เปิดใจผู้กำกับคิวทอง 'นิว ศิวัจน์' หนึ่งฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนวงการวาย

นาทีนี้ซีรีส์วายถือเป็นแถวหน้าของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีนักแสดงที่โด่งดังจากการเล่นซีรีส์วายมากมายแล้ว ยังมีแฟนคลับชาวต่างชาติทั่วโลกที่เสพย์ผลงานวายไทย งานนี้เราเลยจะมาเปิดใจ นิว-ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล ผู้กำกับชื่อดัง และหัวเรือใหญ่แห่ง Studio Wabi Sabi อีกหนึ่งฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนวงการซีรีส์วาย
 
การก้าวเข้าสู่โลกของซีรีส์วาย
ด้วยความที่นิวตามงานพี่ย้ง ทรงยศ ตั้งแต่สมัยแกทำหนัง ทำซีรีส์ ดูแล้วแบบอยากทำบ้างจัง แล้วพอมีโอกสได้ไปทำในซีรีส์เลิฟซิก มันสนุกจริงๆ ใช่ทางที่เราชอบ ก็เลยทำกันมาตลอด ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะมาซีรีส์วาย แต่ชอบซีรีส์วัยรุ่น ตอนเข้าไปทำเลิฟซิกมันสนุก ไม่มีคู่แข่ง พอมาเรื่อง 2 ก็ยังมาทำวายอีก แล้วรู้ทางคนดูในตอนนั้นเขาชอบดูแบบไหน ทำแบบไหนแล้วเขาชอบหรือเขาไม่ชอบ สมัยก่อนมันจะเป็นแค่นักเรียน ดูชีวิตของเด็กนักเรียนใสๆ  มีจิ้นกันเบาเบา ยุคนั้นแค่นั้นอยู่แล้ว แล้วในยุคนั้นสังคมยังไม่เปิดกว้าง แต่สมัยเรียนนิวถูกสอนมาว่า Niche Market ดีกว่า Mass Market  เพราะ Niche Market เราจับต้องกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เรารู้เลยว่านี่คือกลุ่มของเราจริงๆ
บทบาทหัวเรือใหญ่ วาบิซาบิ
การเปิดบริษัทเองอย่าง วาบิซาบิ เริ่มตอน ด้ายแดง เป็นเรื่องแรกที่ทำในนามวาบิซาบิ จริงๆเหตุผลที่เปิดบริษัทตอนนั้นคือ มันได้เงินจากสปอนเซอร์ก้อนใหญ่มา แล้วถ้ารับในนามบุคคลภาษีมันเยอะ ก็เลยคงต้องเปิดแล้วแหละ ตอนนั้นเรามีพนักงานแค่ 3 คน ซึ่งตอนนั้นนิวใหม่มากกับการทำงานตรงนี้ ยอมทุ่มหมดเลย ขาดทุนก็ยอม ยอมเทหมดหน้าตัก หานักแสดงเอง ตอนนั้นได้นักแสดงชั้นนำมาเยอะมาก ทั้ง  พี่นก สินจัย , อาหนิง นิรุตติ์ ,พี่กบ ทรงสิทธิ์ และอีกหลายๆ ท่าน
 
ย้อนไปในยุคที่ซีรีส์วายยังไม่ถูกยอมรับในวงกว้าง
การหาเด็กเล่นวายสมัยก่อนยากมาก สมัยก่อนสังคมไม่ได้เปิดขนาดนี้ ผู้ปกครองหรือครอบครัวไม่ได้สนับสนุน ทำไมต้องเอาลูกฉันไปจูบผู้ชาย ไม่เอาไม่ให้เล่น เราอยู่มาตั้งแต่วายโดนกดอยู่ล่างๆ อุตสาหกรรมบันเทิง จนตอนนี้พวกที่เคยกดเรากระโจนเข้ามาสู่วงการวาย แต่ในการหาเด็กนิวจะเปิดใจคุยเลย ว่าจะต้องมีฉากแบบนั้นเพราะอะไร รับได้ไม่ได้กันแค่ไหน ลิมิตคุณให้เราได้แค่ไหน ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ เราจะถามตลอดว่าให้ได้แค่ไหน เราก็จะทำแค่นั้น เราเคารพการตัดสินใจของน้องเหมือนกัน สุดท้ายถามว่าซีนมันจำเป็นต้องเล่าไหม เอาจริงๆ เลิฟซีน nc ทุกซีนในซีรีส์วายไม่จำเป็นต้องเล่า ไม่จำเป็นต้องทำก็เล่าเรื่องได้ โอเคซีนจูบมันอาจจะแสดงถึงความรัก แต่ซีน nc เราทำให้แฟนคลับเพื่อเสิร์ฟแฟนคลับ สุดท้ายเราก็คุยกับน้องว่าแฟนๆ ที่ซับพอร์ตเขาก็คงอยากเห็นแหละ ตอบแทนให้เขาหน่อยดีกว่ามั้ย อะไรที่ให้ได้ก็ให้เถอะ หาตรงกลางกันว่าสบายใจแค่ไหน
ความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะผู้ผลิต
จริงๆเลิฟซีนของนิวถือว่าเบานะ เบามาก อะไรที่ไม่จำเป็นต้องทำก็จะไม่ทำ แต่ถ้าเนื้อหามันจำเป็นต้องใส่ก็ต้องมี นิวถูกสอนมาตั้งแต่สมัยเรียนว่าสื่อมีอิทธิพลต่อคนดูนะ ทั้งการลอกเลียนแบบอะไรต่างๆ ถ้าเด็กอายุ 12 ดูแล้วอยากทำกับเพื่อนบ้างล่ะ มันไม่ได้ไง อนาคตเขาจะเป็นยังไง เขาแค่อยากลองทำตามในสิ่งที่เขาเห็น มันก็มีผลลบต่อสังคมด้วยประมาณหนึ่ง มันเป็นพฤติกรรมเลียนแบบจากสื่อ สุดท้ายเราต้องยอมรับว่าซีรีส์เป็นส่วนหนึ่งของสื่อ เพราะฉะนั้นเวลาทำซีรีส์เราจะนึกตลอดว่าใครจะดูบ้าง สุดท้ายเด็กก็ดูได้ ขนาดคนเล่นเกมแล้วไปยิงคนตายเขายังโทษเกมเลย แล้วถ้าวันหนึ่งคนดูซีรีส์แล้วเลียนแบบแบบนั้นบ้าง ถ้านิวเป็นคนทำซีรีส์เรื่องนั้นนิวคงรู้สึกผิดมากๆ
 
ถือเป็นนักปั้นเด็กเข้าสู่วงการวาย
เราเหมือนโรงเรียนอนุบาล ในวงการที่เป็นตัวท็อปตอนนี้ก็ผ่านมือเรามาหลายคนมาก แล้วเราก็ยินดีกับน้องๆ ทุกคน อย่าง บุ๋น เราคุยกันตั้งแต่จบด้ายแดงว่าไปที่อื่นไหม เราเหมือนบอนไซขนาดกลางๆ พอมันโตเต็มที่มันไปไม่ได้แล้ว ไปลงดินเถอะ ออกไปเจอชีวิตจริงๆ ไปอยู่ค่ายที่เขาท็อปในวงการอยู่แล้ว เรื่องนี้กับบุ๋นเราคุยกันมาก่อนหน้านี้ 2-3 ปีก่อนที่จะไปเซ็น น้องไม่ไปเอง ส่วนหนึ่งอาจเพราะเขาอยู่กับเรามาตั้งแต่แรก ถามว่าอยู่เป็นเสาหลักที่นี่แล้วไงต่อ ในวงการมันไม่ได้จบแค่นี้ มันควรไปได้ไกลกว่านี้ แล้วเราเองก็รู้ลิมิตของค่ายเราว่าเราส่งเขาได้แค่ไหน ไปอยู่ตรงนั้นเขาค่ายใหญ่ แล้วเราเป็นคนส่งเขาไป แล้วเราก็ทำงานกับพี่ถาอยู่ พี่ถาให้เกียรติเรามากๆ ถ้าเรื่องบุ๋นจะถามตลอด แกน่ารักมากๆ แล้วเราก็ค่อนข้างจะไว้ใจมากๆ ถ้านิวมองกำไรคงรวยกว่านี้ไปแล้ว ถ้าเก็บน้องไว้ แต่หลักๆ คือเราทำงานจากแพสซั่นเหมือนกัน เราเข้าใจเด็กทุกคน เราอยู่กับเด็กมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา บางคนโดนหลอกมาจากที่อื่น พยายามมีพื้นที่ของตัวเอง พยายามสร้างงาน เราเลยคิดว่ามันคือความสนุกความสุขและความท้าทายที่จะส่งน้องไปให้ไกลที่สุด

เกิร์ลเลิฟหรือยูริกําลังมา อยากทําบ้างไหม
เชื่อไหมมีแต่คนถามคําถามนี้ครับ จริงๆนะ ก็อยากลองทําแต่ไม่ได้มั่นใจ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าผู้หญิงเวลามีโมเมนต์กับผู้หญิงเป็นยังไง ความน่ารัก หรือลิมิตต่างๆมันเท่ากับชาย-ชายไหม จังหวะโมเมนต์จิ้นๆจะเหมือนกันไหม อะไรอย่างนี้ เราไม่รู้ไง

สิ่งที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ
ถ้าแนวที่อยากทำเลยคือแบบแซ่บๆ อย่างที่พี่กู่ เอกสิทธิ์ ทำ นิวคุยกับพี่กู่ว่าอยากทําเหมือนกันอยากลองปล่อยของแบบตบให้มันจบอะไรอย่างนี้ มันเก็บกดอะ เราทำแต่ใสๆ ก็อยากลองทำแบบให้มันฟาดกันสักทีซิ จริงๆก็อยากทําอย่างอื่นเยอะ ตอนนี้นิวอินกับพวกทนายคือนิวชอบดูซีรีส์เกาหลี นิวไม่ดูซีรีส์วายไทยเลย ดูเกาหลีเพื่อหา reference นิวดู Law School สนุกมาก อย่าง The Glory อะไรอย่างนี้ รู้สึกว่ามันมันได้ทริคมันได้ใช้ไหวพริบ ได้ใช้ของเล่นใหม่ๆที่เราไม่เคยใช้
สดใสทําแล้ว ตลกทําแล้ว ดราม่าทําแล้ว ยังไม่ได้ทําฆาตกรรม ยังไม่ได้ทําแบบสืบสวนสอบสวน ซึ่งอยากทํามาก คือเราอยากอยากไปทุกแนวให้ได้ ไม่อยากถูกจํากัดขอบเขตว่าทําได้แค่โรแมนติกคอมาดี้ ทําได้แค่ดราม่านะ เคยคุยกับหมอแซมว่าสักเรื่องเหอะ ส่งพล็อตมาให้หน่อย

ทำงานกับ GMMTV มาหลายเรื่อง ยังมีใครที่เราอยากทำงานด้วยแล้วยังไม่ได้ทำไหม
เฟิร์ส-ข้าวตัง เขาเลื่องชื่อในทักษะการแสดงมาก แล้วเรารู้จักข้าวตังมาตั้งแต่น้องเขาเล่น อาตี๋ของผม เห็นน้องโตมาตลอด รู้สึกว่าเอออยากทํางานด้วยแบบที่เป็นเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็มีคุยกับน้อง น้องก็แบบเออเอาสิพี่คุยเลย แต่เราหาบทไม่ได้ ต้องหาบทที่เข้ากับน้องด้วย อย่างบางปีพี่ถาก็จะบอกเลยว่าอะนิวทําคู่นี้ให้หน่อย เจาะจงเลยว่าทําคู่นี้ เราก็จะต้องหาเรื่องให้เข้ากับน้อง ก็มีเหมือนกัน เฟิร์ส-ข้าวตังนี่ก็คุยกันมา 2-3ปีแล้ว กับพี่ถายังไม่ได้คุยขนาดนั้นเพราะเวลาไปคุยทีเรายุ่งไง หมายถึงว่าโปรเจกต์ต่างๆมันมีอยู่ที่ยังต้องทํา แล้วอีกคนหนึ่งก็คือ น้องกัน อรรถพันธ์ มันสนุกนะ เวลาที่เราได้ทํางานกับคนเก่งๆ น้องกันนี่นิวเจอตั้งแต่น้อง 4-5 ขวบ ยังเป็นโกมินทร์อยู่เลย รู้สึกว่าน้องเป็นคนมีของเยอะ นี่อยากทํางานกับน้องมากๆ อย่าง สกาย-นานิ ก็ได้ร่วมงานด้วยกันแล้ว ได้ทำ MV

ผลงานชิ้นโบแดง
ยากนะ มันมี 2 เรื่อง ด้ายแดง กับ องศาสูญ แต่ด้ายแดงอาจจะนำนิดนึงตรงที่ได้นักแสดงมืออาชีพมาเล่นเยอะ และเป็นวายเรื่องแรกที่นักแสดงผู้ใหญ่มาเล่นขนาดนี้ ภูมิใจกับมันมากๆ

ภาพวงการวายในอนาคต
ในอนาคตเราว่าผู้ผลิตจะเหลือน้อยลง จะเหลือเฉพาะคนที่ใช่จริงๆหรืออยู่ได้จริงๆเท่านั้น เราก็พยายามปรับไปตามยุคเหมือนกันนะ ว่ายุคนี้เขาต้องการอะไร เขาชอบอะไร ถ้าสังเกตอย่าง สายรหัสเทวดา ก็เริ่มมีซีนที่เริ่มร้อนแรงขึ้น เราก็พยายาม ก็ต้องอยู่ในสังคมให้ได้

มีเหนื่อยหรือท้อบ้างไหมเพราะบางทีก็มีดราม่าบ้าง
มันก็มีบ้างในวันที่โลกมันใจร้ายกับเรามาก ในวันที่ฉันเจอปัญหาเยอะมากมากๆ แต่พอในวันที่เราเฟรชมากๆ ในวันที่เราแฮปปี้มากๆ มันเห็นแล้วก็โอเคเข้าใจแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเราเจออะไรมา แต่ต่อให้เราเข้าใจมากแค่ไหน แต่วันที่โลกใจร้ายกับเรามากๆ เราก็จะไม่เข้าใจมัน ด้วยอารมณ์ ด้วยสารเคมีในสมองที่สั่งว่าห้ามแฮปปี้ อะไรอย่างนี้

เมื่อภาวะซึมเศร้าเข้ามาหาเรา
ใช่นิวเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าถามว่าคอมเมนต์ต่างๆมีส่วนไหม มันก็มีบ้างครับ แต่สุดท้ายเรามานั่งถามตัวเองว่าทําไมฉันต้องเอาชีวิตมาอยู่ในแรงกดดันของคนอื่น สุดท้ายต้องบอกว่าทุกเสียงของแฟนคลับคือเขาไม่ได้ตั้งใจกดดัน แต่พอเราอ่านแล้วรู้สึกว่าเขาอยากให้มีแบบนี้ เขาอยากให้เป็นแบบนี้ ทําไมไม่สร้างแบบนี้ ทําไมไม่ทําน้องแบบนี้ เราเก็บความคาดหวังนั้นมากดดันตัวเอง รวมถึงศิลปินในค่ายด้วยเหมือนกัน คือน้องทุกคนมีความฝันอยากเป็นที่รู้จัก อยากได้แสดง นั่นคือแรงกดดันอีกหนึ่งอย่างเหมือนกัน ต่อให้เขาไม่เรียกร้องนะ แต่มันก็กดดันตัวเอง คือกลายเป็นว่าทั้งหมดเราเก็บทุกอย่างมากดดันตัวเอง
เราทําความเข้าใจกับมัน เรียนรู้มัน เรียนรู้การใช้ชีวิต พอเรารู้ว่าเริ่มละ เราก็ต้องรู้แล้วว่าจุดนี้ฉันจะต้องทำอะไรเพื่อให้มันไม่เกิด ดึงออกมาจากตรงนั้นให้ได้ อย่างถ้าเป็นเมื่อก่อนในโซเชียลนิวอาจจะวีนไปแล้ว แต่พอตอนนี้เราจะพยายามทำความเข้าใจกับเขาว่าเขาต้องการแบบนี้เพราะอะไร และเพราะอะไรทำไมเราถึงทำให้เขาไม่ได้ ก็แค่อธิบายครับ

คิดว่าประสบความสำเร็จในอาชีพหรือยัง
เกินมาไกลมากๆเลยครับ จริงๆเป้าหมายเราเริ่มจากการชอบในผลงานของแต่ละบ้าน ตอนเด็กๆชอบผลงานพี่ย้ง อยากทำงานกับพี่ย้ง ก็มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่นาดาวกับพี่ย้ง หรือรู้สึกว่ารายการเดอะสตาร์สนุกจังเลย ก็ได้ไปฝึกงานในค่ายเอ็กแซ็กท์ ในฝั่งโปรโมชั่น ฝั่งเพลง หรือชื่นชอบงานของแกรมมี่ ตอนนี้เราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำงานให้เขาแล้ว ได้รางวัลการกำกับก็ได้แล้ว ซึ่งทุกอย่างนี้มันเกินมาไกลมากๆแล้วครับ ตอนนี้อยากไประดับ Global ให้ได้ ก็พยายามตั้งเป้า อยากทำอย่างซีรีส์ Heartstopper ใน Netflix อยากไปอยู่ในจุดที่ทั่วโลกพูดถึงและยอมรับ อยากทำมากๆ

ผลงานปีนี้
หลักๆเลยของ GMMTV 3 เรื่อง คือ Revamp The Undead Story, Head 2 Head ไหนใครว่าพวกมันไม่ถูกกัน และ My Romance Scammer รักจริง หลังแต่ง
ส่วนของ วาบิซาบิ ก็มีหลายๆโปรเจกต์เป็นเรื่องที่ทุกคนอยากดูแน่นอน และยังมีอีกหลายๆงานที่น่าจะเซอร์ไพรส์ด้วยเพราะตอนนี้เรากำลังจับมือกับพาร์ทเนอร์หลากหลาย จากที่เรากำกับเองคนเดียวก็จะมีการให้คนอื่นมากำกับแล้วเราโปรดิวซ์ เพราะหลักๆคือเราต้องโฟกัส GMMTV และเด็กเราก็เจอเราบ่อยแล้ว พูดตรงๆคืออยากให้น้องๆเจอผู้กำกับคนอื่นบ้าง จะมีผู้กำกับที่มาทำงานให้เรามากขึ้นในนามของ สตูดิโอ วาบิ ซาบิ ส่วนตัวเราก็ดูภาพรวมแล้วก็ไปโฟกัสกับงานซีรีส์อย่าง Revamp The Undead Story บุ๋น-เปรม เรารู้สึกว่าเราสร้างเขามาเราก็อยากทำให้เขาให้ดีที่สุด แล้วก็ไม่อยากจับปลาหลายมือด้วย ก็พยายามบาลานซ์ให้ดีที่สุดครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้กำกับฯ ‘Real Pain’ เข้าชิงออสการ์ พลาดรางวัล แต่ได้สัญชาติโปแลนด์

ด้วยภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์เรื่อง ‘Real Pain’ เจสซี ไอเซนเบิร์กแค่ต้องการเข้าถึงและใกล้ชิดรากเหง้าครอบครัวของ

'จีเอ็มเอ็มทีวี' ปังต่อเนื่อง คว้า 4 รางวัลใหญ่

เรียกว่าตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง สำหรับ จีเอ็มเอ็มทีวี (GMMTV) ในเครือบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ที่เดินสายรับรางวัลมาตั้งแต่ต้นปี และล่าสุดคว้า 4 รางวัลใหญ่แห่งปี บนงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์และซีรีส์แห่งปี Thailand Box Office Awards 2024 ที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ไทย ผ่านการโหวตของแฟนๆ จากทั่วโลก

'นิว ฐิติภูมิ' อัปเดตอาการป่วยติดไวรัส มีไข้ ปวดตัว หูอื้อ อาเจียน

หลังจากมีไข้ ปวดหัว ปวดตัว หูอื้อข้างซ้าย ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ จาก GMMTV ก็ได้ไปพบแพทย์เรียบร้อยแล้ว พร้อมอัปเดตอาการป่วยให้แฟนๆทราบ

แฟนคอนฯ 'สกาย-นานิ' เสิร์ฟฉ่ำ 2 วันเต็มอิ่ม จุใจแฟนๆ ทุกโมเมนต์

เสิร์ฟฉ่ำๆ ไม่อั้นทำฮ็อบทุกโมเมนต์ สำหรับงาน “SKY-NANI FRIENOMENON FANCON” ของสองหนุ่มเพื่อนซี้เคมีดีต่อใจ “สกาย-วงศ์รวี นทีธร” และ “นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ” จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่เรียกว่าทำคนดูฟูลฟีลข้ามวันข้ามคืน กับมวลความสนุกสุดประทับใจบนเวทีแห่งความทรงจำ พร้อมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษทั้ง 2 วัน อย่าง วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์, ฮง LYKN (พิเชฐพงศ์ จิรเดชสกุลวงศ์) และ นินิว-คริสติน่า แซ่แต้

ฟีเวอร์ข้ามทวีป 'มอส - แบงค์' บุกตลาดลาตินอเมริกา ร่วม 3 อีเวนต์ใหญ่!

กระแสความแรง ความปังมีอย่างต่อเนื่อง สำหรับสองนักแสดง คู่จิ้น มอส-ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ และ แบงค์-มณฑป เหมตาล แห่ง บ้าน Star Hunter Entertainment ที่พอจบ ซีรีส์ “Sunset X Vibes” (เพียงชลาลัย) ก็ควงคู่ออกงานอีเวนต์ทั้งไทยและต่างประเทศแบบไม่ได้พัก

'LYKN' ตัวแทนศิลปินไทยหนึ่งเดียว ร่วมแสดงในขบวนพาเหรดที่ฮ่องกง

นับเป็นความภาคภูมิใจของ 5 หนุ่ม LYKN (ไลแคน) ประกอบด้วย วิลเลี่ยม จักรภัทร, เลโก้ รพีพงศ์, นัท ธนัท, ฮง พิเชฐพงศ์, ตุ้ย ชยธร บอยแบนด์สุดฮอต ผู้ชนะจากรายการเซอร์ไววัล Project Alpha โดย GMMTV คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่เป็นศิลปินไทยเพียงวงเดียว บินลัดฟ้าสู่ฮ่องกงเป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมแสดงในขบวนพาเหรดยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นปีแรก ในงานสเกลยักษ์ประจำปี Cathay International Chinese New Year Night Parade