เป็นที่รับรู้กันมาตั้งแต่ต้นปีว่า บรูซ วิลลิส กำลังป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ครอบครัวของเขาประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ดาราฮอลลีวูดวัย 68 ปีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมส่วนหน้า (Frontotemporal dementia หรือ FTD) เพื่อนนักแสดงหลายคนต่างพากันแสดงความห่วงใยและเห็นอกเห็นใจ
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มมา เฮมิง-วิลลิส ภรรยาซึ่งใช้ชีวิตคู่กับวิลลิสมายาวนานถึง 14 ปี ได้ปรากฏตัวในรายการทีวี ‘The Today Show’ เธอให้สัมภาษณ์ในโอกาสเปิดงาน ‘สัปดาห์แห่งการรับรู้ภาวะสมองเสื่อมโลก ปี 2023’ อย่างเป็นทางการ ในโอกาสนี้อดีตนางแบบได้ตอบคำถามเกี่ยวกับอาการป่วยร้ายแรงของวิลลิส และความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่คนทั่วไปจะรับรู้
“ภาวะสมองเสื่อมเป็นเรื่องยากที่จะรู้” เอ็มมากล่าวกับพิธีกรในรายการ โรคนี้ค่อนข้างหนักสำหรับผู้ได้รับการวินิจฉัย และค่อนข้างหนักสำหรับสมาชิกครอบครัวด้วย “มันไม่แตกต่างกันเลย ไม่ว่าบรูซ ฉัน หรือลูกสาวของเรา ถ้าจะเรียกมันว่าเป็นโรคในครอบครัว มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ” เธอบอก
ดร.บอริส นิโคไล คอนราด-นักประสาทวิทยาและแชมป์โลกด้านความจำ เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Spot on News เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของบรูซ วิลลิส “ภาวะสมองเสื่อมบริเวณส่วนหน้าเป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้ไม่บ่อยนัก” โรคนี้แตกต่างจากอัลไซเมอร์ในหลายส่วน พบได้น้อยกว่า เริ่มมีอาการเร็วกว่า และมีอาการหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน สาเหตุของโรคมาจากความเสียหายต่อสมอง โดยเฉพาะในสมองส่วนหน้าและขมับ ตามชื่อของมัน สมองบริเวณนี้ตั้งอยู่ด้านหลังหน้าผากและมีความสำคัญมากต่อบุคลิกภาพ ภาษา การเคลื่อนไหว และจิตสำนึก
อาการของโรคสมองเสื่อมส่วนหน้ามักจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปผู้ป่วยจะเริ่มสังเกตเห็นอาการในช่วงอายุระหว่าง 40-65 ปี แต่อาจส่งผลต่อผู้ที่อายุน้อยกว่านี้ได้ และเป็นโรคสมองเสื่อมรูปแบบหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี
โรคที่บรูซ วิลลิสป่วยคือ โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท ซึ่งหมายความว่าเซลล์ประสาทจะตายอันเป็นผลมาจากโรคนี้ เอ็มมา เฮมิง-วิลลิสอธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “ทั้งพรและคำสาปในเวลาเดียวกัน” ในด้านหนึ่ง การเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้นั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขณะเดียวกันการวินิจฉัยที่ถูกต้องก็ไม่ได้ทำให้สามีของเธอ “เจ็บปวดน้อยลง” เธอกล่าว “แค่อยู่ในการยอมรับเท่านั้น และการได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบรูซ ก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นนิดหน่อย”
เอ็มมามองว่าในชีวิตคู่ เธอไม่ได้เป็นผู้ดูแลเต็มตัวนัก แต่เป็นคู่หูในการดูแลมากกว่า “เขาเป็นคู่หูของฉัน ฉันก็เลยเป็นคู่ดูแลของเขา” เธอกล่าวในรายการ ‘The Today Show’ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์และเดือนที่ผ่านมา เธอได้เรียนรู้ว่าการขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนในฐานะคู่ดูแลนั้นมีความสำคัญเพียงใด และสิ่งสำคัญสำหรับคู่ดูแลจะต้อง “ดูแลตัวเองให้ดีก่อน เพื่อเป็นคู่ที่ดีสำหรับคนที่ตัวเองจะดูแล”
“มีสิ่งสวยงามมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของเรา” เธอกล่าวเสริม “มันสำคัญมากสำหรับฉันที่จะละสายตาจากความโศกเศร้าและเสียใจ เพื่อที่ฉันจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา บรูซอยากให้เรามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่จริงๆ เขาคงอยากมอบสิ่งนั้นให้แก่ฉันและครอบครัวของเรา”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทิโมธี ชาลาเมต์' ผู้เพิกเฉยต่อค่านิยมความหล่อของฮอลลีวูด
รูปร่างผอมบางเกินไปและมีกล้ามเนื้อไม่แน่นหนันพอ ...อุดมคติด้านความหล่อดูดีของฮอลลีวูดดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้กับทิโมธี ชา
รักเก่าของ ‘ซูกิ วอเตอร์เฮาส์’ กับดาราดังยังเจ็บลึกในใจ
การเลิกรากับดาราฮอลลีวูด แบรดลีย์ คูเปอร์ ยังส่งผลกระทบต่อ ซูกิ วอเตอร์เฮาส์ ตอนนี้แม้เธอจะเป็นแม่คนแล้ว และมีความ
ขุมทรัพย์นาฬิกาหรูของ ‘ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน’
ดาราฮอลลีวูด ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน สะสมนาฬิการาคาแพงมานานหลายปี ส่วนมากเป็นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อพิ
'ชารอน สโตน' พลิกบทบาทที่หน้ากล้องมาสู่ผืนผ้าใบ
ดาราฮอลลีวูดวัย 65 ปี-ชารอน สโตนใช้เวลาขลุกอยู่กับการวาดรูปนานถึง 17 ชั่วโมงต่อวัน และชื่นชมในผลงานของตัวเอง เว
'เคนด้อม' ยังครองอำนาจในฮอลลีวูด
‘เคน’ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในขณะที่ ‘บาร์บี้’ กลับไม่มีสิทธิ์ มาร์โกต์ ร็อบบี้ไม่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักแสดงนำ
'โจดี้ ฟอสเตอร์' มองว่าคน Gen Z 'น่ารำคาญจริงๆ'
เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 ตัวรู้สึกประหลาดใจที่คนหนุ่มสาวคิดว่าคำแนะนำของเธอเกี่ยวกับการสะกดคำผิดในอีเมลไม่มีประโยชน์อ