นักแสดงสาว "ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW ถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาช่อง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตที่ทำให้รู้สึกเครียดมาก
พร้อมเล่าเหตุการณ์สุดช็อก! จำฝังใจโดนคอมเมนต์แรงต่อหน้าว่าไม่เหมาะสมเป็นนางเอก อีกทั้งยังเจอกระแสวิจาณ์หนักจนเกือบไปต่อไม่ได้ แต่ก็ก้าวผ่านมาได้เพราะตั้งสติ มองให้เป็นบทเรียนและแรงผลักดันในการใช้ชีวิต
ช่วงที่มีกระแสเกี่ยวกับการไม่ต่อสัญญาช่อง ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ?
ณิชา : เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากๆ ในชีวิตเหมือนกันค่ะ ที่ตัดสินใจไม่ได้ต่อสัญญากับช่อง แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยนะคะ แค่เราอยากจะลองขยับออกมา แล้วดูงานอะไรที่มันกว้างขึ้น ที่เป็นอิสระมากขึ้น แต่ว่ากับช่องเราก็ยังโอเค ยังมีความสุขดีอยู่มากๆ
การเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่เป็นจุดเปลี่ยนในตอนนั้นอารมณ์ความรู้สึกเป็นยังไง ?
ณิชา : จริงๆ ไม่เคยเล่าให้ใครฟังว่าเป็นช่วงที่เครียดมากๆ ด้วยความที่เราอาจจะไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องตัดสินใจกับชีวิตของตัวเองที่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่ช่องมานาน 10 ปี ถ้าไปตรงโน้นจะเป็นยังไง สิ่งอะไรมันจะเกิดขึ้น เหมือนกังวลอนาคตเหลือเกินในตอนนั้น เป็นความเครียดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตนี้ แต่พอผ่านมาได้ก็รู้สึกว่าเป็นความเครียดที่ดีจังเลย แปลกมากค่ะ คือรู้สึกว่าดีแล้วที่เครียด หมายถึงว่าเพราะมันคือการตัดสินใจ เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งคงไม่แปลกหรอกที่เราจะเครียดกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราไม่ได้สตรองจนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เหมือนประสบการณ์ใหม่ในชีวิตมากๆ ที่ทำให้รู้ว่าความเครียดไม่ได้เลวร้ายเสมอไป การที่เราใช้เวลากับการคิดทบทวนไปมา ตอนนั้นเราอาจจะเครียดแต่พอผ่านมาได้รู้สึกว่าเราจะไม่เสียใจทีหลังแล้ว เพราะเราทบทวนมันมามากที่สุดแล้ว คือมันเป็นวัฏจักรหนึ่ง ความไม่แน่นอนคือเรื่องปกติ
ก่อนที่จะมาเป็นนางเอกภาพนี้เคยอยู่ในหัวเราไหม ?
ณิชา : ไม่เคยค่ะ (หัวเราะ) เป็นสิ่งที่ไกลมากอาจจะเพราะว่าเราไม่ได้เป็นสายแสดงออกตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ แต่การที่ได้ลองเข้ามาเริ่มเล่นละคร เป็นบทรับเชิญบทอะไรอย่างนี้มาเรื่อยๆ แล้วมันก็เลยรู้สึกว่าสนุกดี ก็เลยเริ่มเห็นภาพชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
มีคอมเมนต์ไหนที่เราจำขึ้นใจเลย ?
ณิชา : ช่วงแรกที่เข้ามาก็มีหลายกระแสมากเลย แต่ว่าอันที่จำขึ้นใจจริงๆ เป็นคอมเมนต์จากการพูดของคนมากกว่าไม่ใช่คอมเมนต์ในโซเชียล เป็นการพูดที่เขาเดินมาพูดต่อหน้าเรา ซึ่งเขาเดินมาพูดประมาณว่าถ้าเป็นอย่างนี้เป็นนางเอกไม่ได้หรอก แล้วหนูช็อกมันคืออะไร ตอนนั้นเราเพิ่งเข้ามาน่าจะอยู่ประมาณ ม.5 - ม.6 พอเจอสิ่งนี้เลยงงนิดหนึ่งว่าสถานการณ์นี้มันคืออะไร แล้วที่เขาพูดถ้าเป็นแบบนี้เป็นแบบไหน อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่จำขึ้นใจที่สุดเลย
หลังจากวันนั้นเราไปต่อยังไงกับคำพูดที่มันทำให้เราเจ็บ ?
ณิชา : ก็นอยด์ไปประมาณหนึ่ง ด้วยความที่เราอาจจะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในชีวิตด้วย ก่อนหน้านั้นเราก็แค่เป็นนักเรียนเรียนหนังสือ แต่พอเราเข้ามาทำงานกลายเป็นว่าเราเจอสิ่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าวันนี้ยังเป็นไม่ได้แต่ว่าเดี๋ยวจะลองทำดู มันก็เหมือนเทิร์นไปอีกแบบหนึ่ง เพราะก็ไม่รู้ว่าจะนอยด์กับสิ่งนี้ไปเพื่ออะไรก็เปลี่ยนมันมาเป็นแรงผลักดันเราแล้วกัน
เรื่องที่ได้บทเรียนมากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาคืออะไร ?
ณิชา : จริงๆ เยอะค่ะ เรื่องคอมเมนต์เรื่องคำพูดคนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ณิชาว่าคนที่เข้ามาในวงการหรือคนที่อยู่ในสังคมตรงนี้ อาจจะต้องรับมือเหมือนกัน เพราะว่ามันมาจากหลายทางมากๆ เลยค่ะ เป็นเรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเข้าใจความเป็นมนุษย์แบบนี้มากขึ้น เคยอยู่ในมุมที่ไม่เข้าใจทำงานไม่ได้เลยเราแคร์แต่คำพูดของคนอื่น แล้วก็เอาคำพูดของคนอื่นมาตัดสินตัวเองด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็ทำงานไม่ได้ สภาพจิตใจแย่มาก ความมั่นใจหายไปหมดเลย กลัวไม่ถูกใจคนนั้นกลัวไม่ถูกใจคนนี้ จนมาวันหนึ่งช่วงนั้นเล่นละครเรื่องสามใบไม่เถาโดนคอมเมนต์เยอะมาก แต่ว่าต้องขอบคุณกองๆ นั้นเลยที่พี่ๆ ทุกคนสนับสนุนเราเต็มที่ จำได้ว่ามีคำพูดหนึ่งที่เปลี่ยน ทำให้เป็นเราอย่างทุกวันนี้เลย ก็คือมีพี่ผู้ช่วยผู้กำกับชื่อพี่กอล์ฟค่ะ เค้าเห็นสภาพหนูคงแย่มาก ตอนนั้น ดูเศร้าอะไรอย่างนี้ค่ะ เขาก็เลยบอกว่าณิชามานั่งคุยกันหน่อยไหม เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นเราก็เล่าให้ฟัง เขาก็พูดว่าให้ลองตั้งสติ ลองมองภาพให้กว้างขึ้นนะแล้วก็แทนตัวเองเหมือนเป็นที่กรองน้ำทุกคอมเมนต์ที่เค้าโยนลงมา ต้องกรองให้ได้ว่าสิ่งนี้มีประโยชน์กับเราหรือเปล่า สิ่งนี้ปรับปรุงได้ไหม หรือสิ่งที่เขามาว่าเราไม่สวยแต่เราพอใจหรือยังกับสิ่งที่เป็น ต้องแยกให้ดีว่าอันไหนเอามาติเพื่อก่อ หรือว่าอันไหนที่มันไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ เขาก็สอนให้หนูแยกระบบความคิดได้ โอเคพอเจอมันก็นอยด์อยู่แล้วแต่ว่าสุดท้ายมันต้องมาตั้งสติให้ได้ ว่าเค้าคอมเมนต์อย่างนี้มาเรายังแสดงไม่ดีต้องปรับตรงนี้อันนี้มีประโยชน์งั้นไม่ต้องนอยด์พัฒนาตัวเอง แต่ว่าอันนี้ที่บอกว่าเราไม่สวยก็เราประมาณนี้ทำอะไรไม่ได้ ก็คงไม่อยากไปทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าเพื่อให้ทุกคนชอบงั้นก็ช่างมัน เหมือนฝึกระบบความคิดนี้มาเรื่อยๆ เลยเปลี่ยนมาเป็นเราทุกวันนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายค่ะ แต่พอทำได้แล้วเราเบาขึ้นเยอะ
ในชีวิตของคนไม่มีวันรู้หรอกว่าอะไรมันจะคู่ควรกับตัวเราเอง จนกระทั่งเราได้ลองทำ ?
ณิชา : ใช่ค่ะ ต้องรู้จักตัวเองให้มากๆ ด้วยค่ะ ถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับเรา ไม่ใช่คนอื่นบอกว่าเหมาะด้วย เราต้องตอบให้ได้ว่าอะไรคือเรา ต้องลองไปเรื่อยๆ และฟังตัวเองให้มาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปาย สิตางค์' โดนบูลลี่ตั้งแต่เข้าวงการ เผยเคยคิดออกจากวงการบันเทิง
เปิดใจนักแสดงสาวสุดแซ่บ "ปาย-สิตางค์ ปุณณภพ" ในรายการ WOODY INTERVIEW เผยจุดเริ่มต้นก้าวเข้าวงการด้วยเหตุบังเอิญ เคยถูกบูลลี่ตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการ ทำให้ไม่มีความมั่นใจคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะอยู่ตรงนี้ จนคิดออกจากวงการบันเทิงไปทำอาชีพอื่น
'เจฟ ซาเตอร์' เผยเกือบไม่ได้เป็นนักร้อง เคยทิ้งฝันไปสมัครงานออฟฟิศ
ถือว่าเป็นปีทองของนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง "เจฟ-วรกมล ซาเตอร์" ที่ไม่ว่าจะมีผลงานอะไรออกมาก็ปังไม่หยุด โดยล่าสุดรายการ "วอดอวอแว" คว้าตัวมาขึ้นรถโชว์พลังเสียงขั้นเทพด้วยกันอีกครั้ง
'ทรูวิชั่นส์' ชวนย้อนความรู้สึกถึงรักแรกที่ลืมยาก '14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand'
“14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ” หนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ย้อนวัย ที่เล่าถึงชีวิตวัยรุ่นตอนปลาย แต่กลับโหยหาประสบการณ์รักแรก อกหักครั้งแรก เพื่อนกลุ่มแรก วีรกรรมสุดแสบที่เคยทำในช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนต้น ที่พร้อมจะมาเติมเต็มความชุ่มชื่นหัวใจให้เราเสมอ
'ไอซ์ ปรีชญา' เผยเคยแพ้ยาซึมเศร้า อาการหนักจนเห็นภาพหลอน-กรามค้าง!
นางเอกสาว "ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW หลังผ่านมรสุมชีวิต ย้อนเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นโรคซึมเศร้าถึงขนาดเคยแพ้ยาจนเห็นภาพหลอนและกรามค้าง! พร้อมเล่าวิธีการรับมือและเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหา ตอนนี้โสดแฮปปี้กับชีวิตและมีแพชชั่นในการทำงานมากขึ้น
'ปุ๊กลุก' หวั่นเอี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย หลังเพจปลอมอ้างชื่อกว่า 10 ปี!
นางเอกมากฝีมือ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล เปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone 31 หลังเพจปลอมแอบอ้างชื่อนานกว่า 10ปี หวั่นเอี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย ตอนแรกคิดว่าเป็นแฟนคลับ ขนาดพ่อยังเข้าใจผิด
'เมย์ พิชญ์นาฏ' รับ หน้าเหวี่ยงจนคนมองว่าร้าย เผยสามีอยากได้ลูกแฝดชายหญิง
นักแสดงสาว "เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เผยตัวจริงไม่ร้ายเหมือนละคร หน้าเหวี่ยงจนคนคิดว่าหยิ่งเข้าถึงยาก พร้อมเล่าชีวิตหลังแต่งงาน สามีอยากได้ลูกแฝดชายหญิง