ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระอีกคนแล้ว สำหรับหนุ่ม ธีร์ วณิชนันทธาดา ที่วันนี้จะมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง วัน31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และอาจารย์ เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิม ทั้งที่อยู่มาถึง 13 ปี
เพิ่งหมดสัญญากับช่องมากสี ตอนนี้เป็นอิสระหรือเซ็นกับที่อื่นแล้ว?
ธีร์ : อิสระครับ ก็เซ็นกับช่อง7 มาประมาณ 13 ปี ตั้งแต่เข้าวงการเลยครับ หมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา
สาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาเพราะอะไร?
ธีร์ : มันไม่ใช่ไม่ต่อสัญญาซะทีเดียว มันเป็นการคุยกันระหว่างเรากับช่องมากกว่า ปีนี้เราอายุ 35 แล้วครับ เรารู้สึกว่าน่าจะถึงเวลาที่เราน่าจะออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกบ้างในเรื่องของการทำงานด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่นักแสดง เราเล่นละครมา 13 ปี เรารู้สึกว่าเราอยากหาอะไรใหม่ๆ ให้ตัวเองบ้าง อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้มากกว่านั้น ช่องก็เข้าใจแล้วบอกว่าจะป้อนละครให้เหมือนเดิม แต่ไม่ต้องเซ็นสัญญา เป็นการออกมาด้วยดี ซึ่งมันไม่ได้มีการรั้งอะไร เพราะอาจจะมีการร่วมงานกันในอนาคต การออกมาครั้งนี้เหมือนการออกมาลองทำอะไรใหม่ๆ แต่เมื่อมีละครที่เหมาะสมช่องบอกว่าจะเรียกใช้เราเหมือนเดิม
หลายคนมักจะมองคนที่ไม่ต่อสัญญา เนรคุณ หรือเปล่า เรามีความคิดเห็นยังไง?
ธีร์ : ธีร์เซ็นสัญญามา 13 ปี แต่ความคิดที่เราอยากออกไปทำอย่างอื่น มันมีมาก่อนหน้านี้สัก 3 ปี ช่วงก่อนหน้านี้ที่นักแสดงเริ่มออกมาเป็นอิสระเยอะๆ ก็จะมีกระแสโดนด่าว่าเนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณทำไมถึงออกไปช่องอื่น มันก็ทำให้เราคิดมานิดนึงมันก็แบบจริงๆ เราพร้อมที่จะรับกระแสด้านนี้หรือยัง ก่อนที่จะเซ็นสัญญารอบล่าสุดก็มีความคิดว่าจะต่อดีหรือไม่ต่อดี แต่ด้วยโชคชะตา ช่องก็มีละครให้เราอีก 2 เรื่อง เรารู้สึกว่าในเมื่อมันมีเงินกองรอเราอยู่ข้างหน้า เราก็เล่นละครต่อไปแล้วกัน ต้องบอกว่าช่อง7 ใจดีกับเรามาก ตั้งแต่ทำงานมา 13 ปี ธีร์ไม่เคยมีเวลาว่างเกิน 1 อาทิตย์เลย
ณ ตอนสัญญาหมดมีละครมาจ่ออีกหลายเรื่อง?
ธีร์ : ตอนสัญญาหมด จบเรื่องสุดท้ายพอดี ของช่องยังไม่มีเรื่องใหม่ แต่ว่ามีของค่ายอื่นติดต่อมา ด้วยความที่เรารู้สึกเกรงใจช่อง เป็นมารยาทส่วนนึงด้วย เรารู้สึกว่าอยากให้หมดสัญญาจริงๆ ก่อนแล้วเราค่อยไปเริ่มกับที่ใหม่
รับมือกับคำว่าไม่รักช่อง เนรคุณ ได้ยังไง?
ธีร์ : ค่อยๆ ตะล่อมๆ ในไอจีมาเรื่อยๆ ตอนแรกๆ มีคนออกไป ก็มีคนบอกว่า หวังว่าพี่ธีร์จะไม่ออกนะคะ เพราะคงไม่เนรคุณช่อง มันจะมีเหมือนดักไว้ก่อนแล้ว เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่การเนรคุณ ทุกคนมันต้องเติบโต เขาก็เข้าใจ พอหมดสัญญาก็ไม่มีคอมเมนต์นี้เลย
จริงไหมที่เตรียมตัวจะเป็นผู้จัด?
ธีร์ : มีผู้ใหญ่ติดต่อมาว่าอยากให้เป็นผู้จัด แต่ว่าทั้งหมดมันยังอยู่ในกระบวนการที่คุยกันอยู่ เป็นอีกโปรเจกต์ที่อยากทำในอนาคต เพราะรู้สึกว่า 13 ปีในวงการของเรา รู้ว่านักแสดงชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วก็ผู้กำกับคนไหน ทีมงานคนไหน นักแสดงคนไหนที่เราอยากร่วมงานด้วย เรารู้สึกว่าถ้าเราทำผู้จัด เราน่าจะมีคอนเน็กชั่นในด้านนี้พอสมควรแล้วอีกอย่างผู้ใหญ่ที่จะมาทำด้วย เขาก็มีประสบการณ์ในเรื่องของวงการบันเทิงมากกว่าเรา เรามองว่ามันเป็นฟันเฟืองที่อยู่ด้วยกันแล้วน่าจะดี
13 ปีที่อยู่กับช่องมากสี มีเรื่องเดียวที่ได้เป็นพระเอก แล้วเป็นพระเอกคู่?
ธีร์ : ตอนที่เราเซ็นสัญญาครั้งแรก ก็มีการพูดคุยกันว่าเราจะเป็นตัวนำ เราก็โอเค แต่พอได้เล่นไปแล้ว เราก็มีความรู้สึกเอ๊ะในใจว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาของเราในช่วง 1-2 ปีแรก แต่พอเล่นไปสักพักเรารู้สึกว่ามันคงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่เราจะมาคิดแบบนี้ มันจะทำให้เราไม่มีความสุข เราก็มาคิดกับตัวเองว่าถ้าเรารู้สึกแบบนี้งานละครที่เหลือของเราจะเล่นได้ไม่เต็มที่ ในช่วงแรกที่เซ็นสัญญาช่องให้ละคร 5 เรื่องพร้อมกัน ถ่าย จันทร์-อาทิตย์ 9 เดือน โดยไม่ได้หยุดพักเลย
5 เรื่อง แต่สิ่งที่เรารอคอยคือบทพระเอกเด่นๆ?
ธีร์ : ตอนแรกๆ เรารู้สึกว่าคงรอต่อไปมั้ง แต่พอมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง เราก็รู้สึกว่าเราต้องมาโฟกัสกับบทที่เราได้รับแล้ว
น้อยใจไหม ที่เป็นพระเอกคู่ เป็นพระรอง?
ธีร์ : ตอนแรกๆ ก็มีนอยด์ๆ อยู่บ้าง แต่ความรู้สึกนี้มันอยู่ไม่นาน ถ้ามองอีกแง่นึงคือ ไม่ใช่นักแสดงทุกคนที่ช่องจะให้ละครเยอะขนาดเรา เพราะว่าสิบกว่าปีที่ผ่านมา เราไม่เคยว่างเว้นจากละคร เราอยู่ไปสักพักเรามาคิดได้ว่าเราอาจจะเหมาะกับบทอื่นที่เขามองมากกว่าที่จะเป็นพระเอก ตอนหลังก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร
เห็นบอกว่าเกือบไม่ได้เล่นละครกับช่องมากสี เพราะเดิมทีต้องเซ็นกับอีกค่ายนึงคือ EXACT?
ธีร์ : ก่อนเซ็นกับช่อง7 เราเล่นโฆษณา เล่นอะไรมาก่อน เหมือนมีการคุยกับช่องๆ นึง เขาจะเซ็นนักแสดงเจนใหม่ แล้วก็สนใจในตัวเรา แล้วเราก็เข้า-ออก บริษัทเขาอยู่เรื่อยๆ ผู้ใหญ่ท่านนึงเขาคงคิดว่ายังไงแล้วคุณเข้า-ออก บริษัทบ่อยขนาดนี้ คุณก็คงไม่ไปไหนอยู่แล้ว เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบอกหรอก ยังไงก็เซ็นอยู่แล้ว เขาก็เลยยังไม่พูดอะไร จนมีผู้จัดการคนนึง ที่เขามาขอดูแลเรา ตอนที่เรากำลังจะเซ็นว่าเขาขอมาดูแล แล้วจะส่งโปรไฟล์เรามาที่นี่ ถ้าที่นี่ไม่สนใจเกิน 2 อาทิตย์ เขาขออนุญาตพาไปช่อง7 นะ เพราะว่าน้องเพิ่งเรียนจบ น้องจะได้ไม่ต้องว่างงานนาน เขาบอกว่าเขาส่งโปรไฟล์ไปประมาณ 3 วัน เขาบอกว่าทางช่องนี้บอกไม่อยากได้เรา เพราะว่าหน้าเราไม่เหมาะกับเล่นละคร เหมาะกับเล่นหนังมากกว่า มันมีเอกลักษณ์เกินไป ซึ่งในตอนนั้นเราไม่เข้าใจคำนั้น เขาบอกว่า คือ เขายังไม่เอานั่นแหละ เราก็โอเคครับ เขาก็พาเข้าไปช่อง7 วันที่เราไปเราไม่คิดเลยว่าเราจะได้เป็นนักแสดงช่อง7 เพราะว่าจากที่เราได้ยินมาช่อง7 เป็นองค์กรที่ใหญ่มากๆ แล้วเป็นช่องที่มันเก่าแก่มาก แล้วตอนผู้จัดการถามว่าอยากเข้าช่องอะไร ช่อง7 ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่เราอยากเข้า ไม่ใช่ช่องไม่ดีนะครับ แต่เรารู้ว่าไทป์ของเขาไม่ใช่ไทป์เรา ต้องเป็นแบบเวียร์ พี่วี ทรงไทยๆคมเข้ม เราเซ็นไปตอนนั้นเพื่อนถามทำไมถึงเซ็นกับช่องนี้ แต่พอตอนไปเซ็นปุ๊บได้เจอผู้ใหญ่ช่องก็สัมภาษณ์เรา เขาบอกโอเคงั้นเซ็นเลยแล้วกัน โดยที่เราก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ว่าจะเซ็น แต่ตอนนั้นในเมื่อโอกาสมันอยู่ข้างหน้าเราแล้วแล้วมันก็เป็นองค์กรใหญ่ ก็ทำสิ อนาคตเรา คือตอนนั้นมันรู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่คิดไว้ เราก็เซ็น แต่พอเซ็นเสร็จปุ๊บยังไม่ทันก้าวขาออกมาจากตึกเลยครับ อีกช่องโทรมาว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาตั้งใจจะเซ็นกับเราอยู่แล้ว ทำไมถึงเซ็นกับช่องอื่น
แล้วที่ผู้จัดการเราบอก?
ธีร์ : เขาคงมีความตั้งใจอยากให้เรามาช่องนี้มากกว่า อาจจะเป็นในเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัวหรืออะไรก็แล้วแต่
ตอนนั้นคิดว่าโดนหลอกไหม?
ธีร์ : ตอนนั้นคิดว่าทำไมเขาพูดไม่ตรง แล้วก็เสียความรู้สึก แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน พอเข้าช่องมาก็แบกย้ายกันไป
ณ ตอนนี้ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับ EXACT หรือทางช่อง วัน ยินดีไหม?
ธีร์ : ยินดีครับ ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยนะครับ ยินดีร่วมงานกับทุกค่ายเลยครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักแสดง 7HD เผยเรื่องเล่าสุดซึ้ง เปิดวันที่ทำให้ 'คุณแม่' ภาคภูมิใจ!
อบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ นักแสดงช่อง 7HD พร้อมใจบอกรักแม่ และบอกเล่าเรื่องราวที่เคยทำให้คุณแม่ชื่นหัวใจ และปักหมุดชีวิต อยากตอบแทนให้คุณแม่ภูมิใจในอนาคต มาติดตามเรื่องราวฟีลกู๊ด ที่จะทำให้อิ่มเอมใจไปพร้อม ๆ กัน
รัฐบาลยังไม่ส่งข้อกฎหมายเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำให้กฤษฎีกา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีเปลี่ยนแปลงสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำ ว่า ข
เอ๊ะยังไง! ’สุทิน’ ยังไม่เซ็นแก้สัญญาเรือดำน้ำจีน รับซื้อแบบจีทูจีห้ามฟ้องร้อง
‘รมว.กลาโหม’ ระบุยังไม่ลงนามแก้สัญญาเรือดำน้ำจีนยังติดข้อกฎหมาย รับซื้อแบบจีทูจี ห้ามฟ้องร้อง ขณะนายกฯ สั่งละเอียด รอบคอบ และอธิบายสังคมได้ บอกไม่ได้ทัน’ยุคบิ๊กดุง’หรือไม่ มั่นใจเหล่าทัพพร้อมแจง กมธ.งบ 68 จัดซื้อเครื่องบินรบ-เรือดำน้ำ ไม่มีอะไรซับซ้อน
'ภูมิ เกียรติภูมิ' พระเอกมาแรงช่อง 7HD เปิดมุมมองความคิดที่หลายคนยังไม่เคยรู้
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกเลือดใหม่มาแรงของ ช่อง 7HD สำหรับ ภูมิ-เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ ที่กำลังมีผลงานละครให้แฟน ๆ ได้ชมกัน ทั้งในช่วงก่อนข่าวภาคค่ำเรื่อง ขวัญหล้า ละครดราม่ารสเข้มจากค่าย ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น ซึ่งเรื่องนี้ ภูมิ รับบทนำประกบคู่ครั้งแรกกับนางเอกสาวสายดราม่ารุ่นพี่ ชิงชิง-คริษฐา สังสะโอภาส และอีกเรื่องคือละครหลังข่าวภาคค่ำสุดเข้มข้นกระแสแรงอย่าง รอยรักรอยบาป ประชันกับนักแสดงรุ่นใหญ่ และรุ่นใหม่มากฝีมือมากมาย
จบไม่สวย? 'เติร์ก คหบดี' ควง 'ทนายเจมส์' โต้กลับหลังวง 'Hashtax' แถลงออกจากสังกัด
เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก ผู้จัดผู้บริหาร บริษัท เอ็ม โฟลว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ควง ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต ทนายผู้ดูแลกฎหมาย บริษัท เอ็ม โฟลว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ชี้แจงข้อเท็จจริงหลัง สมาชิกบอยแบนด์ "วง Hashtax" นำโดย วิลลี่ อนาวิล, เฟรม นรภัทร, ภูมิ สรวิศ และ ภูริ ภูวนนท์ พร้อมด้วยนักแสดงหนุ่ม แบงค์ ชาญวุฒิ ตั้งโต๊ะแถลง ยุติบทบาทการเป็นศิลปินในสังกัดเมื่อวันก่อน
'ช่อง7HD' คือครอบครัว 'เอส กันตพงศ์' อัปเดตสุขภาพผ่าน 'เที่ยงบันเทิง สด' ที่แรก
เพราะช่อง 7HD คือครอบครัว “เอส กันตพงศ์” ขอเปิดใจ ให้สัมภาษณ์สด ในรายการ “เที่ยงบันเทิง สด” ที่แรก หลังพักฟื้นฟูร่างกายเต็มที่ พร้อมอัปเดตชีวิต สุขภาพ รวมถึงแผนอนาคต ที่ตั้งใจจะเริ่มจะเดินตามฝันที่ตั้งไว้อีกครั้ง ก่อนขอบคุณแฟนช่อง 7HD ทุกคน ที่รักและเป็นห่วง ส่งกำลังใจให้อย่างอบอุ่นเสมอ