'นัท-ณิชา' เพื่อนรักมัธยม เคมีคนละขั้วที่ลงตัวเฉย

ผ่านมาแล้วกับหลากหลายบทบาท ทั้งในวงการซีรีส์และวงการภาพยนตร์ สำหรับนักแสดงมากฝีมืออย่าง นัท-ณัฎฐ์ กิจจริต ไม่ว่าบทไหนหนุ่มนัทก็เอาอยู่จนสามารถคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย และล่าสุดกับภาพยนตร์ 14อีกครั้ง I Love You Two Thousand ผลงานการกำกับของ  เป้-นฤบดี เวชกรรม หนุ่มนัทก็ได้โชว์ฝีไม้ลายมืออีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะเหนื่อยมากเพราะบทบาค่อนข้างขัดกับธรรมชาติของตัวเองแต่ก็ขอสู้แบบเต็มร้อย  แถมงานนี้ยังต้องมาร่วมงานกับนางเอกสาว ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ เป็นครั้งแรกอีกด้วย

โดยหนุ่มนัท เผยว่า “ในเรื่อง 14อีกครั้ง ผมรับบทเป็น ต้อ เป็นหนุ่มที่ไม่มูฟออนเท่าไหร่ เขาก็จะวนเวียนในตัวเลข 14 นี่แหละ คือตอนที่ผมได้รับบทนี้น้าเป้ที่เป็นผู้กำกับ (นฤบดี เวชกรรม) กับพี่ออมที่เป็นแคสติ้ง จะบอกว่าตัวต้อมีความเป็นมนุษย์สูงมาก  เขาจะคอยมองสิ่งต่าง ๆ ตลอด จะเล่นมุกจะคอยทำให้บรรยากาศมันเบาขึ้น สมมติว่าบรรยากาศมันเครียดต้อจะเป็นคนที่เข้ามาเล่นมุก ผมก็พยายามคิด คอยมองคนที่มีอารมณ์ทำนองนี้รอบตัว แต่ว่าหลัก ๆ เลยที่ตัวละครต้อมันเริ่มทำงานกับผมจริง ๆ  คือเรื่องการไม่ค่อยมูฟออน ไม่ค่อยทิ้งกับเรื่องราวอะไรเท่าไหร่ ถ้าสังเกตตั้งแต่การแต่งตัว ก็จะเห็นว่าต้อใส่แต่รองเท้าเดิม ๆ  ใส่รองเท้านักเรียนมาตั้งแต่ตอนเรียนยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่มูฟออนจากมัน หรือแม้แต่ความรักของเขากับเพื่อน เขายังวนอยู่ในลูป ต้อเขาจะมีคาแร็กเตอร์ประมาณนั้น

ตัวต้อกับนัท มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนหรือเหมือนกันไหม มีคนถามเรื่องนี้บ่อยนะ เพื่อนนักแสดงก็จะมาถาม  คือผมรู้สึกว่าต้อมันเป็นอะไรเล็ก ๆ ที่เราเอาไว้เล่นกับเพื่อนในชีวิตจริงของผม แต่รอบนี้เหมือนเราต้องถ่างออกมาเป็นหนึ่งชีวิต ความรู้สึกผมมันเหมือนต้องเล่นมุก ต้องเอนเทอร์เทนตลอดเวลา มันเหนื่อยมันขัดกับธรรมชาติของผมนิดนึงครับ ถามว่าเราก็มีเหลี่ยมนั้นเหมือนกันไหม ก็มีนะแค่ว่ามันจะออกมาสั้นไม่มากเท่ากับที่เป็นต้อ พอเป็นต้อต้องใช้โหมดนี้ตลอดเรื่องเลยมันแปลกดีครับ แต่ในแง่นึงผมกำลังมองหาบทแบบนี้อยู่ด้วย จากที่ก่อนหน้านี้เราเล่นแต่บทเครียด ๆ เดี๋ยวเป็นนักกีฬา (app war แอปชนแอป) เดี๋ยวเป็นอาชีวะ (4 kings อาชีวะยุค 90) มันเครียด ซีรีส์ที่เพิ่งปิดกล้องไปก็เครียด โชคดีที่พอมาถึงเรื่องนี้มันได้วางทุกอย่าง แล้วหายใจหายคอ สบาย ๆ

ตอนแรกก็ต้องปรับตัวมาก แต่ระหว่างนักแสดงด้วยกันมันก็สนิทกันมาเรื่อย ความพิเศษของกองนี้ก็คือ เราเริ่มเดินทาง เริ่มสนิทกับทุกฝ่าย ทีมอาร์ต ทีมแต่งหน้า ทีมเสื้อผ้า ผมว่าพอพลังงานในกองมันสนุก การมีโมแมนต์เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้มันน่ารักดี และผมว่ามองย้อนกลับมามันจะไม่ได้พูดแค่เรื่องทำงานในกอง แต่อาจจะพูดถึงทีมงาน คนนี้แต่งขาสั้น คนนี้แต่งตัวตลกอะไรอย่างนี้ครับ การอยู่กองถ่ายนี้มันผ่อนคลาย มันก็เลยเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปที่จะเป็นต้อในการแสดง

เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับณิชา จำได้ว่าเจอณิชาครั้งแรกเจอที่วันฟิตติง แล้วก็วันเวิร์กชอป มันมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันคือให้เราสลับกันเล่าเรื่อง แล้วให้ทายว่าเรื่องที่เล่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก เหมือนเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วผมทายณิชาผิด 100 % เลย เพราะทุกเรื่องที่เขาเล่ามันขัดกับสิ่งที่เรามองไว้ คือไม่คิดว่าณิชาจะมีมุมนี้ ความย้อนแย้งตรงนี้มันก็เป็นอะไรที่ตลกดี เพราะคาแร็กเตอร์เขามีความดุแต่ข้างในคือ ใช้ได้ มีอะไรคาดไม่ถึงเหมือนกัน คิวแรกๆ ที่ได้เจอกัน มันก็จะมีงงบ้างเป็นปรกติ แต่ณิชาเขาหัวดี ความที่ต้อมันเล่นไปเรื่อย บางทีมันต้องอยู่ในบทบ้างนอกบทบ้าง ณิชาเขาก็จะรับส่งได้ไว บางทีเขาก็จะเป็นคนที่ดึงผมกลับเข้าเส้นเรื่อง เส้นของไดอะล็อกหลักด้วย เพราะบางทีเราก็พูดนอกบท ความจริงเด็ก ๆ ก็ด้วย เขาจะคอยดึงสติผม ให้กลับมาพูดอยู่ในร่องในรอยเถอะ ผมว่าการที่ผมทำงานแล้วมาเจอกับพาร์ตเนอร์ที่พร้อมรับส่งมันสนุกมาก ซีนมันไปของมันเรื่อยเลยครับ

ส่วนการทำงานกับผู้กำกับอย่างพี่เป้ (นฤบดี เวชกรรม)  มันก็จะมีคิวสองคิวแรกที่ต้องจูนกัน แล้วก็อ๋อ โหมดประมาณนี้ที่น้าเป้เขามองหาอยู่ คือบางทีผมติดนิสัยการจำทุกอย่างไว้ให้แน่น แล้วก็เหมือนมาแสดงในสิ่งที่ซ้อมมา แต่สิ่งที่น้าเป้อยากได้มันเป็นโมเมนต์ความพิเศษระหว่างมนุษย์ บางทีเราต้องทิ้งไว้ครึ่งนึงแล้วก็มาหาเอาข้างหน้างาน อย่างที่เล่าให้ฟัง ผมว่านอกจากความตลก มันเป็นการที่ค่อย ๆ จูนกันมากกว่า หลัง ๆ พอทำงานแล้วผมเสนออะไร เล่นอะไรออกไป น้าเป้ก็จะบอกว่าแล้วแต่มึงแลย แล้วแต่นัทเหอะ เราก็เริ่มดีใจว่าเออแสดงว่ามันเริ่มมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างตัวแสดงกับผู้กำกับ พอมาถึงคิวที่เราเดินทางมา น่าจะประมาณครึ่งทาง มันเริ่มเกิดสิ่งพวกนี้ ผมก็ว่าโอเคเลย มันได้แชร์กันแล้วน้าเป้ก็ให้โอกาส

ผมอยากฝากหนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ สิ่งที่คนดูจะได้ อย่างแรกเลยคือความสุขครับ ได้แน่ ๆ ความสดของน้อง ความเหลือเชื่อจากณิชา ดูเพลิน มีความบันเทิง ก็อยากจะเชิญชวนทุกคนมาชมภาพยนตร์เรื่อง 14อีกครั้ง I Love You Two Thousand ในเรื่องนี้จะมีผม มีณิชา มีน้อง ๆ  อีกหลายท่านเลย ฝากด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปในวัย 14  แล้วก็ลองมาตั้งคำถามกันว่า ตอนที่เราอายุ 14 เรามีความคิดความอ่านยังไงกันบ้าง “

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทรูวิชั่นส์' ชวนย้อนความรู้สึกถึงรักแรกที่ลืมยาก '14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand'

“14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand ” หนังแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ย้อนวัย ที่เล่าถึงชีวิตวัยรุ่นตอนปลาย แต่กลับโหยหาประสบการณ์รักแรก อกหักครั้งแรก เพื่อนกลุ่มแรก วีรกรรมสุดแสบที่เคยทำในช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนต้น ที่พร้อมจะมาเติมเต็มความชุ่มชื่นหัวใจให้เราเสมอ