วินาทีชีวิต! 'อรอนงค์' กัดฟันต่อสู้โรคมะเร็งต่อมไทมัส

ส่งกำลังใจให้รัวๆ สำหรับนางสาวไทยในตำนาน อร-อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ หลังตรวจพบเนื้อร้ายนำไปสู่การเผชิญกับโรคมะเร็งต่อมไทมัส เจ้าตัวต้องเข้ารับการรักษาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ล่าสุดเปิดใจผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม เล่าวินาทีชีวิตการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ที่ต้องฉายรังสีบำบัดถึง 30 ครั้ง

วินาทีหลังจากทราบว่ามีเนื้อร้ายที่นำไปสู่เชื้อมะเร็ง ตอนนี้สภาพจิตใจเราเป็นไงบ้าง?

"นิ่งไปสักพักนึง สตั๊นท์ตรงที่เราเป็นเนื้อร้ายมันนำไปสู่การเป็นมะเร็ง ตอนนั้นคิดว่าจะรักษายังไง จะบอกลูกยังไง จะบอกแม่ยังไงดี คือเราต้องบอกคนรอบข้าง เราคิดว่าเราจะต้องบอกแม่ยังไง ตอนแรกคิดว่าคงบอกแม่ไม่ได้ ไม่อยากให้แม่รู้ว่าเป็นมะเร็งก็เลยเลือกที่จะบอกลูกก่อน ตอนแรกบอกรู้ว่ามีเนื้อร้ายนิดหน่อย แต่ไม่เยอะมากเพราะว่าเราเพิ่งเจอ ลูกคนเล็กเค้าก็ให้กำลังใจบอกว่าคุณแม่ยังแข็งแรงไม่เป็นอะไรมากหรอก ส่วนคนโตก็ให้กำลังใจว่าที่คุณแม่เคยผ่าตัดเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่แล้ว คงไม่ไปถึงขั้นนั้นหรอกเดี๋ยวรักษาเดี๋ยวก็หาย"

ขั้นตอนการรักษายังไงบ้างต้องมีการให้คีโมมั้ย?

"พอเรารู้ว่าเรามีเนื้อร้าย ขั้นตอนที่หนึ่งคือการฉายรังสี ใช้รังสีคือการพุ่งเป้าไปตรงที่เรามีเนื้อร้าย แล้วคุณหมอก็ทำการวินิจฉัยไว้แล้วว่าต้องรักษาทั้งหมด 30 ครั้ง ก็ไม่น้อยนะคะ ช่วงที่รักษาโดยการฉายรังสีคุณหมอก็บอกว่ามันจะมีผลข้างเคียง คือบริเวณที่ฉายรังสีไปมันจะมีเบิร์นมีไหม้ อาจจะมีเบื่ออาหารอยากดื่มน้ำมากขึ้น และเราก็ต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อจะได้ขับปัสสาวะ คุณหมอก็ให้คำแนะนำให้ดูแลรักษาตัวเอง ทานอาหารให้มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ ดื่มน้ำที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพเรา อันไหนที่มีประโยชน์กับเราให้ทำไปเลย จนฉายรังสีครบทั้งหมดแล้ว 30 ครั้ง ครบแล้วเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งพอฉายครบทั้งหมด 30 ครั้งแล้ว ก็ต้องไปเว้นหนึ่งเดือนเพื่อทำที CTสแกน ดูผลว่าที่เราฉายแสงไปแล้วเป็นยังไงบ้าง เนื้อร้ายตรงที่เราเป็นเป็นยังไงบ้าง ปรากฏว่าคุณหมอบอกว่าโอเคเลย สวยเลยไม่มีจุดตรงที่เป็นเนื้อร้าย เหมือนยกภูเขาออกจากอก"

พออาการดีขึ้น ต้องดูแลรักษาตัวเองขั้นตอนยังไงต่อไป?

"เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากซึ่งเราทราบว่า สเต็ปในการรักษา โรคมะเร็งถ้าฉายรังสีเสร็จมันก็ต้องต่อด้วยการให้คีโม ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าถ้าหลังฉายรังสีเสร็จมาเราก็ต้องมาต่อด้วยการทำเคมีบำบัด ซึ่งเคมีบำบัดมันจะมีพุ่งเป้า มันจะมีกินยาที่เป็นขั้นตอน แต่คุณหมอเค้าทำให้เราอุ่นใจว่าอย่าไปพูดถึงขั้นตอนต่อไปเลย ไม่พูดถึงขั้นตอนให้คีโมให้เราสบายใจกับการฉายรังสีก่อน ในระหว่างที่เราฉายรังสี ก็จะมีการตรวจต่างๆมีตรวจค่าเลือด ค่าอะไรต่างๆซึ่งระหว่างนั้นก็ตรวจแล้วไม่มีค่ามะเร็ง เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็น บางทีวิธีคิดมันก็ช่วยเราได้"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊นท์ สิรีธร' ขอโทษหลังโดนถล่ม เป็นบุคลากรทางการแพทย์แต่ไม่เอะใจ

จากประเด็นดราม่าของละครเรื่อง แม่หยัว ทางช่องวัน 31 ที่มีการวางยาสลบแมวจนมีอาการเหมือนสำรอกและตัวชักกระตุกอย่างแรงเพื่อให้ได้ซีนวางยาแมวตามเนื้อเรื่อง จนผู้กำกับ สันต์ ศรีแก้วหล่อ ได้โพสต์ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่าแมวยังปลอดภัยดีและมีการดูแลจากเจ้าของและผู้เชี่ยวชาญอย่างดีในทุกๆขั้นตอนนั้น

'บุ๋ม ปนัดดา' เข่าแทบทรุด! สวนปาล์ม 50 ไร่ ไฟไหม้วอด!

ใครเจอแบบ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ก็คงเข่าทรุดเช่นกัน เมื่อมาเจอกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ส่วนปาล์มที่ปลูกไว้กว่า 50 ไร่ ถูกไฟไหม้จนแทบไม่เหลือเคล้าโครงเดิม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมาจากความเห็นแก่ตัวของคนที่เผาไร่อ้อยในสวนติดๆ กัน แต่ไม่สามารถควบคุมไฟได้ จนทำให้ลุกลามมาถึงสวนของเธอ

เช้าแรกของ 'ดินสอสี พนิดา' ในฐานะนางสาวไทย ๒๕๖๗

ถือเป็นเช้าแรกของการดำรงตำแหน่งในฐานะ "นางสาวไทย คนที่ ๕๕ ประจำปี ๒๕๖๗" ของ "ดินสอสี-พนิดา เขื่อนจินดา" ซึ่งเป็นธรรมเนียมประจำทุกปีกับภาพ "Morning Crown" ในห้องสวีทสุดหรู "King Suit" บนชั้น ๒๔ ณ มณเฑียร ริเวอร์ไซต์ โฮเทล แบงค็อก

รองนางสาวไทย 2565 'มุก อัญพัชร์' เข้าพิธีวิวาห์ เป็นสะใภ้หัวเมืองเหนือ

มุก-อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร รอง 1 นางสาวไทย 2565 เข้าพิธีวิวาห์สมรสกับเจ้าบ่าวชาวหนุ่มเหนือ โรจน์-สุทธิโรจน์ โชติเสถียรกุล พี่หมีตี๋ขาวน่าฮักตามแบบฉบับหนุ่มหัวเมืองเหนือ วันนี้ (2 มกราคม 2567)

'นิต้า มานิตา' คว้าตำแหน่งนางสาวไทย คนที่ 53

ประกาศแล้ว MT16 นิต้า-มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ คว้าตำแหน่ง นางสาวไทย คนที่ 53 ประจำปี 2565 สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด (Sweet Strong Smart) เปิดตำนานหน้าใหม่ของเวทีประกวดฯ ตรงคอนเซปต์ Revival of the Original หรือ กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน ทุกองศา