ถูกโยงไปเอี่ยวกับประเด็น THE iCON GROUP เพราะเคยมีภาพถ่ายกับ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล สำหรับนักแสดงชื่อดัง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ทำให้เจ้าตัวร้อนใจจนต้องเปิดแถลงข่าว
ยืนยันตนเป็นเพียงพรีเซนเตอร์สินค้าตัวนึงเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับระบบการบริหารหรือเรื่องราวที่กำลังเป็นดราม่าอยู่ และตนก็มีการตรวจสอบตัวผลิตภัณฑ์ว่าผ่าน อย. แล้ว พร้อมตรวจสอบว่าบริษัทว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ หรือ ข้อมูลถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่เรื่องระบบการบริการหลังบ้านที่ไม่เกี่ยวกับงานพรีเซนเตอร์สินค้านั้นเกินขอบข่ายหน้าที่ที่ตนได้รับ แต่ตนยอมรับว่าร้อนใจและเป็นห่วงผู้เสียหาย
"ขอบคุณที่พี่ๆสื่อมาตรงนี้ รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จริงๆได้รับรู้ข้อมูลต่างๆมาทางทีมงานแล้วรู้สึกว่าอยากจะมาชี้แจงเองมากกว่าว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นพรีเซนเตอร์ให้เขาในรูปแบบใดอะไรยังไง คือพีรับงานนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโปรดักส์ บูม ไอซี เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงสายตา ของบริษัท THE iCON ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2565 สัญญาทั้งหมด 1 ปี เงื่อนไขสัญญาทั้งหมดใน 1 ปี พีทำงานกับเขา 3 วัน คือถ่ายภาพนิ่ง ออกรายการ พีพีxกันต์ และมีอีกอย่างนึงก็คืออีเวนท์เปิดตัวโปรดักส์ นอกนั้นไม่มีเลย อันนี้ถูกระบุไว้ในสัญญาทั้งหมด แล้วตัวพีก็ทำหน้าที่โปรโมตผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเลยครับ
เหตุผลที่ตัดสินใจรับงานนี้ ตอนนั้นเพิ่งออกจากบริษัทเก่า แล้วเพิ่งเริ่มทำบริษัทใหม่ของตัวเอง ก็มีผลิตภัณฑ์นี้ติดต่อมา ทางทีมก็ได้เช็กทั้งหมดแล้ว ว่าผ่านการรับรองจากหน่วยงานรัฐ และตัวผลิตภัณฑ์ผ่านอย. แล้ว แล้วก็เช็กถึงบริษัทว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ ข้อมูลถูกต้องตามกฎหมายไหม เช็กมาเรียบร้อยแล้ว จริงๆตกใจตอนนี้ก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ ตัวพีเองจะทราบข้อมูลโปรดักส์อย่างเดียวเลย กิจกรรมภายในบริษัท กลยุทธ์การตลาด การขายต่างๆ พีไม่รู้เลย ถามว่าวันแถลงเขามีระบุว่าไหมว่าต้องพูดอะไรบนเวที ก็มีครับ แต่พีจะขายแต่โปรดักส์ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น ส่วนเรื่องปรับแก้สคริปต์ ก็จะมีทีมงานปรับแก้ให้ทั้งหมดอยู่แล้ว คืออะไรที่มันมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงหรือมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พีต้องการพรีเซนต์โปรดักส์ พีก็จะตัดทิ้งทั้งหมด คือก่อนจะมาถึงพี ทีมงานกรองให้หมดแล้วครับ
ในสัญญาระบุว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็จะแบ่งจ่าย 2 งวดครับ ไม่ได้มีว่ายอดขายเท่าไหร่จะได้เพิ่ม ได้เป็นค่าแบบโฆษณาในการโฆษณาสินค้า ซึ่งสัญญาก็หมดไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 กับตัวคุณพอล พีไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เขาเป็นผู้ว่าจ้างพีมารับงานโฆษณาอันนี้ พีรู้จักกันในการทำงานนี่แหละครับ เจอกัน 3 วันใน 1 ปีนั้นเลย ตอนเจอเขาเขาก็ไม่ค่อยพูดอะไรกับหนูนะ หนูอาจจะไม่น่าคบหรือเปล่า เขาไม่เคยชวนไปร่วมลงทุนอะไรเลย เขาไม่ค่อยได้คุยอะไรกับหนู
วันนี้ร้อนใจออกมาเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนๆ และเป็นห่วงผู้เสียหายทุกคนมากกว่า ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด อยากมาชี้แจงให้ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร ยินดีให้ความร่วมมือทุกๆ อย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอกสารทางการเงินและตัวสัญญา 1 ปีที่เป็นพรีเซ็นเตอร์มา ส่วนตัวพีไม่ได้รับฟีดแบ็กปัญหาอะไร พีไม่รู้ ไม่ได้ทราบ ไม่ได้มีส่วนตัวมาหา หรืออาจจะมีแต่พีอาจจะไม่ได้เห็น เพราะเราเองไม่ได้อ่าน คือมันผ่านมาปีครึ่งแล้วด้วย ถ้ามีทางทีมอาจจะต้องแจ้งผ่านทางบริษัทไป แล้วบริษัทจะแจ้งกลับมาหาพีอยู่แล้ว แต่เท่าที่พีรู้คือไม่มี สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ในตอนนี้ คือให้ความร่วมมือทางกฎหมาย ถ้าอยากได้ข้อมูลอะไรต่างๆ จากตังพี พีสามารถให้ได้และยินดีมากๆ ด้วย
จริงๆ ทุกครั้งที่พีรับพรีเซ็นเตอร์ อย่างแรกเลยคือพีชอบ และพีโอเคกับสินค้านั้นๆ แล้วก็ไปเช็กตามระบบกฎหมายทั้งหมดตามที่บอก แล้วถ้าสมมติตัวพีโอเค แล้วมันตรงกับความชอบ พีก็จะรับสิ่งนั้น ส่วนในเรื่องความระมัดระวังก็คงมากขึ้น หลังจากนี้บริษัทคงรัดกุมมากขึ้น และเลือกรับงานที่เราอาจจะลงไปดูดีเทลกับสิ่งนี้มากขึ้นด้วย
คือทางตัวบริษัทเอง พีไม่ได้รับรู้อะไรเลย จริงๆ พีเองพรีเซนต์สินค้าจริงๆ อะไรไม่ได้เกี่ยวกับโปรดักส์ก็จะไม่พูดถึง จะไม่พรีเซนต์สิ่งนั้นเลย อันนี้คืออยู่ในข้อสัญญาอยู่แล้ว
สิ่งที่พีรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ในคอมเมนต์ คือการที่เขาพูดว่าดาราศิลปิน ตั้งใจมาทำให้คนเชื่อถือหรือว่าตาม จริงๆ ทุกงานพีตั้งใจทำจริงๆ พีทำด้วยความรักจริงๆ วันนี้มีผู้เสียหายค่อนข้างเยอะ ก็รู้สึกเสียใจครับ จริงๆ เหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับคนรอบตัว คนที่เรารัก หรือใครก็ตาม พีรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่พีต้องระมัดระวังมากขึ้น ในการรับงานครั้งหน้า ไม่เคยคิดอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จริงๆ พีไม่สามารถเข้าไปดูกิจกรรมบริษัทของเขาได้เลย พีมีหน้าที่พรีเซนต์แต่ตัวโปรดักส์ตามสัญญา
ในการออกมาเทคแอ็กชั่นวันนี้ จริงๆ ไม่มีใครกดดันพี มีแต่พีกดดันตัวเอง คือถ้าช่วยเหลือสังคมได้ส่วนเล็กๆ พีก็อยากจะทำครับ พีไม่อยากให้คนมองว่าศิลปินตั้งใจมาหลอกให้ซื้อสินค้า สำหรับตัวพีพีตั้งใจทำงานทุกงาน พีทำงานด้วยความรัก พอมีคนได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ พีก็รู้สึกเสียใจจริงๆ ไม่รู้จะพูดยังไงเลย พีไม่ได้อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับแฟนๆ พีอยู่แล้ว
หลังหมดสัญญาไม่ได้ติดต่อกับบริษัทอีกเลยครับ คือไม่ต่อสัญญาด้วย ไม่ได้ติดต่ออะไรเลย ถามว่าทำไมไม่ต่อสัญญา คือเขาไม่ได้ติดต่อหนูมา วันนี้ได้แถลงข่าวแล้วก็สบายใจนะครับ ออกมาพูดตรงนี้ประเด็นหลักคืออยากจะมาช่วยเหลือและยินดีความร่วมมือทั้งหมด (ฝากบอกอะไรบิวกิ้นไหม?) ฝากบอกบิวกิ้นว่าเธอไม่ต้องห่วงทางนี้ ตั้งใจเรียนไป"
นอกจากนี้พีพียังเผยอีกว่าตนมีการปรึกษากับ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ด้วย "จริงๆ ก็มีทางทีมคุย คือก็มีปรึกษาครับ มีคุยกันตลอด เขาก็เป็นห่วง เราจะออกมาชี้แจงอันนี้ บิวกิ้นก็ได้คุยครับ เขาก็ตามใจพีนี่แหละครับ เป็นพีเองที่รู้สึกไม่สบายใจมากกว่า พีอยากออกมาชี้แจงเรื่องนี้จริงๆ บิวกิ้นเขาก็ให้กำลังใจบอกสู้ๆ เราก็บอกว่าขอบคุณครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองปราบ ยื่นขอหมายจับ 'เจ๊พัช กฤษอนงค์' 2 ข้อหาหนัก!
พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ได้นำหลักฐานและคำให้การของพยานในคดีทั้งห
'ฟิล์ม-เจ๊พัช' ระทึก! 'ผบ.ตร.' ชี้ผิดจริง หมดสิทธิ์ลอยกระทง
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์
'อี้ แทนคุณ' แฉ 'ฟิล์ม' ไม่ได้ตบทรัพย์แค่ 20 แต่เป็น 60 ล้านบาท
'อี้ แทนคุณ' แฉอีก 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ไม่ได้ตบทรัพย์ แค่ 20 ล้าน แต่เป็น 60 ล้าน ลั่นไปถามฟิล์มเขาก็รู้ ผู้เสียหายอยู่ภาคใต้ เชื่อเป็นแนวร่วมให้เทวดาดิไอคอนตัวจริง แย้มเร็วๆ นี้ ได้เห็นแน่ ทนายคนดังอาจโดนด้วย
'ทนายบอสพอล' มั่นใจชี้แจงได้หมด อ้าง 'ดีเอสไอ' แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ ค่อนข้างหลวม
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า หลวมดี เพราะหากดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมา
พยาน 20 คน ฝั่งดิไอคอน ให้ปากคำดีเอสไอ ทนายขอให้สอบพยานเพิ่มอีกกว่า 2 พันคน
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจขายสินค้าบริษัทฯ จริง
ตรวจพบเส้นเงิน 'บอสพอล' เชื่อมแม่นักการเมือง ออกหมายเรียก 'เอกสายไหม' กุพยานเท็จ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช. ก. กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบคลิปเสียงเทวดาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ที่ปรากฏเทวดาอักษรย่อ ส. ว่า ในส่วนนี้มีการสืบสวนหาข้อมูลและพบแล้วว่ามีเส้นที่ไปถึงจริง แต่เป็นเส้นเงินระหว่างนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล