'สมมติ' งานสุดท้ายของ 'ธนกร' ได้ฉายในเทศกาลหนังโอซาก้า

เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยคุณภาพของเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับ สมมติ (Supposed) ผลงานกำกับของ ธนกร พงษ์สุวรรณ  ที่ล่าสุดได้รับการคัดเลือกจากโปรแกรมเมอร์ของเทศกาลให้เข้าฉายใน เทศกาลภาพยนตร์โอซาก้า ครั้งที่ 19  ร่วมกับภาพยนตร์ไทยอีก 7 เรื่อง โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 มีนาคมนี้ ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าเรื่อง “สมมติ” (Supposed) ถือเป็นงานกำกับชิ้นสุดท้ายของผู้กำกับในความทรงจำ อั๋น ธนกร และการพบกันครั้งแรกของสองนักแสดงมากฝีมือ อนันดา เอเวอริงแฮม และ ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช กับความสัมพันธ์สุดเหงาในเมืองใหญ่ของหนุ่มสาวยุคโซเชียลที่มีเส้นบางๆ คั่นกลางระหว่างความจริงกับเรื่องสมมติ ไม่ว่าความรักจะสมหวังหรือผิดหวัง มันก็ส่งผลให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปอยู่ดี เมื่อ นน (อนันดา) หนุ่มใหญ่ผู้เปลี่ยวเหงา และ เดียร์ (แพต ชญานิษฐ์) หญิงสาวผู้ลึกลับได้มาพบกันและตกลงสานสัมพันธ์โดยไม่ต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน จนกระทั่งความผูกพันลึกซึ้งอาจก่อตัวเป็นความรัก โดยไม่ทันคาดคิด ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะเป็น “ความจริง” หรือเป็นเพียงเรื่อง “สมมติ” ตลอดไป

อั๋น ธนกร  เป็นผู้กำกับมากฝีมือที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ไทยคุณภาพน่าจับตาและสร้างสีสันประดับวงการไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น Fake โกหกทั้งเพ (2546), เอ็กซ์แมน แฟนพันธุ์เอ็กซ์ (2547), โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) เกิดอมตะ (2550) ฯลฯ กับการถ่ายทอดหลากหลายเรื่องราวในมุมมองแปลกใหม่ บันทึกภาพสวยแปลกตาของกรุงเทพฯ รวมทั้งสะท้อนชีวิตของผู้คนในเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้ผ่านโมเมนต์เหงาเอาเรื่องได้อย่างมีเสน่ห์และสไตล์เฉพาะตัว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมมติ' ได้รับเลือกฉายในเทศกาลหนังที่นิวยอร์ก

สมมติ (Supposed) ภาพยนตร์ไทยเรื่องเยี่ยมผงาดในต่างแดนอีกครั้ง ล่าสุดกำลังเดินทางไปเยือน นิวยอร์ก โดยเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เอเชียที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival ครั้งที่ 23 (NYAFF 2024) นอกจากนี้ทางเทศกาลฯ ยังได้เชิญนักแสดงสาวมากฝีมือ แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช เป็นตัวแทนจากภาพยนตร์ร่วมเดินพรมแดงงานเปิดเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-28 กรกฎาคมนี้ ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ย้อนทำความรู้จักหนัง 'อั๋น ธนกร' ก่อนชมเรื่องสุดท้ายของเขา

อั๋น-ธนกร พงษ์สุวรรณ ถือเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่มีสไตล์โดดเด่นในการนำเสนอเนื้อหนัง ผ่านนักแสดงดรีมทีม ในแต่ละเรื่องได้อย่างมีเอกลักษณ์ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นที่เลื่องลือถึงภาพความงามของเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่หลายคนมักจะชมกันว่าไม่มีหนังเรื่องไหนที่ถ่ายกรุงเทพฯ ได้สวยเท่าหนังของเขาอีกแล้ว นอกจากโลเคชันและภาพจะสวยแปลกตาแล้ว มันก็ยังมีบรรยากาศเฉพาะตัวในแง่ ความเหงาของผู้คนในเมืองหลวง