'ปุ๊กลุก' หวั่นเอี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย หลังเพจปลอมอ้างชื่อกว่า 10 ปี!

นางเอกมากฝีมือ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone 31 หลังเพจปลอมแอบอ้างชื่อนานกว่า 10ปี หวั่นเอี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย ตอนแรกคิดว่าเป็นแฟนคลับ ขนาดพ่อยังเข้าใจผิด

“ตอนแรกคิดว่าเป็นแฟนคลับก็เลยไม่ได้ทำอะไร คือเขาไปขายสินค้า คล้ายๆ การแปะลิ้งค์ เป็นนายหน้า ซึ่งคนที่มาซื้อเขาจะคิดว่าเป็นเราเล่น เขาเลยตัดสินใจซื้อ ซึ่งเขามีการแปะลิ้งค์สินค้าที่ไม่ใช่สินค้าจริง สมมติใส่ผ้าโพกหัว เขาก็แปะลิ้งค์แต่มันไม่ตรงกับที่ใส่ คิดว่าเห้ย..เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดหรือเปล่าว่าเป็นเราที่ขายของแล้วซื้อตามเรา ก็เลยได้ DM ไปหาเขาหลังจากที่ไปถามเขาว่าเล่นเพจยังไงยอดติดตามเยอะแล้วเนี่ย ปรากฏว่าเขาไม่ตอบๆ มาเรื่อยๆ คือเขาก็อปปี้ทุกอย่างที่อยู่ในอินสตาแกรมมาลงในเฟซบุ๊ก

หนูคิดว่า 10 ปีมาแล้ว ก็ติดต่อเขาไปบอกว่า ขอให้ทำลักษณะที่ว่าทำโดยแฟนคลับได้ไหม ขอแค่นี้ คือถ้าคุณเป็นแฟนคลับ ต้องอยากคุยกับฉันไหม แต่ฉัน DM ไปเยอะมาก แต่ไม่ตอบฉัน จนขายของเราเลยเริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่เราก็ปล่อยให้เขาขายไปเรื่อยๆ นะ จนเป็นสินค้าปลอมที่ไม่ตรงกับที่เราใช้จริงๆ เราเลย DM ไปถามเขา เห้ย..น้องแบบนี้พี่ไม่สะดวกแล้วนะ มันทำให้เรามั่นใจว่าจริงๆ เขาไม่ได้เป็นแฟนคลับเราหรอก เรากลัวว่าถ้าในอนาคตเขาทำอย่างอื่นอีก สมมติเราใช้กระเป๋าแบรนด์เนมใบนึง แล้วเขาไปแปะลิ้งค์ในแพลตฟอร์มที่ขายของออนไลน์ แล้วมันไม่ใช่สินค้าจริง คนที่ซื้อไปก็จะคิดว่าเป็นเรา เท่ากับว่าเราเป็นมิจ แล้วคนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คิดว่าเป็นเรา ขนาดพ่อเรายังคิดว่าเป็นเราที่เล่นเพจนี้

การดำเนินการทางกฎหมาย เราใช้ 4 ปีที่คิดแล้ว คิดอีก ส่วนนึงคิดว่าเผื่อเป็นน้องแฟนคลับจริงๆ ก็เลยพยายามติดๆ ไปเรื่อยๆ เขาก็นานๆ ตอบกลับมาที แต่ว่าการตอบของเขามันไม่ได้เรื่องได้ราว แล้วเราก็ไปคอมเมนต์ทุกรูปคิดว่าเขาอาจจะตอบ DM ไม่เป็น สุดท้ายมันดูเหมือนไม่ใช่จริงๆ จนกระทั่งเขาแปะลิ้งค์สินค้า เราเลยบอกว่าแบบนี้ไม่สะดวกนะ ไม่งั้นพี่จะขออนุญาตดำเนินคดีตามกฎหมายก็ไม่ตอบ สุดท้ายหลังจากที่เราโพสต์ในไอจี เพจก็ปิดลงไป เราเลยคิดว่า เหมือนเพื่อนทุกคนที่เห็นข่าว เหมือนช่วยรีพอร์ตให้ แฟนคลับช่วยรีพอร์ตให้ มันก็ปิดไป ก็จบ ปรากฏว่ามันเด้งขึ้นมาใหม่ เขาบอกว่ามันปิดเพราะถูกรีพอร์ต แต่มันไม่ได้หายไปเลย

ตอนนี้ทางกฎหมายคือเข้าไปคุยกับพี่ตำรวจมารอบนึงแล้ว เหลือเข้าไปคุยอีกรอบนึง ยังไม่ทราบตัวคนทำเลยค่ะ เหมือนในระบบเฟซบุ๊ก เราต้องให้ตำรวจดำเนินการเอาข้อมูลข้างในออกมา เพราะมันเป็นกฎหมายอะไรไม่รู้ที่ต้องให้ตำรวจดำเนินการ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นบุคคลใด ต่อให้สมมติเป็นแอพพลิเคชั่นที่เราต้องผูกบัตร เราไม่สามารถเอาข้อมูลได้ ถ้าไม่ใช่ตำรวจ

คือเพจอื่นๆ หนูไม่ได้ซีเรียสนะคะ เพราะมันดูออกว่ามันไม่ใช่เราจริงๆ แล้วด้วยยอดติดตาม ด้วยอะไรในการอัปเดต แต่อันนี้คนนึกว่าเป็นเราจริงๆ  แล้วเราก็รู้สึกว่าคนที่ตัดสินใจซื้อสินค้า ซื้อเพราะคิดว่าเป็นเราขายจริงๆ  ตั้งใจเอาผิดถึงขั้นไหนเหรอ คิดว่าจะคุยก่อนที่จะฟ้อง ตอนนี้อยากรู้ว่าเป็นใคร เพราะอะไรถึงอัปเดตมานานเป็น 10 ปีขนาดนี้

สิ่งที่ต้องการจากเขา 1.ปิด 2.อยากรู้ว่าเป็นใคร เพราะเรารู้สึกที่ผ่านมาเราเมตตาเขาในฐานะที่เป็นแฟนคลับมาตลอด จนเขาขายของ เราพยายามติดต่อไปไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เราเลยอยากรู้ว่าเขาคือใคร”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อย่าเพิ่งเชื่อ-อย่าเพิ่งแชร์-อย่าเพิ่งโอน” คาถาป้องกันแก๊ง Call Center

คนไทย 36 ล้านคน ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน พนันออนไลน์ ด้วยการเปิดบัญชีม้า ซื้อสินค้า-โอนเงิน-กู้เงิน ไตรมาสแรกปี 67

'สว.ชิบ' เค้นรัฐบาล! ใครสั่งโยกคดี 'ดิไอคอน' ให้ดีเอสไอ หวั่นบอสรอดคุก

'สว.ชิบ' ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ข้องใจคำสั่งจากใคร ทำให้รัฐบาลโยกคดี 'ดิ ไอคอน' ใส่มือดีเอสไอ หวั่นสรุปคดีไม่ทันเวลา เปิดโอกาสบรรดา 'บอส' รอดคุก

จ่อออกหมายเรียก 'เท้าแชร์กิ๊ฟซี่' โกงเหยื่อ 66 ราย เสียหาย 15 ล้าน

ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ยอดเหยื่อ ’ดิไอคอนกรุ๊ป’ เข้าแจ้งความแล้ว 9,469 ราย เสียหายรวม 2,916 ล้านบาท

สรุปยอดผู้เสียหาย ดิไอคอนกรุ๊ป เข้าแจ้งความจากทุกศูนย์รับแจ้งความ และทุกสถานีตำรวจนครบาล - สถานีตำรวจภูธร ทั่วประเทศ