จูน เพ็ญชุลี ภรรยา หนุ่ม กะลา สวนกลับสามีทันที หลังอีกฝ่ายควงทนายเดชา กิตติวินันท์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นที่ฟ้องคนใกล้ชิดยักยอกเงิน 66 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงเธอ โดยทางฝั่ง จูน เพ็ญชุลี ได้ออกมาชี้แจงในมุมของตัวเองบ้าง โดยได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ขอใช้พื้นที่เล็กๆตรงนี้ชี้แจงรายละเอียดเบื้องต้นนะคะ เราเป็นคนรับเงินมาก็เอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น
ค่าใช้จ่ายในบ้าน
ค่าผ่อนบ้าน 69,800
ค่าคอนโด 15,500
เงินเดือนพ่อแม่ 52500
เงินเดือนสามี 100,000
เงินเดือนคนขับ 15,000
ค่าผ่อนรถBenz 38,880
ค่าผ่อนรถAlphard 45,000
ค่าผ่อนBenz 23,500
Total fix cost ต่อเดือน 360,180
ค่าใช้จ่ายเรื่องงาน
ค่าStage
ค่าLighting
ค่าช่างภาพ
ค่าBroker
เงินเดือนผู้จัดการ
เงินเดือนคนตัดต่อ
ค่าเช่าห้องเก็บเครื่องดนตรี
ค่าน้ำมันคนขับรถตู้อีก2คัน
รวมแล้วดือนละ+-ประมาณ 300,000
ยังไม่รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่า ค่าเทอมลูก ค่ากินอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าประกันชีวิต ค่าประกันรถ ค่าไปเที่ยวต่างประเทศ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก ตามที่สามีพูดเลยค่ะว่ารายจ่ายต่อเดือนประมาณ 700,000 2 ยอดนี้บวกกัน ลองคูณต่อปีเอาก็แล้วกันนะคะว่ารายจ่ายจะเท่าไหร่ มีเอกสารหลักฐานตรวจสอบได้ทุกยอดค่ะ ขอฝากไปถามก็แล้วกันนะคะว่าจะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่จากบริษัทที่เปิดร่วมกันกับสามี
Statementไม่โกหกตามที่สามีพูดเลยค่ะ statemen tบริษัทมี Statement ส่วนตัวก็มีค่ะชี้แจงได้ว่าโอนออกไปจ่ายอะไรบ้าง และในส่วนเงินเก็บก็ยังอยู่ค่ะ ไว้เราไปดูรายละเอียดกันที่ศาลนะคะ คนเป็นเมียในฐานะคนทำบัญชี ดูแลบริษัท สั่งจ่ายไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและครอบครัว แบบนี้หรือ คือ ยักยอก ก็ทำแบบนี้มาตลอดนะคะเป็นเวลาหลายปี แล้วทำไมถึงมาฟ้องตอนนี้คะ จริงๆ เราก็อธิบายไปหลายรอบแล้วค่ะแต่สามีอาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวเตรียมหลักฐานเสร็จแล้วให้ศาลท่านช่วยดูก็แล้วกันนะคะว่าแบบนี้เรียกยักยอกมั๊ย ปล.คำนวณกลมๆ 600,000*12เดือน =7,200,000*9ปี= 64,800,000 มั๊ยคะ
ซึ่งทางหนุ่ม กะลา ก็ได้เข้ามาคอนเมนต์ว่า “ปีนึงได้ 20 ล้าน ค่าใช่จ่าย500000x12 เดือน = 6ล้านที่เหลือละจูนนนนนนนนน”
ทาง จูน ก็ได้เข้ามาตอบว่า “อยากดูรายได้ไปดูงบการเงินได้ว่ามีรายได้ถึงเดือนละ20ล้านมั๊ย ไปโหลดในระบบกรมพัฒน์ได้เลยค่ะจะได้ไม่หาว่าฉันโกหก”
ก่อนที่ หนุ่ม กะลา จะถามกลับว่า “เงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นเงินของนิติบุคคล ถ้ามีใครเอาเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวก็ผิดกฎหมายแล้ว มันคือการทุจริตครับคือการยักยอก ไม่ต้องไปดูเรื่องงบการเงินอะไรหรอก สเตจเม้นท์มันไม่ตรงกับงบการเงินไง ถึงได้ฟ้อง เคนะ”
ทาง จูน เลยสวนกลับว่า “ไม่ต้องมาเถียงกันตรงนี้หรอกค่ะ ก็รอเราเอาหลักฐานมาประกบแล้วก็ตรวจเอาแล้วกันค่ะ ถ้าผิดจริงมีเจตนายักยอกจริงก็ว่ากันไปตามนั้นเลย เราก็ต้องยอมรับ แล้วรายได้ต่อปีสูงสุดแค่ 17 ล้านค่ะ ไม่เคยถึง 20 ล้าน ไปโหลดดูในระบบกรมพัฒน์ได้เลย”
ก่อนที่หนุ่ม กะลา จะปิดจบว่า พบกันที่ศาล สวัสดีครับ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผือกร้อนสภาทนายความ สอบมรรยาท '2 ทนายดัง'
นายกสภาทนายความ นั่งไม่ติด เเจงไทม์ไลน์สอบมรรยาท ”ทนายตั้ม –ทนายเดชา” 30 วันเเจ้งผลเบื้องต้นให้ทราบได้
'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'
ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม
กลับลำแล้ว! 'ทนายจุ๊กกรู' ยอมรับเสียหมา คดีทนายตั้มโกงเงินเจ๊อ้อย
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คำพูดที่มีการให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" โดย "ทนายเดชา" เปิดเผยว่า มีแหล่งข่าวใกล้ชิดตำรวจเขาอธิบายเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
'ทนายโซเชียล' เปิดศึกกรรมการมรรยาททนาย 'จุ๊กกรู๊' โวลั่นจะชิงลงมือก่อน!
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” โพสต์ข้อความเมื่อวานนี้ว่า "นั่งกินข้าวต้มหลังเลิกงานครับ ผมได้ข่าวมาว่ามีพวกทนายความบางคนเดินสายออกทีวี
นักวิชาการ ฝากถึง ว.วชิรเมธี ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟลน มารไม่มี บารมีไม่เกิด
อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่บทความ เรื่อง "ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟลน" มีเนื้อหาดังนี้
'ทนายเดชา' เหยียบซ้ำ! 'ว.วชิรเมธี' พลาดพลั้ง ต้องให้ติดคุกตามบอส 'ดิไอคอน'
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา โพสต์ข้อความทางเพจเฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" ว่า ยังเหลือเจ้าคุณนะครับบอส ว. อยากเป็นมหาเศรษฐีชั่วข้ามคืนต้อง The Icon 555