'วาววา ณิชชา' กับชีวิตที่ลงตัว แฮปปี้ทั้งงาน-ความรัก

เปลี่ยนโหมดจากนางร้ายรสแซ่บกลับมาเป็นนางเอกแสนหวานแบบน่าสงสารสุดๆ สำหรับ วาววา-ณิชชา  โชคประจักษ์ชัด นางเอกฟรีแลนซ์ที่งานฮอตไม่แพ้ใคร กับผลงานล่าสุดละครอีโรติคจัดจ้าน เพลงบินใบงิ้ว ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดีช่อง34 ที่ได้เห็นวาววา ณิชชา กันในลุคใหม่เรียบร้อยผ้าพับไว้ จนแฟนคลับหลายคนอึดอัดใจ โดยทางวาววาได้พูดถึงบทบาทในการแสดง  พร้อมอัปเดตถึงชีวิตรักที่ได้วางแผนจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มตาน้ำขาว เฮนนี่ เรน ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

“กับละครเพลงบินใบงิ้ว เรื่องล่าสุดบทบาทเปลแก้ว หลายคนก็บอกว่า เมื่อไหร่เราจะลุกขึ้นสู้ จะยอมตลอดไป หรือว่าจะอดทนไปถึงไหน มีแต่คนเชียร์ให้เราสู้ได้แล้ว แต่วาก็มองว่าในเรื่อง ตัวเปลแก้วเองก็ยังไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากขนาดนั้น หมายถึงว่ามันยังไม่มีหลักฐาน หรือยังไม่มีอะไรที่ทำให้เราสามารถไปจัดการได้ แต่ว่า EP หลังจากนี้ จะเริ่มสืบค้นแล้ว เริ่มมีการหาหลักฐาน หรือลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนเต็มที่มาก คือตอนที่วาเล่น วาจะไม่ได้ไปนั่งดูว่าคนอื่นเขาเล่นกันยังไง จะได้มาดูอีกทีคือวันที่ละครออกอากาศ ก็จะเห็นว่าทุกคนเล่นสุดพลังมากๆ เลย ทำให้เรื่องนี้สนุกมากๆ กระแสดีมาก

ตัวเปลแก้วเขาโตมาในแบบที่ไม่ใช่ว่าโกรธแล้วจะไปตบใคร แล้วเวลาที่วาเล่นเป็นเปลแก้ว วาจะไม่ได้เอาตัวเราไปใส่เลย ก็คือจะตามบทเลย เป็นเขาเลย แต่ก็จะมีบางอย่างที่เหมือนกันคือ ถ้าสมมติว่าเรามีปัญหา เราจะสู้ด้วยความถูกต้อง ด้วยความยุติธรรม เราจะแก้ปัญหาด้วยการที่ ไม่ได้ไปตบเพื่อเอาชนะ ตัวเปลแก้วเขาก็จะประมาณนั้นเช่นเดียวกันกับวา แต่เวลาที่เขาลุกขึ้นสู้ ก็จะกลายเป็นอีกคนที่หลายๆคนน่าจะเซอร์ไพรส์เหมือนกัน

เรื่องนี้ถือว่าบทบาทแตกต่างจากที่เคยรับเล่นมาเลย ก็เบานะคะ ด้วยตัวละครเขาเป็นแบบนี้ ก็เบากว่า แต่ว่าข้างในตัวเปลแก้ว ว่ารู้สึกว่าเขามีความเครียด ความกดดัน ซึ่งมันสะสมมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ มันอาจจะดูเบา แต่ว่าข้างในมันก็มีอะไรเยอะมากเหมือนกันค่ะ  เขาจะใช้สติมากกว่าอารมณ์ แต่ด้วยความที่เขาไม่เคยเจอเรื่องพวกนี้มาเลย ไม่เคยเจอความยากลำบากในชีวิต มันก็จะมีจุดที่ระเบิดเหมือนกัน ถ้าถามว่าเมื่อไหร่ ก็จะตอบว่า ใกล้แล้วค่ะ

ส่วนตัววาชอบนะคะ เวลาที่วาดู วาจะดูว่ามีโมเม้นท์ไหนไหมที่วาหลุดออกมา ไม่ได้เป็นตัวละคร หรือว่า พอภาพกว้างกับภาพแคบมันไม่ต่อเนื่องหรือเปล่า แต่ว่าว่าดูการแสดงของตัวเอง ก็ถือว่า โอเคค่ะ ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ทุกคนทำการบ้านหนักมาก ไม่ใช่แค่ตัววา แล้วหลังจากซีนที่ระเบิดอารมณ์แล้ว หลังจากนั้นจะเป็นซีนที่ยากมากๆต่อเนื่องเลย แล้ววาก็ตั้งใจมาก ก็ดีใจที่คนดูเขาสนุกไปกับเรื่องราวที่พวกเราตั้งใจทำกันค่ะ ด้วยความที่ว่าค่อนข้างมั่นใจในโปรดักชั่นของพี่ฉอด มั่นใจในบท เพราะว่าตั้งแต่เราอ่านบทเราก็จะรู้แล้วว่า ละครเรื่องไหนสนุก ไม่สนุก ก็เลยรู้สึกว่า บทแบบนี้คนดูน่าจะชอบ เพราะเราอ่านแล้วเรายังสนุกเลย เราวางไม่ลงแบบนี้ค่ะ แต่ว่าก็เซอร์ไพรส์ในหลายๆเรื่องมากกว่า อย่างเลิฟซีนของนักแสดงท่านอื่น ว่ามันแซ่บจริง แล้วก็ทุกคนใส่พลังกันเต็มที่ ก็เลยออกมาสนุกมากๆ ค่ะ

ส่วนเรื่องเลิฟซีนของวาในเรื่องนี้ ไม่มีค่ะ อาจจะด้วยคาแรคเตอร์ค่ะ จริงๆ วาก็มีคิดว่าอาจจะมีหรือเปล่า แต่พอซีนที่จะต้องมีเลิฟซีน หลังจากนี้ ผู้กำกับก็ยังให้เราคงคาแรคเตอร์ความเป็นเปลแก้ว ก็คือจะไม่ร้อนแรง เพราะเราเป็นแบบนี้มาตลอด อยู่ๆจะมาแซ่บมันก็ไม่ใช่คาแรคเตอร์ค่ะ แต่วาว่าละครพี่ฉอด หรือเซ็ปต์ของทางช่องทีวีเองก็ตาม มันเป็นเรื่องของครอบครัว ซึ่งมันจะเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นจริงมากกว่า เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เราอาจจะมีความเห็นแก่ตัวบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ เพราะฉะนั้นตัวละครแต่ละตัว มันจะไม่มีใครที่ ฉันร้าย อย่างตัวเจนิส วาก็ชอบบทของเขามาก แล้วน้องเขาก็ทำออกมาได้ดีมาก แล้วตัวแสงนวลเองก็ไม่ใช่จะร้าย มันไม่มีใครร้าย แต่ทุกตัวละครเป็นมนุษย์ที่มีความผิดพลาดได้ หรือโลภได้ เรื่องนี้มันเลยไม่ได้มีใครร้าย ทุกตัวเป็นมนุษย์ที่มีความเห็นแก่ตัว อยากได้ความรัก ประมาณนี้ค่ะ”

อัปเดตเรื่องความรักกันหน่อย “ช่วงนี้ขอทำงานก่อนนะ แล้วพอตอนไปนิวซีแลนด์ ค่อยเที่ยวกันทีเดียวเลย หลังจากจบโปรเจคทั้งหมดแล้วเราค่อยให้เวลากับเขาทั้งหมด สรุปก็คือทุกเทศกาลตอนนี้ ขอทำงานก่อนค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงาน อีกประมาณ 2 ปีค่ะ เราอยากแต่งทั้งสองที่เลยค่ะ ทั้งนิวซีแลนด์และที่ไทย เพราะที่โน่นก็มีครอบครัวของเขา เพื่อนๆของเขาด้วย ส่วนที่นี่ก็มีฝั่งของเรา ธีมก็อยากจะให้เป็นชุดว่ายน้ำ สบายๆ อยากจะจัดพูลปาร์ตี้ แบบสนุกๆ ค่ะ เรื่องฤกษ์แต่งยังไม่ได้คิดเลยค่ะ อาจจะต้องไปถามหมอดูอีกทีหนึ่ง แต่หมอดูบอกว่าหลังจาก 33 แล้วทุกอย่างจะดี ก็เลยรอเริ่มต้นทุกอย่างหลังจาก 33 หมายถึงว่า ธุรกิจอะไรที่จะทำเพิ่ม หรือว่าการแต่งงาน มันเหมือนการเริ่มต้นชีวิต ก็อาจจะเริ่มตามที่บอก ใกล้ๆ ค่อยว่ากันอีกทีค่ะ

ถ้าแต่งงานแล้วยังจะทำงานในวงการไหม จริงๆ ในตอนแรก แฟนเขาก็อยากให้เราลดลง เพราะเคยมีคำถามว่า เมื่อไหร่จะเลิกทำงาน แต่วาก็บอกเขาว่า มันเป็นสิ่งที่วาชอบและมีความสุข ถ้าให้เราอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็คงอยู่ไม่ได้ค่ะ ก็เลยคิดว่าน่าจะทำไปเรื่อยๆ แต่ก็อาจจะน้อยลงกว่านี้หน่อยค่ะ  อะไรทำให้แพ้ใจคนนี้ เขาดูแลดีมากๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเขาอาจจะทำได้ดีกว่านี้ เขาจะบอกว่า ตอนนี้เขาทำได้แค่นี้นะ แต่เขาอยากทำให้ได้มากกว่านี้ ตอนนี้ก็คือไปรับไปส่ง อาหารการกินดูแลทุกอย่าง ก่อนนอนก็ชงชาให้ ดูแลทุกอย่างค่ะ”