำรวจสืบสวนสอนสวน เดี๋ยวพรุ่งนี้นอกจากเราจะไปสอบถามตำรวจเพื่อคลายข้อสงสัยแล้ว เดี๋ยวจะมีเรื่องอื่นๆด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ๆนักข่าวจะได้รู้นะครับ พรุ่งนี้ไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตอนเช้า 9.00น. อันนี้ไม่ได้นัดท่านผู้บัญชาการนะครับ
ความคาดหวังของเราตอนนี้ ตำรวจบอกบาดแผลน่าจะเกิดจากใบพัดบ้างอะไรบ้าง ผมไม่รู้ว่าตอนเขาทดสอบเขาเอาใบพัดหมุนๆมาทดสอบตามสภาพความเป็นจริงไหม หรือแค่เอาใบพัดที่อยู่นิ่งๆมาแล้วบอกว่าเขากับแผลได้ ถ้าเป็นอย่างนี้มันจะคาดหวังได้หรือเปล่าล่ะ ถ้าคาดหวังไม่ได้เราก็ต้องคาดหวังจากประชาชนที่ติดตามข่าวนี้แล้ว ว่าประชาชนคิดว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงไปตรงมาหรือเปล่า
ถ้ามีการสอบเพิ่มเติมแล้วรูปคดีออกมาคนละอย่างกับรูปคดีที่ออกมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว การที่แม่ให้อภัยมีผลไหม มีผลเยอะครับ เพราะทำให้น้ำหนักคดีน้อยลงเยอะเพราะสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานของทางฝ่ายจำเลยในชั้นศาลได้
ตอนนี้พี่ดายศเขากังวลเรื่องแม่เพราะปกติจะเชื่อแม่ตามแม่ แล้ววันนี้เขาต้องไปกับแม่ด้วยเพราะเห็นว่าแม่จะออกรายการ 2 รายการ และผมไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมเปิดตัวไปแล้วพี่ดายศจะโดนแรงกดดันแค่ไหน แต่ผมได้ถามย้ำหลายครั้งนะว่าถ้าเกิดมีแรงกดดันมาพี่จะทนไหวไหม เขาบอกว่ารอบนี้เห็นแม่ทำแบบนี้แล้วเขารู้สึกไม่ค่อยดี เขาขอทำเพื่อน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย แต่เขาก็ไม่อยากจะให้ทัวร์ไปลงแม่เขานะเพราะนั่นก็แม่เขา เวลาสัมภาษณ์เขาก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ งั้นเราก็บอกเขาว่าเรื่องเงินเราไม่พูดถึงแล้ว เราโฟกัสกันที่เรื่องการเสียชีวิตของน้องดีกว่า”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'
ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม
ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง
สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง
'ทนายรณณรงค์' ให้ปากคำคดีทนายตั้ม รับแปลกใจเพื่อนรวยผิดปกติ
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำต่อตำรวจสอบสวนกลาง คดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด
'สมชาย' ชื่นชม กกต.สมุทรสาครแต่ข้องใจ กกต.กลางเรื่องตรวจสอบ สว.
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
ทนายตั้มมีข่าวดี! กกต.ยันอยู่บัญชีสำรอง สว.จนกว่าศาลตัดสิน
'แสวง' ยันทนายตั้มยังไม่ขาดคุณสมบัติ ยังอยู่ในบัญชีสำรองสว.ได้ จนกว่าศาลจะพิพากษา ส่วนคำร้องสว.หมอเกศ และคนอื่น รอสำนักงานมัดรวมสำนวนส่งกกต.ภายในพ.ย.นี้