'ออกัส' เล่าอีกมุม โดนขู่ให้ไปกราบเท้าขอโทษ

พระเอกหนุ่ม ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ ออกมาเล่าในมุมของตัวเองบ้าง หลังถูกโยงปม อดีตเพื่อนสนิท กันสมาย-ชนกันต์ อาพรสุทธินันท์ เปิดแชทแฉจนกลายเป็นกระแสสนั่นโซเชียล  พร้อมเผยอยากเคลียร์เพื่อจบปัญหา แต่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอให้ไปกราบเท้าขอโทษ

"ตอนทราบข่าวตกใจครับ แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า เรื่องมันน่าจะเกิดมาตั้งแต่วันที่ 15 ครับ ผมไปเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อน ผู้ชายหมดเลย เราก็อยู่ที่โต๊ะกันปกติ จนมีผู้หญิงคนนึงเขามาขอร่วมโต๊ะด้วย ซึ่งทางเพื่อนผมก็ได้อนุญาต เพราะเขารู้จักกันมาก่อน และก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคนล่าสุดของคนที่โพสต์ครับ ตอนได้ยินก็แอบกลัวนิดหนึ่ง เลยค่อนข้างระวังตัว เพราะผมเคยมีประเด็นกับคนที่โพสต์มาก่อน แต่ น้องก็อยู่ที่โต๊ะไม่นาน  แล้วเขาก็ขอตัวกลับไป

จนวันที่ 16 คนที่โพสต์ก็ได้ทักไลน์ส่วนตัวมาหาผม และยื่นข้อเสนอให้ผม 2 อย่าง ก็คือ ให้ไปกราบเท้าขอโทษ หรือ  จะแฉผม ซึ่งผมก็พยายามอธิบายทุกอย่างแล้ว แต่เขาไม่ฟัง ผมก็ได้ให้เพื่อนสนิทของผม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย และอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น  ช่วยยืนยันอีกทีว่าไม่มีอะไร แต่ก็ไม่เป็นผลครับ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โพสต์ลงสตอรี่  ผมก็โทรตรงไปหาเขาเลย พยายามจะอธิบาย แต่สิ่งที่ได้รับก็คือ คำขู่จากเพื่อนของเขา สุดท้ายก็ให้ไปกราบเท้าเช่นเดิม ซึ่งผมไม่ได้ตอบนะครับว่าจะไปหรือไม่ไป

ตอนแรกผมคิดว่ามีคนเห็นแล้วเอาไปบอกเขา แต่ผมรู้มาว่าเป็นทางน้องผู้หญิงที่เป็นคนไปบอก แต่ไม่รู้ว่าบอกยังไง ผมไม่ทราบครับ แต่ผมยืนยันว่าวันนั้นผมไม่ได้อะไรกับน้องเขาเลย เพื่อนที่อยู่โต๊ะกับผมยืนยันได้ และผมก็ไม่ได้รู้จักกับน้องเขามาก่อน เพิ่งเคยเจอ ทางเพื่อนผมยังบอกอยู่เลยว่านี่คือแฟนคนล่าสุดของเขา  ผมเลยมั่นใจไงครับว่ามันไม่มีอะไร  จากที่เราเคยมีปัญหากันเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าที่ผ่านมาเราได้ตัดขาดกันไปเลย  ผมเลยตั้งใจที่ห่างและเซฟตัวเองมาก เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องเข้าใจผิด

(จะใช้กฎหมายจัดการกับคู่กรณีมั้ย) ในส่วนของผมไม่อะไรกับเขาแล้ว แต่อันนี้ก็ต้องเป็นเรื่องของทางบริษัทผม เพราะเขาก็เสียหายค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์ ซีรีส์ แฟนมีตติ้งทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย ทุกอย่างมีการเลื่อนและมีการยกเลิกด้วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจกับทางบริษัทครับ  สำหรับผมหลังจากนี้เวลาจะทำอะไร พิมพ์อะไรก็คงต้องมีสติและคิดให้มากกว่านี้

ส่วนประเด็นเมื่อ 3-4 ปีที่เกิดขึ้น ผมต้องขอโทษจริงๆ ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันไม่ได้รุนแรง ด้วยความที่เราแชร์หรือคุยอะไรกันแบบนี้บ้างสำหรับผู้ชายนะครับ มันเป็นเรื่องที่ถือวิสาสะแหละครับ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาเหมือนในข้อความที่โพสต์ แค่คุยเล่นกับเพื่อนแต่พอมันไปกระทบจิตใจของทางเขา ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จะขอโทษ แต่เกิดการบล็อก ผมก็เปลี่ยนช่องทางในการติดต่อกับเขาเพื่อขอโทษ แต่ก็ไม่สำเร็จครับ ผมไม่อยากตัดเพื่อนครับ เพราะมองว่าเรื่องพวกนี้กับเพื่อน เพื่อนสำคัญกว่า สุดท้าย ผมอยากจะขอบคุณคนที่ให้กำลังใจผมและรักผม ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ ก็อยากให้ลองฟังความทั้ง 2 ด้านก่อน แล้วค่อยตัดสินใจใครสักคนนึงครับ"