"Now And Then” เพลงสุดท้ายของ "The Beatles" ได้ปล่อยออกมาให้แฟนเพลงทั่วโลกได้ฟังแล้วทุกช่องทางการสตรีม ภายใต้ค่าย "Apple Corps Ltd./Capitol/UMe" โดยมิวสิกวิดีโอได้ไดเรกเตอร์ชื่อดังอย่าง "Peter Jackson" มาร่วมกำกับ เตรียมรับชมพร้อมกันทั่วโลกคืนวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 (ตามเวลาประเทศไทย) ทาง YouTube ช่อง "The Beatles"
มิวสิกวิดีโอนี้เป็นเหมือนการเชิญชวนให้แฟนเพลงร่วมกันฉลองให้กับความรักเหนือกาลเวลาอันยาวนานของ "The Beatles" ที่มีให้กันและกันระหว่าง "John, Paul, George และ Ringo" ที่ร่วมกันสร้างผลงานเพลงสุดท้ายนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ
"Peter Jackson" ผู้กำกับ MV "Now And Then" กล่าวว่า "ตอนที่ Apple เชิญผมมากำกับมิวสิกวิดีโอ ผมลังเลใจมาก ผมคิดว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคงจะสนุกกว่านี้มาก ถ้างานนี้เป็นของคนอื่น และผมก็จะเป็นเหมือนกับแฟนเพลง Beatles คนอื่น ๆ ดื่มด่ำกับค่ำคืนก่อนวันคริสต์มาสกับเพลง และมิวสิกวิดีโอใหม่ของ Beatles ในปี 1995 ผมชอบความตื่นเต้นเหมือนเด็ก ผมรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่เฝ้ารอการปล่อยเพลง ‘Free As A Bird’ ผมจะสามารถกลับไปมีความรู้สึกแบบนั้นได้อีกครั้ง สิ่งที่ผมต้องทำคือบอกปฏิเสธ The Beatles
พูดตามตรง แค่ผมคิดถึงความรับผิดชอบที่ต้องทำมิวสิกวิดีโอให้สมเกียรติกับเพลงสุดท้ายของ The Beatles มันสร้างความกังวลมากเกินผมจะรับไหว ความรักของผมที่มีให้ The Beatles นั้น ทำให้ผมเผชิญกับความหวาดกลัวเมื่อคิดว่าอาจจะทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง มันทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเลย เพราะผมไม่เคยทำมิวสิกวิดีโอมาก่อน และผมจินตนาการไม่ออกว่าจะเริ่มทำมิวสิกวิดีโอให้กับวงดนตรีที่แยกวงมามากกว่า 50 ปี และพวกเขาก็ไม่เคยแสดงเพลงนี้มาก่อน อีกทั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของวงยังไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว
ผมว่าทางที่ง่ายที่สุดคือการวิ่งหนีงานนี้ไป ผมแค่ต้องการเวลาเล็กน้อย เพื่อหาเหตุผลที่ดีในการปฏิเสธงานของ The Beatles ดังนั้นผมจึงไม่ได้ตกลงที่จะทำมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then เลย ผมบอกกับ Apple ว่าการขาดฟุตเทจที่เหมาะสมนั้นสร้างความกังวลใจให้กับผม เราจำเป็นต้องใช้ฟุตเทจที่ไม่เคยมีใครเห็นที่ไหนมาก่อน แต่มันมีจำนวนน้อยมาก... ดูเหมือนว่าจะไม่มีภาพให้เห็นเลยว่า Paul, George และ Ringo กำลังทำเพลง Now And Then ด้วยกันในปี 1995 และไม่ค่อยมีฟุตเทจของ John ช่วงกลางของยุค 70s ในตอนที่เขาเขียนเดโม และผมก็กังวลใจเช่นกันที่ไม่มีฟุตเทจของ Beatles ในยุค 60s ... และพวกเขาก็ไม่ได้ถ่ายฟุตเทจใด ๆ ในตอนที่ Paul และ Ringo กำลังทำเพลงนี้ในปี 2022 ที่ผ่านมาเลยด้วย
หัวใจหลักในมิวสิกวิดีโอของ Beatles ก็คือฟุตเทจของพวกเขา และไม่มีทางที่ผมจะใช้นักแสดง หรือ CGI มาแทน Beatles ทุก ๆ ช็อตที่ฉาย The Beatles จะต้องเป็นภาพของพวกเขาจริง ๆ และผมคิดไม่ออกเลยว่าจะทำมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then ออกมาได้ยังไงถ้าไม่มีฟุตเทจที่เหมาะสมมาให้ นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวเลย ความกลัว และความรู้สึกไม่มั่นคงของผมตอนนี้กลายเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้พวกเขาปล่อยให้ผมบอกปฏิเสธโดยไม่ดูเหมือนคนขี้ขลาดจนเกินไป
ผมรู้ว่า The Beatles จะไม่มีวันรับคำปฏิเสธถ้าพวกเขาคิดจะทำอะไรสักอย่าง แต่พวกเขาไม่รอให้ผมปฏิเสธด้วยซ้ำ ผมค้นพบว่าตัวเองถูกโน้มน้าวอย่างรวดเร็ว เมื่อ Paul และ Ringo ส่งคลิปการแสดงของพวกเขามาให้ผม Apple ขุดเจอฟุตเทจ 14 ชั่วโมงที่ถูกเก็บไว้ระหว่างการบันทึกเสียงในปี 1995 รวมถึงการทำงานหลายต่อหลายชั่วโมงของ Paul, George และ Ringo เพื่อทำเพลง Now And Then และมอบฟุตเทจเหล่านี้ให้กับผม Sean และ Olivia พบโฮมฟุตเทจที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนและส่งมาให้ผม เพื่อจบเรื่องนี้ผมได้ใส่วินาทีที่แสนล้ำค่าของ The Beatles ที่กำลังเล่นดนตรีในชุดหนังของพวกเขา ภาพยนตร์ดังของ The Beatles และที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก Pete Best
พอได้ดูฟุตเทจก็เปลี่ยนสถานการณ์ไปอย่างสิ้นเชิง ผมเริ่มเห็นแนวทางในการสร้างมิวสิกวิดีโอขึ้นมาจริง ๆ ผมค้นพบว่ามันจะง่ายกว่ามากถ้าทำมันออกมาเป็นหนังสั้นและนั่นก็คือสิ่งที่ผมทำ การที่ผมขาดความมั่นใจในการทำมิวสิกวิดีโอไม่ได้สำคัญอีกต่อไปถ้าผมไม่ได้ทำมัน ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่าหนังสั้นเรื่องนี้ควรจะเป็นอย่างไร ดังนั้นผมจึงหาแนวทางจากการทำความเข้าใจกับเพลงนี้
หลังจากที่พวกเราทำการแยกเสียงของ John ในเทปเดโมเมื่อปีที่ผ่านมา Giles ได้โปรดิวซ์ และมิกซ์เสียง Now And Then ขึ้นมา และส่งมาให้ผมในปี 2022 ผมรักมัน ตั้งแต่ตอนนั้นผมฟังเพลง Now And Then มากกว่า 50 ครั้ง มันทำให้ผมมีความสุขมาก ๆ
ตอนนี้ผมเริ่มฟังเพลงนี้อย่างตั้งใจด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ผมหวังว่าจะมีไอเดีย หรือแรงบันดาลใจสำหรับการทำหนังสั้นจะลอยมาพร้อมกับเสียงดนตรี และมันก็เริ่มเป็นแบบนั้นเมื่อผมฟังมันไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกเหมือนเพลงนี้สร้างไอเดีย และภาพที่เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของผมโดยที่ไม่ต้องพยายาม
ผมร่วมมือกับ Jabez Olssen เอดิเตอร์จาก The Beatles : Get Back เพื่อพยายามหาวิธีที่จะใช้ฟุตเทจในภาพยนตร์เรื่องใหม่เพื่อสนับสนุนไอเดียเหล่านี้ มันเป็นกระบวนการที่เรียบง่ายมาก และเราค่อย ๆ เพิ่มเติมส่วนเล็กน้อย ทั้งการเลื่อนรูปภาพและดนตรีไปรอบๆ ด้วยวิธีต่างๆ จนเริ่มลงตัว
พวกเราอยากให้หนังสั้นเรื่องนี้เรียกน้ำตาแก่ผู้ชม แต่การสร้างอารมณ์ความรู้สึกโดยการใส่เพียงฟุตเทจที่นั้นค่อนข้างยาก โชคดีที่ความเรียบง่ายของบทเพลงอันไพเราะนี้ช่วยเราได้มาก และเราก็จบซีน 30 หรือ 40 วินาทีแรกของภาพยนตร์ได้เร็วพอสมควร
เมื่อทำแบบนั้นแล้ว เราได้ข้ามไปถึงตอนจบ และพยายามสร้างบางสิ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นตำนานของ The Beatles ในวินาทีของการบันทึกเสียงครั้งสุดท้าย แต่มันพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ผลงานพวกเขาที่ทำให้โลกใบนี้มันยิ่งใหญ่ล้ำค่าและความมหัศจรรย์ทางด้านดนตรีกลายมาเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของพวกเราและตอนนี้ท้าทายคำอธิบาย
ผมคิดได้ว่าพวกเราต้องจินตนาการถึงผู้ชมทุกคน และให้ผู้ชมได้สร้างช่วงเวลาของตัวเองในการอำลา The Beatles แต่เราต้องค่อย ๆ พาทุกคนไปยังจุด ๆ นั้น ผมมีไอเดียที่คลุมเครืออยู่ แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะร้อยเรียงมันออกมายังไง โชคดีที่ Dhani Harrison บังเอิญมาที่นิวซีแลนด์พอดี ผมได้คุยเกี่ยวกับฉากจบกับเขา และบรรยายถึงไอเดียที่คลุมเครือในหัวของผม ทันใดนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาในทันที นั่นจึงเป็นทิศทางที่เราไปต่อ
Jabez และผมเริ่มคิดถึงไอเดียในช่วงกลางของเพลง พวกสามารถดูฉากเริ่มและฉากจบด้วยกัน และรู้สึกทันที่ว่าแผนแรกของพวกเราที่พยายามถ่ายทอดพลังของอารมณ์ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางเป็นสิ่งที่ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง นั่นไม่ใช่ตัวตนของ The Beatles พวกเขาต่างเป็นคนกันเอง และตลก ซึ่งตรงช่วงกลางควรจับภาพจิตวิญญาณความเป็นตัวตนของพวกเขาเอาไว้ พวกเราต้องหัวเราะ The Beatles และขำไปกับพวกเขา พวกเขามักเป็นตัวของตัวเอง และถ้าคนรอบข้างยิ่งซีเรียสกับพวกเขามากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งเล่นตลกมากขึ้นเรื่อย ๆ
โชคดีที่พวกเราพบภาพเบื้องหลังที่ไม่มีใครเห็น ซึ่ง The Beatles ดูผ่อนคลาย สนุก และค่อนข้างเป็นกันเอง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นหัวใจหลักในช่วงกลางของมิวสิกวิดีโอและเรายังร้อยเรียงความตลกลงในฟุตเทจที่ถ่ายในปี 2023 ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาค่อนข้างดี และทำให้วิดีโอมีความบาลานซ์ระหว่างความเศร้าและความตลก พูดตามตรง แม้เราหวังว่าจะอำลา The Beatles เป็นครั้งสุดท้ายอย่างสมเกียรติ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองเมื่อมิวสิกวิดีโอถูกปล่อยออกมา
สุดท้ายแล้ว ผมมีความสุขมากที่ไม่ต้องรอดูมิวสิกวิดีโอเพลง Now And Then ที่กำกับโดยคนอื่น ผมภูมิใจในผลงานที่พวกเราทำออกมา ผมต้องขอขอบคุณ Apple Corps และ The Beatles เป็นอย่างยิ่งที่ให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี"
"Now And Then" เพลงสุดท้ายของ "The Beatles" ที่ร้องโดย "John Lennon" และนำมาปรับปรุงใหม่โดย "Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr" ในที่สุดซิงเกิลนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยความร่วมมือของ "Paul McCartney และ Ringo Starr" จะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบ "The double A-side single" คู่กับ "Love Me Do" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกของ "The Beatles" ที่ปล่อยออกมาในปี 1962 ที่ ทั้ง 2 เพลงยังถูกมิกซ์เสียงให้เป็นระบบ "Stereo และ Dolby Atmos®" ในส่วนของ "Cover Art" เป็นภาพ Original ที่ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่าง "Ed Ruscha"
"Now And Then - The Last Beatles Song" ภาพยนตร์สารคดีความยาว 12 นาที ถูกเขียน และกำกับโดย "Oliver Murray" สามารถรับชมได้แล้วบนช่องทางยูทูปของ "The Beatles" ที่จะพาทุกคนไปเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานเพลงสุดท้ายของ "The Beatles" พร้อมคลิปฟุตเทจของ "Paul McCartney, Ringo Starr, George Harrison, Sean Ono Lennon และ Peter Jackson"
อัลบั้ม "1962-1966 (The Red Album)" และ "1967-1970 (The Blue Album)" ในรูปแบบ 2023 Edition ได้มีการเพิ่มเติมเพลงเข้ามาและมีกำหนดวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน ภายใต้ค่าย "Apple Corps Ltd./Capitol/UMe" พร้อมรวบรวมเพลงอันโดดเด่นของ "The Beatles" ทั้งหมด 75 เพลง ตั้งแต่ซิงเกิลแรก "Love Me Do" จนถึงซิงเกิลสุดท้ายของพวกเขากับ "Now And Then" ที่ถูกนำมาพัฒนาให้เสียงมีความทันสมัยในระบบเสียง "Stereo และ Dolby Atmos" โดย "Giles Martin และ Sam Okell" ที่สตูดิโอ "Abbey Road" ด้วยการช่วยเหลือทางเทคโนโลยีแยกเสียงจาก "WingNut Films"
นอกจากนี้ทั้งสองอัลบั้ม "1962-1966 (The Red Album)" และ "1967-1970 (The Blue Album)" ได้เพิ่มบทความใหม่ที่เขียนโดยนักข่าว และนักเขียน “
John Harris" สามารถ Pre-Order และ Pre-Save อัลบั้ม กับ 1962-1966 (The Red Album) และ 1967-1970 (The Blue Album) ได้แล้วที่นี่ :
https://TheBeatles.lnk.to/RedAndBlue2023