‘เอวา ลองโกเรีย’ หันหลังให้กับสหรัฐฯ หลังชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์

(เอวา ลองโกเรีย เป็นหนึ่งในแวดวงบันเทิงที่ร่วมรณรงค์ให้กับกมลา แฮร์ริส ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี – Photo by Michael Tran / AFP)

ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เอวา ลองโกเรีย สนับสนุนกมลา แฮร์ริสอย่างเสียงดังฟังชัด กระทั่งหลังการเลือกตั้งซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์เป็นฝ่ายชนะ เธอเริ่มมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองในสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว

ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริสมีคนดังของอเมริกาจำนวนมากคอยหนุนหลัง ตั้งแต่เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไปจนถึงบรูซ สปริงสทีน รวมถึงดาราฮอลลีวูดอีกหลายคนออกมาส่งเสียงเชียร์ผู้สมัครจากพรรคดีโมแครต เอวา ลองโกเรีย ดาราผู้มีชื่อเสียงจากซีรีส์ ‘Desperate Housewives’ ก็เช่นกัน เธอทุ่มเททั้งแรงกายและใจให้กับพรรคดีโมแครตอย่างกระตือรือร้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ในที่สุดความพยายามทั้งหมดก็บรรลุผลเพียงเล็กน้อย โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง

สำหรับลองโกเรียแล้ว เรื่องนี้ได้นำความทรงจำเก่าๆ กลับมา อย่างที่เธอพูดเล่าในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Marie Claire “ฉันไม่เคยรู้สึกหดหู่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต” เธอกล่าวย้อนถึงช่วงเวลาหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 แปดปีถัดมาเธอก็รู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง แต่เธอไม่แปลกใจเลย “สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่เรื่องที่เขาชนะ” ลองโกเรียบอก “แต่ความจริงที่ว่าอาชญากรซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดและที่เผยแพร่ความเกลียดชังอย่างมากมาย สามารถดำรงตำแหน่งสูงสุดของประเทศได้ต่างหาก”

เธออยากจะมีส่วนร่วมทางการเมืองต่อไป แต่ใจหนึ่งก็มีความรู้สึกสับสน “ฉันอยากจะเชื่อว่าการต่อสู้ของเราจะยังดำเนินต่อไป” ลองโกเรียกล่าว แต่ถ้าทรัมป์ “ทำตามสัญญาที่เขาหาเสียงไว้ละก็ อเมริกาจะกลายเป็นสถานที่ที่น่ากลัว” นักแสดงหญิงบอก

เอวา ลองโกเรียค้นพบหนทางที่จะชี้นำอนาคตของตัวเองและครอบครัวซึ่งประกอบด้วยสามีกับลูกชายแล้ว เธอใช้ชีวิตไปมาระหว่างเม็กซิโก สเปน และบางครั้งบางคราวในสหรัฐอเมริกามาหลายปี ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นโปรเจ็กต์งานที่จะนำพาเธอกลับไปยังบ้านเกิด เธอไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรอีกต่อไป โดยเฉพาะหลังจากที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะ

“ฉันค่อนข้างมีอภิสิทธิ์” นักแสดงวัย 49 ปีบอก “ฉันสามารถหลบลี้ไปที่ไหนสักแห่งได้ คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่โชคดีอย่างนั้น พวกเขาจะติดอยู่ในประเทศดิสโทเปียแห่งนี้ ที่ฉันรู้สึกทั้งกลัวและเศร้าแทนพวกเขา”

อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าตนเองเป็นคนรักชาติคนหนึ่ง ที่อยากจะเชื่อมั่นในสิ่งดีๆ ในสหรัฐอเมริกาต่อไป แต่ขอแค่เว้นระยะห่างทางภูมิศาสตร์เล็กน้อยเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง