เปิดคำสัญญา 'นายพลดอลล่าร์' ขอดูแลภรรยาด้วยหัวใจที่มั่นคง

เมื่อ คุณหญิงแมงมุม หรือ ม.ร.ว. ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล และ นายพลดอลล่าร์ หรือ พล.ต.พัชร รัตตกุล   ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจเพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกกับคำมั่นสัญญาของ นายพลดอลล่าร์ ที่มีต่อ คุณหญิงแมงมุม 

โดยในงานแต่งงานของทั้งคู่ นายพลดอลล่าร์ เคยให้คำมั่นสัญญาว่า  “ผมก็ค่อนข้างรอวันนี้มานานแล้วนะครับผม ก็อายุ 50 ปีแล้ว ผมเชื่อว่าแมงมุมจะเป็นคนที่ทำให้ผมมีทิศทางในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็อยากจะขอบอกว่า ผมจะดูแลเขาให้เต็มความสามารถของผมจนกว่าชีวิตจะหาไม่ซึ่งสำหรับผมคงไม่นานเท่าไหร่นะครับ”

ซึ่งในปัจจุบัน นายพลดอลล่าร์ ก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญานั้นอย่างเคร่งครัด จากวันนั้นที่แต่งงานปี 2555 ซึ่งในระหว่างการเดินทางหลังแต่งงาน ในทุกๆ ปี คุณหญิงแมงมุม ก็ยังมีอาการป่วยมาเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ดูแลอย่างดี

“ครับมาป่วยหนักปี 2561 เริ่มต้นจากเขาเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ สาเหตุจากโรค SLE ทำให้เส้นเลือดในสมองเขาตีบ อาการก็ด้านซ้ายก็ไปหมดครับ สายตานี่ก็ 180 องศา ข้างล่างนี่จะมองไม่เห็น จะเห็นแค่ข้างบนไม่เห็นครึ่งล่างครับ ตอนนั้นอายุยังน้อย ตอนแมงมุมเป็นเส้นเลือดในสมองตีบอายุ 33 ปี ก็ฟื้นตัวได้เร็ว ก็กลับมาใช้กล้ามเนื้อได้ทั้งหมด ก็คือเอาข้างซ้ายกลับมาได้ทั้งหมด แต่ว่าหลังจากนั้นก็ไตวายปลายปี 2562 ก็ฟอกไตมาตลอดจนประมาณปี 2564 นั่นแหละครับ ก็มาที่ตาก็สูญเสียการมองเห็นไป พอมาปี 2565 ก็หัวใจวาย

พอปี 2566 หัวใจเต้นผิดปกติอีกต้องกระตุ้นด้วยไฟฟ้าอีกสี่ครั้งครับ แล้วก็มาหนักๆ ที่สุดเลย ที่เพิ่งผ่านมาที่นัดมารายการนี้แล้วมาไม่ได้ นั่นก็คือ หลอดเลือดใหญ่ของหัวใจมันฉีกขาดเนื่องจากความดันสูงเป็นเพราะโรคไต ก็ต้องผ่าตัดด่วนเปลี่ยนหลอดเลือดหัวใจก็ติดเชื้อที่ปอด ปอดก็แฟบทีนี้ก็เลยเรื่องใหญ่เลยก็ต้อง รักษาด้วยวิธีทำให้เขาเป็นอัมพาต ให้เขาไม่รู้สึกตัว แล้วก็ให้ยาสลบด้วยเพื่อที่จะได้พลิกหงายพลิกคว่ำ เหมือนคนรักษา โควิด-19 ครับ จะนอน 6 ชั่วโมงคว่ำหน้า แล้วหงาย 8 ชั่วโมง จะทำอยู่อย่างนี้ครับทำอยู่แปดวัน เพื่อให้ปอดกลับมาฟูให้ได้เพราะถ้ามันไม่ฟูก็เสียชีวิต แต่เค้าจะไม่รู้สึกตัวก็ต้องจับเขาพลิก ที่ไม่ให้เขารู้ตัวก็เพราะว่าเขาจะรู้สึกทรมานมาก เราก็ต้องมั่นใจว่าเขาไม่ตื่น ก็ต้องดูมอนิเตอร์ตลอดแปดวัน พอเขาใกล้จะตื่นเราก็ต้องบอกคุณพยาบาลว่า ให้หมอเขาเพิ่มยานอนหลับ

สำหรับผมในตอนนั้น มันก็เสียใจนะ เวลาเราเห็นคนที่เรารักต้องเจ็บต้องทรมาน แต่ผมเป็นคนว่าถ้ามีภารกิจอยู่ข้างหน้าผมจะเอาอันนี้พักไว้ก่อน ความเหนื่อยความสงสารตัวเองความเครียดอะไรเอาพักไว้ก่อน แล้วเราก็ทำภารกิจของเราให้สำเร็จ ซึ่งตอนนั้นคือต้องดูแลเขาให้เขาผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้