เปิดใจพระเอกสุดฮอต 'กลัฟ คณาวุฒิ' กับเส้นทางศิลปินพร้อมเพลงใหม่ 'WITH YOU'

นอกจากผลงานเรื่อง "ลออจันทร์" หนึ่งในละครชุด "ดวงใจเทวพรหม" ที่เพิ่งจบไปจะสร้างเสียงตอบรับที่ฮือฮาจนส่งผลให้นักแสดงนำดังเป็นพลุแตกกันแทบทุกคนแล้ว พระเอกสุดฮอต กลัฟ-ณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ก็มีอีกมุมที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นสิ่งที่รักและมีความสุขที่ได้ทำนั่นก็คือการเป็น "ศิลปิน"

เพลงใหม่ WITH YOU เพิ่งปล่อยออกมาสดๆร้อนๆ

"ฟีดแบคดีครับ ต้องขอบคุณแฟนคลับจริงๆที่คอยซับพอร์ต ช่วยแชร์ ช่วยทำให้เพลงนี้ส่งออกสู่สายตาคนอื่นๆด้วย เพลงนี้ก็ได้ร่วมงานกับพี่ท็อป lazyloxy ด้วยครับ จริงๆชื่นชอบสไตล์การทำเพลงและการดีไซน์แรปของพี่เขามากครับ แล้วก็ยังร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ อีกครั้งครับหลังจากที่เคยร่วมงานกันมาในเพลงที่แล้ว พี่เค้าก็จะรู้เลยว่าผมชอบอะไรสไตล์ไหนเค้าก็ซับพอร์ตผมเต็มที่ น่ารักมากๆ จริงๆแค่ได้เจอก็ดีใจแล้วแต่พอได้มาร่วมงานกันก็เกินฝันแล้วครับ

ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากพี่ๆเค้าเลยครับ ทั้งเรื่องการแรปการแสดงบนเวที เรียนรู้ความเป็นมืออาชีพของพี่ๆทุกคน พี่ๆแต่ละคนก็มีความสามารถแตกต่างกันออกไปมีสไตล์ต่างกันออกไปเราก็นำมาประยุกต์ใช้กับตัวเองครับ"

จากบทบาท "นักแสดง" มาสู่ "ศิลปิน"

"ดาราหรือศิลปินไทยในยุคปัจจุบันก็มีความสามารถรอบด้านมากขึ้น เพราะเด็กๆสมัยนี้ก็มีความสามารถมาก ฉะนั้นผมก็เลยแอคทีฟตัวเองตลอดทั้งพาร์ทเพลง พาร์ทแสดง หรือพาร์ทแฟชั่น จริงๆมันเกิดจากการที่เราอยากทำในสิ่งที่เรารัก จะมองว่าเราเป็นนักแสดงเป็นศิลปินหรือเป็นแรปเปอร์ก็ได้หมดเลยครับ เราแค่อยากทำในสิ่งที่เราชอบเรารักแค่นั้นเอง

จริงๆ ก็มีการแต่งเนื้อเพลงไว้อยู่ น่าจะได้เห็นได้ฟังกัน ก็มีแพลนไว้ ต้องรอติดตามครับ ที่เริ่มแต่งเพลงเองจริงๆจังก็น่าจะต้นปีที่แล้ว ในช่วงที่เราได้คลุกคลีกับพี่ๆศิลปิน เราก็เริ่มมีไฟ มีแพชชั่น พอเราเห็นพี่ๆเค้าทำเบื้องหลัง แต่งเนื้อ ทำดนตรี เราก็รู้สึกว่าเราอยากมีผลงานที่เกิดจากไอเดียเราทั้งหมด เราทำเองทั้งหมด ให้ทุกคนได้ฟังเหมือนกัน ที่แต่งไว้ก็เป็นแนวอกหักครับ ตอนนั้นอยู่ทะเล ไปถ่ายงานอะไรสักอย่างกับทีม นั่งอยู่ริมทะเลคนเดียว มองทะเล ฟังเพลง แล้วอารมณ์มันมา แต่เพลงล่าสุดนี้ก็ให้เป็นหน้าที่ของพี่ๆศิลปินที่เป็นมืออาชีพไปก่อนครับ แต่เราก็เริ่มมีส่วนร่วมกับเพลงใหม่ๆมากขึ้น อย่างเพลงนี้ WITH YOU เราก็จะมีส่วนร่วมแชร์ไอเดียในพาร์ทแรปทำกับน้องๆ New Blood อย่างท่อน "So baby you’re the one ใต้เงาพระจันทร์และท้องนภา" ประมาณนี้ครับ"

กว่าจะมีวันนี้ก็เจอมาเยอะ!

"ใช่ครับ จนมาวันนี้เราได้ประสบการณ์ ได้ความแข็งแกร่ง ได้เป็นคนมองโลกในแง่บวกมากขึ้น เพราะคนที่คิดมากจะทำงานในวงการบันเทิงยากครับ หลายอย่างต้องรู้จักปล่อยวาง ช่างมัน และเป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่เราได้รับมอบหมายให้เต็มที่ ท้อไหมไม่ท้อแต่เหนื่อยเวลาทำงาน แต่พองานมันออกมาแล้วเห็นฟีดแบคแล้วก็ชื่นใจ มันก็อาจจะมีทั้งฟีดแบคที่ดีและที่เราอาจจะรู้สึกว่าเราต้องนำตรงนั้นมาพัฒนาตัวเองต่อๆไป ให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นก็แล้วกัน ส่วนอะไรที่เราแก้ไขไม่ได้ก็ต้องช่างมันบ้าง อย่าไปเก็บเอามาคิด เพราะเมื่อก่อนคิดมากกว่าตอนนี้ ด้วยความที่เรายังใหม่ เรารับมือไม่ทันเวลาเจออะไรที่ส่งผลลบกับเรา เราจมอยู่กับมันทั้งวัน มันหนักมากสำหรับเด็กคนนึง มันงง อยู่ๆก็โดนด่าว่าตอแหล ผมงงเลย เราไปตอแหลอะไร มันก็ค่อนข้างหนัก ถ้าเป็นการติชมผลงานผมโอเค ถ้ามันแย่ก็ติได้โอเค ตอนนั้นมันหนักมาก แล้วผมเพิ่งเข้ามาในวงการบันเทิง จะออกมาพูด จะขยับตัวอะไรไม่ได้เลย เพราะถ้าออกมาพูดตอนนั้นมันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อไปอีก ตอนนั้นเราไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนดัง เราก็เด็กคนนึง แต่พอเหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นทำให้เราเรียนรู้ว่าเราจะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ต้องแคร์อะไรเยอะมากขึ้น สงสารตัวเองตอนนั้น พูดจริงๆถ้าให้ผม ณ ตอนนี้ไปเจอเหตุการณ์ในวันนั้นกับผมในวัยนั้น บางทีผมอาจจะยังจัดการกับมันได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยด้วย แล้วคิดสภาพเด็กในวันนั้นที่มันยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย เพราะเรายังใหม่มาก เราก็เลยต้องอยู่กับที่บ้าน อยู่กับเพื่อนๆเยอะๆ พยายามไม่คิดอะไร เพราะถ้าอยู่คนเดียวก็จะเข้าไปส่องอยู่นั่นแหละ อยู่กับเพื่อนจะได้ไม่ต้องจับโทรศัพท์ และยุคผมเป็นยุคที่โซเชียลมีแอคหลุม แอคอวตารเยอะมาก คนก็กล้าที่จะมาแสดงความคิดเห็นหลายอย่างที่ค่อนข้างจะหนักมาก แรงสุดก็ ตอแหล นี่แหละครับ ผมว่ามันแรงมากนะ ไม่เคยมีใครมาด่าเราแบบนี้มาก่อน คนพูดไม่ได้จำแต่คนฟังมันจำ อันนี้จริงเลย อยากให้ทุกคนใช้โซเชียลให้มีสติครับ”

ฟีดแบคหายเหนื่อยเมื่อแฟนๆบอกว่าพัฒนาขึ้น

"เห็นฟีดแบคครับ อย่าว่าแต่พี่ๆแฟนคลับเลยครับ ตัวผมเองยังรู้สึกเลย เราเรียกได้ว่าเป็นเด็กคนนึงที่ไม่กล้า ไม่เอาเลยเรื่องแบบนี้ ขี้อายด้วย ไม่มั่นใจในการร้องเพลงด้วยเราไม่เคยฝึก เราเป็นนักกีฬา เหมือนเอานักกีฬามาเป็นดารา เราไม่เคยฝึกอะไรในการที่จะมาเป็นศิลปินหรือเป็นดาราเลย เราเป็นนักกีฬาเต็มตัว ซ้อมแต่กีฬาว่างก็เตะฟุตบอล เราก็เลยต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นเยอะหน่อยครับ วันแรกๆนี่เรียกได้ว่าไม่พร้อมกับการเป็นดารานักแสดงเลย เราก็พยายามพัฒนาตัวเองจนมาเป็นเราในทุกวันนี้ครับ ก็ภูมิใจนะครับ เพราะเรียกได้ว่าเรามาค่อนข้างไกลจากวันแรกมากๆ ก็ต้องฝากเพลง WITH YOU ด้วยนะครับ ฟังได้ที่ออนไลน์สตริ่มมิ่งทุกช่องทาง แล้วก็ฝากผลงานแสดง งานแฟชั่น และอาจจะมีธุรกิจอะไรสักอย่างในอนาคต ก็ฝากติดตามด้วยครับ"