‘สแตนลีย์ ทุชชี’ คุยเรื่องอาหาร มะเร็งช่องปาก และความเซ็กซี่ในวัย 63 ปี

(สแตนลีย์ ทุชชี นักแสดง นักเขียน และนักชิม เข้าข่ายเป็น ‘เซ็กซ์ซิมโบล’ แม้ในวัย 63 ปี – Photo by Leon Bennett / Getty Images North America / Getty Images via AFP)

นักแสดงฮอลลีวูด สแตนลีย์ ทุชชี ยังคงถูกมองว่ามีเสน่ห์ทางเพศมาก แม้ว่าเขาอายุเกิน 60 ปีแล้วก็ตาม คลิปวิดีโอเก่าซึ่งถ่ายระหว่างเขาผสมเครื่องดื่มให้ภรรยาแล้วโพสต์บนอินสตาแกรมน่าจะมีส่วนทำให้หลายคนคิดเช่นนั้น

สแตนลีย์ ทุชชี พูดในการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เขาถูกใครๆ มองว่าเป็นเซ็กซ์ซิมโบลหลังจากที่เขาเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางอินสตาแกรม นักแสดงวัย 63 ปีเคยผสมเครื่องดื่ม Negroni ให้กับภรรยาของเขา-เฟลิซิตี บลันท์ เมื่อไม่กี่ปีก่อน หนังสือพิมพ์ The Observer ฉบับวันอาทิตย์ของอังกฤษ ได้ถามนักแสดงชาวอเมริกันว่ารู้สึกอย่างไรที่เขากลายเป็นชายในฝันของใครหลายคนในวัยนี้

“ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก” ทุชชีตอบ “รู้ไหม ผมแอบหวังว่ามันจะคงอยู่อีกนาน” เขาเล่าว่าปกติแล้วเขามักจะเล่นสนุกเกี่ยวกับการเล่นคำด้วยประโยคถาม-ตอบกับเฟซิลิตี เป็นเรื่องขำๆ เมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกัน “แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วผมไม่ค่อยใช้ความคิดกับเรื่องอะไรจริงจัง ผมมีความสุขกับมัน แต่มันไม่ได้อยู่ในสมองของผมตลอดเวลา ผมคิดว่าชีวิตมันก็ซับซ้อนเกินไปอยู่แล้ว”

ทุชชีเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในฮอลลีวูดมานานหลายทศวรรษ เขาเคยมีบทบาทการแสดงในภาพยนตร์อย่างเช่น ‘A Midsummer Night’s Dream’ (1999) ‘The Devil Wears Prada’ (2006) ‘The Hunger Games’ (2012-2015) ‘Supernova’ (2020) และ ‘Whitney Houston: I Wanna Dance with Somebody’ (2022) แต่เขาไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงเท่านั้น เขายังมีผลงานเขียนหนังสือเกี่ยวกับอาหารตีพิมพ์หลายเล่มอีกด้วย

เคท ทุชชี-ภรรยาคนแรกของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2009 ความโศกเศร้าเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงติดตัวเขาอยู่ ทุชชีบอก “แต่ถ้าเธอยังคงมีชีวิตโลดแล่นอยู่เหมือนตอนเริ่มต้น ทุกอย่างก็คงไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้” เมื่อหกปีที่แล้วตัวเขาเองก็ได้รับการบำบัดรักษาหลังจากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งด้วยเหมือนกัน แต่ก็เป็นความโชคดีในความโชคร้าย ที่เขาเป็นมะเร็งในช่องปากระยะแรก ยังไม่มีการแพร่กระจายของเนื้อร้าย

“ผมไม่เคยกลัวความตาย แต่ผมกลัวว่าจะลิ้มรสอะไรไม่ได้อีกเลย” เนื้องอกมีขนาดใหญ่ ถ้าแพทย์ทำการผ่าตัดเพื่อกำจัดมันออกไป เขาคงจะสูญเสียการรับรู้รสชาติและกลิ่นไป หากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่สามารถกิน พูด หัวเราะ หรือดื่มไวน์ที่เขาโปรดปรานได้ “ผมคงไม่สามารถมีชีวิตที่สนุกสนานได้อีกต่อไป” ทุชชีว่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่เข้ารับการผ่าตัด แต่เลือกวิธีฉายรังสีและเคมีบำบัดแทน “และมันก็ได้ผล แม้ว่าจะต้องทนเจ็บปวดมากก็ตาม”

ในหนังสือ ‘Taste: My Life Through Food’ (2021) หนึ่งในบรรดาผลงานหนังสือหลายเล่ม เขาไม่เพียงแต่เขียนเกี่ยวกับอาหารสำหรับคนในครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเขียนถึงเรื่องมะเร็งในช่องปากด้วย ซึ่งการบำบัดรักษาทำให้เขาเกือบต้องสูญเสียการรับรู้รสชาติของอาหาร

เขาต้องทนฝืนชินกับอาหารเหลวเป็นเวลานานหลายเดือน “ทุกวันนี้ผมก็ยังกินได้ไม่หมดทุกอย่าง โดยเฉพาะอาหารที่แห้งและแข็ง อย่างสเต็กนี่ไม่ได้เลย เพราะในช่องปากของผมยังผลิตน้ำลายได้ไม่เพียงพอ แม้แต่แครอตก็ไม่ได้ น้ำส้มสายชูจะทำให้เจ็บ รวมถึงไวน์แดงด้วย ซึ่งน่าเสียดาย แต่ความบกพร่องนี้ยังทำให้ผมอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น มันทำให้ตอนนี้ผมนึกอยากทดลอง”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวนคนถือ 'บัตรทอง' คัดกรองความเสี่ยงมะเร็ง 4 รายการฟรี

​โฆษกรัฐบาลย้ำ รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาระบบประกันสุขภาพให้ประชาชน เชิญชวนคนไทยผู้มีสิทธิบัตรทอง เข้าถึงสิทธิประโยชน์ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็ง 4 รายการไม่เสียค่าใช้จ่าย