'น้ำหวาน พิมรา' เปิดใจระหว่าง 'แม่' หรือ 'แฟน' มันจบตั้งแต่ยังไม่ได้เลือก!

อดีตนักร้องชื่อดัง “น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี” หรือ “น้ำหวาน ซาซ่า” จะมาเล่าเรื่องราวที่โลดแล่นในวงการนี้มานานกว่า 20 ปี เข้าวงการตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนชื่อเสียงโด่งดัง พร้อมแชร์เรื่องราวความรักครั้งเก่า กับรายการ ขมคอ story รายการ Podcast น้องใหม่ของพิธีกรอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง “เบ็นซ์-จิรายุ จันทรวงศ์” หรือที่รู้จักกันในนาม “เบ็นซ์ตุ๊ดย่อยข่าว”

เข้าวงการตั้งแต่อายุเท่าไหร่

หวานเป็นศิลปินฝึกหัดที่แกรมมี่ ตั้งแต่ 9 ขวบ ฝั่งคุณแม่จะทำงาน วงการบันเทิง คุณตาเป็นผู้กำกับคุณน้าน้าใหม่เจริญปุระเป็นนักร้อง เลยให้เราไปสกรีนเทสต์  แต่คำว่าได้ มันต้องผ่านการเตรียมความพร้อมเยอะมาก

วันแรกที่เราสัมผัสความดังของเรา จำได้ไหมว่ามันเป็นวันไหนที่เรารู้สึกว่า ฉันดังแล้วมีคนทักฉัน สถานที่ไหน

จำได้ค่ะมันคือที่สยาม แต่ก่อนจะมีร้านเทปชื่อร้านอินเมจิน วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่เราจะต้องออกจากโรงเรียนก่อนครึ่งวันเพื่อที่จะไปเตรียมตัว เพื่อที่จะขึ้นไลฟ์ คือ คอนเสิร์ตครั้งแรก ก็ยังพูดอยู่เลยว่าถ้าไม่มีใครมาดู ก็เลยชวนเพื่อนที่โรงเรียน เลิกเรียนแล้วมายืนเป็นหน้าม้าให้หน่อย คิดว่าน่าจะไม่มีคนมา สรุปก็เป็นวันแรกที่หวานกรี๊ด เค้ามาดูเราเหรอไม่มีหลายวง แต่มีป้ายไฟเล็กๆเขียนชื่อ ก็คิดว่าเป็นของเพื่อนเราหรือ ทีมงานเค้าคงเอามาให้ สรุป เพลงเราตอนเราขึ้นไป เสียงกรี๊ดแรกนึกแล้วยังขนลุก มันดีจริงจริงแล้วเราก็รู้สึกว่า อ๋อไอ้การขึ้นไปแล้วมีคนมากรี๊ดมันเป็นความรู้สึกอย่างนี้

คิดไหมว่าซาซ่าจะเดินทางมาได้ยาวนานหลายปีขนาดนั้น

มันก็มีช่วงที่ตก มันก็ไม่ได้เรียกว่าตกมันก็จะมีความดังอยู่ในเพลงแต่ละอัลบั้ม บางอัลบั้มที่มันก็เงียบ แต่มันก็โชคดีที่ว่า เพลงฮิตของแต่ละอันที่ช่วยพยุง ได้ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาถึงวันนี้

ช่วงเวลาผ่านมาในวัยผู้ใหญ่ มีความขมอะไรในชีวิต ที่มันรู้สึกว่าก้าวข้ามผ่านยากเหลือเกิน

เอาตรงๆหวานก็มีความขมที่คนดูและคนไม่รู้ อย่ามาแต่ถ้าเป็นความขม ถ้าความขม ทุกคนรู้ก็จะเป็น ความรักครั้งล่าสุด ที่จบไปที่เป็นข่าว วิธีก้าวข้ามผ่านคือหวานจะเป็นคน ปล่อยให้ตัวเองเสียใจจนสุด หวานจะร้องไห้หนักมาก กว่าจะเล่นmv ฟังเพลงเศร้าคลุมโปง นอนซมอยู่บนเตียงจมอยู่แบบนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมไปถึงสุดๆ

จนสุดท้ายลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำแล้วดูตัวเอง ทำไมเราผ่านไป 2-3 วัน ทำไมเราเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้ เราไม่เอาอะไรเลยเหรอเนี่ย ทั้งทั้งที่คนอื่นก็พยามอยากให้เราดีขึ้น เราก็ไม่ได้การและ เราเลยลุกขึ้นมารีเซ็ทสภาพร่างกายตัวเองก่อน อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยเราต้องลุกแล้ว เพราะเรายังมีงาน ต้องทำทั้งงานในวงการบันเทิงทั้งงาน การเป็นครูสอนดำน้ำ เรามีหลายสิ่งที่รอเรา เราอนุญาตให้ตัวเองจมได้2 3 วันเราต้องรีเฟรซตัวเองก่อนซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มันก็ช่วยภายนอกได้นิดหน่อยแต่ภายในก็ยังดีฟดาว เหมือนเดิม ตั้งสติคิด ทบทวนเพราะชีวิตเรา เป็นเหมือนกระดาษA4

นั่ง ดูว่าจุดขาว จุดเปื้อน อะไรมันเวตกันแล้วมากกว่ากัน เราเป็นมนุษย์เรามีสิทธิ์มีจุดเปื้อน ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง เราเขียนลงไปมองรับความจริง ตามความเป็นจริงว่านี้เรา อันนี้เราทำไม่ดีแต่พอเวตกันแล้ว สมมุติ ด้านขาวมันเยอะกว่า สิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือการให้ value กับส่วนที่เราทำดีอันนั้น เอามาแปะไว้หวานเขียนเลยนะเป็นข้อ ว่าสิ่งไหนที่เราทำ ดีในเรื่องนี้ แล้วสิ่งไหนที่เกิดเกิดขึ้นแล้วมันไม่ดี พอดูเสร็จปุ๊บเราให้ value ในสิ่ง ที่เราทำดีมาตลอด มันก็ทำให้เรารู้สึกฟูขึ้นมานิดนึง ตอนนั้นเราไม่รู้จักคำว่ารักตัวเอง เรารู้จักแต่การรักคนอื่น เรารู้สึกว่านี่เป็นก้าวแรกที่เราให้ value กับตัวเอง เรามีโอกาสทำดีอะไรมาบ้างแต่หนึ่งอยากที่ยากสำหรับหวานคือคนรอบตัวหวาน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนผู้จัดการ ไม่เคยมีใครผ่านเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเค้าให้กำลังใจเราได้ เค้าเชียร์อัพเราได้ เราต้องมีต้นทุนในใจ ของเราที่เราดีขึ้น ติดตัวไปบ้าง ถ้าเรามัวแต่ไปศูนย์เลย ขอกำลังใจจากคนอื่นเค้าไม่เคยเจอแบบเรา เค้าเข้าใจใน ทุกเรื่องใน situation แต่เค้าไม่ได้เข้าใจ ใน feeling ที่เรากำลังก้าวข้ามผ่าน เราก็ก้าวข้ามผ่านความขมนั้นมาได้ หวาน ไม่เคยพูดที่ไหนหวานใช้เวลาในการฮึลใจ เดือน ครึ่ง จากเทคนิคนี้ แต่หวานจะไม่บอกตัวเองว่าไม่ร้องไห้ถ้าเมื่อไหร่หวานอย่าร้องไห้หวานก็ร้องมันเป็นการระบายอย่างนึง สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้ เพราะว่าเราเองก็ไม่อยากเสีย เวลา

เหตุการณ์ไหนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องเริ่มรักตัวเองละ

เหตุการณ์นี้แหละ เรารู้สึกว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา เราเป็นคนที่ รักคนอื่นมีแฟนเราก็รักแฟนมาก สูญเสีย ความเป็นตัวเอง อะไรก็ได้ต่อให้ เราไม่อยากทำเราไม่ชอบ เราพร้อมที่จะเปลี่ยน ตัวเรา

นั่นหมายความว่าความสุขของเราอยู่ที่เขา

ความสุขของเราอยู่ที่เขาตลอดเวลา บางทีที่เราไม่ชอบเราว่ามันไม่ได้เราก็แถไป เพียงแค่เราไม่อยากขึ้นชื่อว่าเลิกกับแฟน เราเลิกกับแฟนมันก็ แค่เราเลิกกัน มันก็จะกลายเป็นว่าคนรู้ไปทั่ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น อยากจะมีภาพที่มันสมบูรณ์ แต่สุดท้ายพอเรามานั่งมองตรงนี้ วันนี้เรารู้สึกว่าเราไม่ควรที่ทำแบบนั้น มันเป็นการกระทำที่ผิดเรารู้ รู้อยู่แล้วอายุขนาดนี้เรารู้ เพียงแค่เราแคร์ เกิดขึ้น รอบข้าง แคร์ความคิดคนอื่นมากกว่าสิ่ง ที่เราเป็นจริงๆ นั่นแหละคือ ถ้าเราเริ่มรู้สึกกลับมา ให้ความสำคัญกับตัวเองให้ value ตัวเอง ให้คุณค่ากับสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ เรารู้สึกยังไงเราจริงใจกับความรู้สึก ตัวเอง ก็เพิ่งเริ่มต้นเรื่องนี้ได้ไม่นาน มานี้ก็คือปีนี้แหละ

ก็เริ่มรู้สึกว่าเราไม่จำเป็น จะต้องเอาความสุขไปแขวนอยู่กับใคร

เราเคยได้ยิน ประโยคนี้มาบ่อยมาก จากโค้ชคนนั้นคนนี้จากหนังสือ ต่างๆเรา อ่าน แต่เราไม่เคยเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ การที่เราจะต้องทำแบบนั้น แต่ณวันที่เราอ่านเราคิด คิดได้ได้สติ ก็จริงนะ เมื่อไหร่ถ้าเอาอะไรไปฝากไว้กับใคร ไม่ต้องอะไรหรอกไม่มีใครดูแลอะไรได้ดีดูแล ได้ดีเท่าเท่ากับตัวเราทำหรอก ใจเราก็เหมือนกันใครจะดูแลใจเรา ได้ดีเท่ากับตัวเรา

มุมมองคนนอก จากตามข่าว น้ำหวานคือคนกลาง ระหว่างแฟนกับแม่ สถานการณ์นั้น มันเครียดมาก เรารับมือกับการเป็นคนกลางยังไง

ณ วันนั้น มันรับมือแบบไม่มีสติ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เค้าเข้ากันได้ดี ทั้งสองออกบอกฝ่ายต่างเข้ากันได้ดี ไม่แน่ใจ ความที่เค้าเป็นคนอาจจะมีนิสัยที่คล้ายกัน มันก็เลยทำให้บางอย่างบางครั้งมุมมอง มันไม่ลงล็อกกัน แต่เค้าก็จะเคลียร์กันเอง มีอันนี้เค้าก็พูดกัน มันก็น่าจะออกมาดี เราก็เลยรู้สึกลำบากใจเป็นช่วงๆ เวลาที่เค้ามีนิดนึงต่อกัน แต่เค้าก็จะมีวิธีในการคุยกลับเข้ามาหากัน กับคุณแม่รักอดีตแฟนหวานเหมือนลูก อดีตแฟนหวานก็รักคุณแม่ เข้ากันได้ดีบอกทั้งต่อหน้าคุณแม่คุณพ่อหวานด้วย เราในฐานะคนกลางถ้าเค้าเคลียร์กันได้ด้วยดี

ไม่ได้หนักใจเท่าไหร่ จนมาถึงช่วงท้ายๆ ที่รู้สึกหนักใจ ก่อนจบหนักใจ เพราะว่ามันพาดพิงไปมั่วซั่วหมดแล้ว โดยบางทีบางอย่างเราไม่สามารถพูดได้ มันเกินกว่าจะเคลียร์แล้ว มันเหมือนมันไปกันใหญ่แล้ว นั่นคือช่วงที่หนักใจมากที่สุด และ ณ วันหนึ่งที่เราจะต้องเลือก ระหว่างแฟนเราก็รัก แม่เราก็รัก ณ โมเมนต์นั้นน่ะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘โจ อัลวิน’ เปิดใจครั้งแรกถึงสัมพันธ์รักในอดีตกับ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’

นักแสดงชาวอังกฤษ โจ อัลวิน และเทย์เลอร์ สวิฟต์ เคยมีความสัมพันธ์กันมานานหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยไปปรากฏตัวที่ไหนด้วยกัน

แผลยังสด! 'อาไท' ยอมรับร้องไห้ตลอด ขอทำงานเพื่อให้ลืมความรัก

แผลยังสดหมาดๆ สำหรับตลกอารมณ์ดี "อาไท กลมกิ๊ก" หรือ สุภทัต โอภาส ที่ยุติความสัมพันธ์กับแฟนนางงามสายฮา "น้ำเพชร-อิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์ " งานนี้มีข่าวลือว่าฝ่ายเสียใจหนักมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ ล่าสุดเจ้าตัวควงคุณพ่อบุญชู เชิญยิ้ม มาเปิดใจกลางรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ที่บอกเลยว่างานนี้มีเสียน้ำตา

'อาไท กลมกิ๊ก' โพสต์เลิก 'น้ำเพชร อิสรีย์' แล้ว พร้อมขอโทษฝ่ายหญิง

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่านักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี อาไท-สุภทัต โอภาส หรือ อาไท กลมกิ๊ก กับแฟนสาว น้ำเพชร-อิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์ ปิดฉากรักลงแล้ว แต่ก็เป็นเพียงข่าวลือเมื่อทั้งคู่ยังรักกันดีอยู่ แต่ล่าสุด อาไท ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมสตอรี่ว่าทั้งคู่ได้จบความสัมพันธ์กันเรียบร้อยแล้ว

'เป๊ก วงซีล' โพสต์ฟาดกลับแบบจุกๆ แค่พี่-น้องก็เป็นให้ไม่ได้แล้ว!

ทนไม่ไหวจนต้องโพสต์ถึงสิ่งที่ตนเองเจอมาหลังจากเลิกกับแฟนเก่า พร้อมทั้งยังประกาศชัดเจนเลยว่า “ไม่สะดวกใจที่จะเป็นพี่เป็นน้องอีกต่อไป” สำหรับ เป๊กซ์-ปราชญ์ พงษ์ไชย นักร้องนำวง Zeal ที่เพิ่งขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงานไปหมาดๆ แต่ก็ยังมีเรื่องของอดีตคนรักเข้ามากวนใจจนเจ้าตัวต้องระบายความในใจออกมาผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม

'น้ำหวาน ซาซ่า' พูดครั้งแรกหลังอดีตแฟนเปิดตัวรักใหม่ พร้อมเผยสถานะหนุ่มนักบิน

น้ำหวาน พิมรา เปิดใจครั้งแรก หลังอดีตแฟนหนุ่มเปิดตัวรักครั้งใหม่ เผยหมอดูทักจะเจอคนที่ใช่เร็วๆนี้ ไม่รู้ว่าคุณแม่ของสาวน้ำหวานโอเคกับหนุ่มคนนี้หรือเปล่า แล้วจะว่ายังไงหลังชาวเน็ตมองต่างฝ่ายต่างมูฟออนเร็วไปไหม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีเบนซ์ พรชิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คลั่งรักหนักมาก 'ปีเตอร์' เปิดใจหลังหมั้นแฟนสาว ลั่นพร้อมมีลูกเพิ่ม!

นักร้อง นักแสดงหนุ่ม ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ที่ตอนนี้คลั่งรักหนักมาก ล่าสุดออกมาเล่าโมเม้นท์หวานๆ กับแฟนสาวนอกวงการที่ไม่ยอมเปิดหน้าออกสื่อให้เห็นแถมตอนนี้ยังหมั้นกันแล้วอีกด้วย ? ลั่นความรักครั้งนี้อยากให้เป็นรักครั้งสุดท้าย เผยเตรียมมีลูกเพิ่ม !! ทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ