'พลอยชมพู' ยื่นฟ้องค่ายเก่าผิดสัญญา เรียกค่าเสียหาย 8 หลัก

นักร้องสาวมากความสามารถ พลอยชมพู หรือ ญานนีน ภารวี ไวเกล ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ณ ห้องประชุม Sofinspace สยามสแควร์ ซอย1  ถึงกรณีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องค่ายเก่า อดีตต้นสังกัดที่ประเทศมาเลเซีย ที่เคยทำงานร่วมกัน ในข้อหาผิดสัญญา โดยงานนี้ยืนยันไม่รับเป็นคำขอโทษ แต่เรียกค่าเสียหาย 8 หลัก หวังเยียวยาอนาคตตนเองที่เสียไป 2 ปี

“หนูหายหน้าหายตาไปนาน รวมถึงงานเพลงที่ออกมาเพียงเพลงเดียวในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ปีที่แล้วปี 2020 เป็นปีที่หนูบรรลุนิติภาวะพอดี แล้วก็เป็นปีที่แย่ที่สุดสำหรับหนู มันเป็นปีที่แย่กว่าการต้องมาเจอโรคระบาดอีก ไม่คิดว่าตอนอายุ 21 จะต้องมาเจอกรณีพิพาทกับคนอื่นจนถึงขั้นต้องขึ้นศาล  จริงๆ หนูไม่ได้ต้องการมีปัญหากับใคร หนูต้องการจบทุกอย่างด้วยดี แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งเขาไม่ต้องการที่จะจบ หนูก็ต้องมารวบรวมความกล้าในวันนี้ที่จะมาแถลงข่าว

ประเด็นหลักที่หนูต้องการจะกล่าวถึงคือการที่หนูเป็นโจทก์ยื่นฟ้องค่ายเพลงเก่าที่หนูเคยร่วมงานด้วย  ข้อกล่าวหาที่เป็นประเด็นหลักคือค่ายไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาจนกระทั่งสัญญาสิ้นสุด จึงเรียกร้องค่าเสียหาย เรื่องข้อกล่าวหาค่ายผิดสัญญาผิดในส่วนไหน ในตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้มาก ทุกอย่างกำลังรอการพิสูจน์อยู่นะคะ ส่วนการฟ้องร้องครั้งนี้ได้มีการฟ้องที่ศาลมาเลเซีย ถ้าหนูไม่ฟ้องชีวิตหนูก็เดินต่อไปไม่ได้  ตอนนี้ศาลมาเลเซียก็ประทับรับฟ้องแล้ว

หนูจะไปให้สุด ไม่ต้องการคำขอโทษ หนูต้องการการชดเชยจากค่ายเท่านั้น ที่จะสามารถเยียวยาอนาคตของหนูที่เสียไป 2 ปีได้ สำหรับการฟ้องร้องค่ายก็มีเพียงเท่านี้ในตอนนี้ค่ะ เรื่องตัวเลขหนูอาจจะยังไม่สามารถพูดตัวเลขตรงๆ ได้ แต่ว่าก็ 8 หลักค่ะ จริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะฟ้องร้อง แต่เจรจากันมาค่อนข้างนานเกือบปีค่ะ แต่ว่าด้วยความที่เราต้องการทำงานต่อไป เราก็เลือกฟ้องร้องก่อน ตอนนี้สัญญาสิ้นสุดแล้วค่ะ ตามสัญญาหนูให้ทนาย 2 คนทั้งทนายมาเลเซียและคนไทยช่วยอ่านสัญญาให้ ทั้งสองทนายเขาเห็นตรงกันว่าสัญญาสิ้นสุดแล้ว หลังจากนี้ก็ออกมาทำงานอิสระ ซึ่งหนูเคยทำงานอิสระมาก่อน ก็พอจะมีประสบการณ์บ้าง ครั้งนี้มันก็เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่สำหรับหนู

ไม่มีรายได้มาเกือบ 2 ปีแล้ว มันก็เหนื่อยนิดนึง แต่ก็โชคดีที่พอทำซิงเกิลใหม่นี้พอเอาไปเสนอลูกค้า ทุกคนก็พร้อมซัพพอร์ตเรา ก็รู้สึกดีใจ ตอนที่หนูเริ่มต้นทำเพลงนี้ หนูยังเครียดเลยว่าหนูจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าทำเพลง  แต่ก็ทำไปก่อน เสนอโปรเจ็กต์รวมทั้งเอ็มวีเอาไปเสนอให้ลูกค้าฟัง แล้วก็มีคนที่พร้อมจะลงทุนกับเรามากขึ้นเรื่อยๆ จนเอ็มวีตัวนี้มูลค่าในการสร้างทั้งหมดมัน 2 ล้านบาท หนูก็ไม่คิดว่ามันจะได้มาขนาดนี้ค่ะ หลังจากนี้ก็คงทำงานที่ไทยเป็นหลัก แต่คงจะไม่เซ็นอะไรกับใครจริงจัง แต่สามารถทำงานเป็นโปรเจ็กต์ได้ คงจะไม่เป็นศิลปินภายใต้สังกัดใครแล้วค่ะ เพลงใหม่จะออกวันที่ 14 ม.ค.นี้ อยากจะฝากกับทุกๆ คนด้วยนะคะ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิว เดอะวอยซ์' ปล่อยโฮ ชีวิตนี้อาจไม่ได้ร้องเพลงอีกแล้ว!

"ไม่รู้จะกลับไปร้องเพลงได้อีกไหม" นี่คือสิ่งที่ทำให้ บิว-จรูญวิทย์ พัวพันวัฒนะ หรือ บิว เดอะวอยซ์ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เหตุเพราะอาการป่วยมีเลือดออกที่เส้นเสียง ที่ถึงแม้จะพักรักษาตัวเท่าไหร่ก็ยังกลับมาเป็นอีก ทำให้เจ้าตัวต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ต ซึ่งหนุ่มบิวได้โพสต์คลิปพร้อมแคปชั่นว่า "ถ้าเป็นไปได้ บิวก็ยังอยากจะร้องเพลงต่อไป"

อุ๊ย! เรืองไกร ร้องสอบจริยธรรม 'นายกฯอิ๊งค์' พูดเงินบาทแข็งดีต่อส่งออก-แม่น้ำปิงไหลลงแม่น้ำโขง

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) นำความตามพิพากษาศาลฎีกาแผนก

โชเฟอร์ซื้อใบขับขี่! ครม.อุ๊งอิ๊งไปไม่เป็น เกิดอาการอกสั่นขวัญผวา มีความเสี่ยงสูงถูกถอดถอนทั้งคณะ

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol หัวข้อ ครม. อุ๊งอิ๊งไปไม่เป็น จากกรณีที่นักร้อง ได้ร้องว่า