'บอสณวัฒน์' ควง 'ชาล็อต' แถลง กลโกงมิจฉาชีพทำสูญเงิน 4 ล้าน!

หลังจากที่ทางเพจ Miss Grand Thailand ได้โพสต์ว่านางงามสาว ชาล็อต ออสติน ถูกมิจฉาชีพหลอกเงินกว่า 4 ล้านบาทรวมถึงบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ล่าสุด ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้พา ชาล็อต ออสติน แถลงข่าว

โดยบอสณวัฒน์ เผยว่าเหตุครั้งแรกชาล็อตโอนเงินไป 2 ล้าน และมิจฉาชีพ ก็รู้งาน มีการรอให้พ้นไปอีกวัน เพื่อที่จะทำการโอนใหม่ และพยายามบอกให้เปิดวิดีโอคอลนานถึงตีสาม จนชาล็อตหลับ นอกจากนี้ยังได้เปิดเสียงมิจฉาชีพที่คุยกับชาล็อตให้สื่อฟัง พบว่าเป็นผู้ชาย มีการใช้เสียงเหมือนข่มขู่ว่า "ผมช่วยได้เท่าที่ผมจะช่วย หากโอนเงินเข้ามา" พร้อมทั้งสั่งว่าห้ามวางสาย

ด้าน ชาล็อต เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ไม่ได้ปิดวิดีโอ มีการชาร์จแบตทิ้งไว้ แม้จะเผลอหลับไป และเลขาได้มีการหาข้อมูล ยังไม่ได้มีการวางเพราะยังไม่ได้มีการอัดหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน จนช่วงเช้ามารู้ว่าโดนหลอก เลยขอให้เปิดกล้อง แต่ก็โดนข่มขู่ว่า จะโดนคดีเพิ่มอีก ซึ่งตอนั้นไม่ได้เอะใจ เพราะมีเอกสารส่งมา มีหมายจับจริงๆนะ มีการส่งหมายยุติ จากผู้ต้องหา เป็นผู้เสียหาย ทำให้เราเชื่อว่า เป็นข้อมูลจากทางรัฐ เพราะมีข้อมูลลึกยันบัญชีธนาคาร ในทำนองว่า ข้อมูลของเรารั่วไหล จนกลายเป็นผู้ต้องหา

มีการแจ้งความแล้วค่ะ เมื่อ 8 ธันวาคม เวลาตีสี่กว่าๆ ที่ สน.สุทธิสาร ตอนที่โอนไม่ได้เอะใจจริงๆ เพราะบอกว่า เป็นการตรวจสอบของรัฐ วิดีโอที่เก็บเป็นหลักฐานเป็นช่วงเช้าที่มีการโทรกลับ เขาบอกว่าให้เปิดกล้อง เพื่อถ่ายเป็นหลักฐานรูปลักษณ์หน้าตา ซึ่งสายแรกอยู่คนเดียวตลอด และข่มขู่ว่า ถ้าคนอื่นรู้จะมาจับกุมตัว

เขาบอกว่า เราเป็นผู้ต้องหา โดยนายศรัทธา มีการซื้อสุมบัญชีต่อ 5 หมื่นบาท ซึ่งเราไม่รู้จัก และอยากทราบว่า เราเกี่ยวพันกันได้อย่างไร เพราะเราไม่เคยขายบัญชี และตอนนั้นอยากตรวจสอบว่า เงินของเราบริสุทธิ์ เราเข้าใจว่า เป็นหน่วยงานของรัฐจริงๆ

ที่หลงเชื่อ มันคือความกลัวที่เราอยู่คนเดียว และมีการโชว์หมายจับด้วย ทำให้เราเกรงว่า จะเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะต่อให้ไม่เป็นความจริง สังคมก็ต้องมองว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง เลยยอมให้ความร่วมมือ ยอมรับว่า คุยไปร้องไห้ไป และคิดว่า เราจะได้เงินคืน หากเราโอนไป แล้วเขามีการประชุมที่ละยอดๆ เลยรออยู่ รู้ว่ามีมิจ แต่ไม่ได้รู้ว่ามาในรูปแบบนี้ เพราะปกติไม่รับเบอร์แปลก

รู้สึกช็อกที่เงินหายไปเยอะ ได้แต่ใจเย็น และมีสติในการหาเงินใหม่ และตอนนี้ไม่ค่อยรับเบอร์ใหม่แล้ว พยายามไม่อยู่คนเดียว ให้มีเพื่อนอยู่ด้วย และรับโทรศัพท์แทน"

ซึ่งบอสณวัฒน์ยังเสริมอีกว่าได้นำคลิปไปเช็คแล้วพบว่าเป็น AI "บอกเขา ยังไงก็แล้วแต่ให้ตั้งสติ เพราะเงินไม่มีทางกลับมา คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ประเทศไทย เป็นแก๊งอยู่ต่างประเทศ แล้วก็ส่งคลิปที่ได้ไปเช็คกับผู้เชี่ยวชาญและเพื่อนฝูงหรือกับตำรวจ เขาก็บอกว่า AI ล้านเปอร์เซนต์ อาจจะใช้คนปกติเอาหน้ากับคอมาตัดต่อใส่กันลงไปและมีคนพูดอยู่ข้างๆ มันจึงแนบเนียน และค่อนข้างครบวงจร ที่น้องทำตามหลักๆน่าจะมาจากความกลัว ว่าใครจะแอบอ้าง เอาชื่อไปใช้หรือเปล่าทำให้ความตระหนักถึงเหตุและผลมันอาจจะน้อยไปหน่อย"

ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ชาล็อต ก็ได้เข้าไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีตามขั้นของกฏหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล้วงคองูเห่า! ปลอมเฟซ ‘ผบ.ตร.’ สร้างโปรไฟล์ งาน ภารกิจเหมือนจริง ตีสนิทหลอกลงทุน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์แจ้งเตือนระบุว่า อย่าเชื่อ อย่ารับแอด กดรีพอร์ต  'บัญชีเฟซบุ๊กปลอม' แอบอ้าง เป็น ผบ.ตร.

เตือน ‘โจรออนไลน์’ สร้างบัญชีปลอม ‘ธนาคารออมสิน’ เปิดให้สินเชื่อระวังสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล 

ดีอี เตือน “โจรออนไลน์” สร้างบัญชีปลอม “ธนาคารออมสิน” เปิดให้สินเชื่อ ผ่าน TikTok  หวั่นสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล

รบ.อวดรัฐบาลปราบอาชญากรรมออนไลน์ลดฮวบ 21%

รบ. เผย ตัวเลขอาชญากรรมออนไลน์ลดฮวบปี 67 ลดลง 21.74%  รัฐสั่งคุมเข้มแพลตฟอร์มดิจิทัล ให้ปลอดภัยขึ้นภายใต้กฎหมาย DPS คาดปีนี้ ต้องลดให้ได้อย่างน้อย 70%