'อุ้ม ลักขณา' เล่าทั้งน้ำตาชีวิตเหมือนตกสวรรค์

นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ อุ้ม ลักขณา  เปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวชีวิต เล่าทุกประเด็นหลังตัดสินใจหย่ากับอดีตสามี บอล กฤษณะ ที่คบหากันมากว่า 7 ปี เผยรู้สึกชีวิตเหมือนตกจากสวรรค์ ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองด้วยวัย 40  เดินหน้าต่อเพื่อลูกในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม

“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเรียนรู้เลยว่าไม่มีอะไรที่ยั่งยืน คือเราฝากชีวิตไว้กับเขา แล้วทิ้งทุกอย่างเลยนะ ทิ้งตั้งแต่ทำงานวงการ เพื่อที่จะมาใช้ชีวิตอยู่กับเขา ทิ้งครอบครัว ทิ้งเพื่อน สังคมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาคนเดียว จนกระทั่งมีลูก แล้วมันก็เลยทำให้เราตัดหนทางการทำงานของตัวเองไปเลย เหมือนตัดโอกาสตัวเองไปด้วย แต่แฮปปี้นะเพราะเรามีลูก รู้สึกว่าความสุขของเราคือลูก แล้วก็คิดว่าฝากฝังชีวิตเราไว้กับคนๆ นี้ ก็เหมือนเป็นพวกเพ้อฝันในอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นคนโลกสวยอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากจะมีสามีที่ดี เพราะเห็นพ่อเราเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบของคนที่เป็นสามีของครอบครัว เราก็อยากจะมีมุมๆ นั้น และในวันหนึ่งที่เราได้แต่งงานได้ใช้ชีวิตจริง ๆ

เราก็รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยเนอะ ก็ยังพูดกับเขา อุ้มเคยกราบเท้าเขาในวันพ่อเมื่อปีที่แล้วก่อนที่จะมีเรื่อง แล้วก็พาลูกๆ ไปกราบ ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ก็เอาพวงมาลัยไปกราบเท้า แล้วบอกเขาว่า ขอบคุณที่เป็นพ่อที่ดี ที่ดูแลอุ้ม และเคยบอกเขาว่า เราโชคดีเนอะที่มีสามีที่ดีมากๆ ทุกคนจะบอกกับอุ้มตลอดว่า เหมือนกับเป็นผู้หญิงที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ที่มีผู้ชายที่ดูแลเราดีมาก รักเรามากๆ ก็เลยทำให้เราไม่ได้คิดระแวดระวังหรือสงสัย เพราะทุกอย่างมันดีจริงๆ

มีเรื่องราวมากมายที่เราพยายามปรับตัวกันเยอะ เพราะว่าคนเรามันอยู่ด้วยกันมา 7 ปี คนละพ่อคนละแม่คนละสังคมกัน อะไรต่างๆ ก็เรียนรู้ซึ่งกันและกันมาเรื่อยๆ แต่พอสุดท้าย มาเจอเรื่องที่ทำให้เราเหมือนตกมาจากสวรรค์ เพราะเราไม่เคยคิด ไม่เคยมีในหัวอุ้มแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่จะไม่มีผู้ชายคนนี้ในชีวิต ณ วันนั้นนะคะ วันที่เราพาลูกๆ ไปกราบเท้าเขา ยังบอกเขาว่าเราแก่ไปด้วยกันนะ ดูลูกเติบโตไปด้วยกัน  เพราะคิดว่าเขาคือคนสุดท้ายในชีวิตเราแล้ว แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่ฝันไว้

ต้องบอกว่าอุ้มก็เป็นคุณแม่ที่ดูแลลูกเองมาตลอดอยู่แล้ว ตลอดเวลาตั้งแต่เขาเกิดมา คลอดเองธรรมชาติ ดูแลเขาเอง ได้เห็นการเจริญเติบโตของเขาจริงๆ เพราะลูกคนนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจที่จะมีด้วยความรักของเราทั้งสองคน แล้วอุ้มก็ได้อยู่ในทุกๆ ช่วงสำคัญของเขา ทุกๆ จังหวะในชีวิตเลย เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่เต็มตัวที่ทิ้งทุกอย่างเลยค่ะไม่ได้ทำงาน ปั้มนมให้ นมลูกกินกับเต้าดูแลเองทุกอย่าง รู้ทุกขั้นกระบวนการของลูก เพราะฉะนั้น ณ วันนี้ถามว่าการดูแลลูกมันเปลี่ยนไปไหมมันไม่ได้เปลี่ยน เพราะมันเป็นอุ้มคนเดิมอยู่แล้วที่ดูแลเขา แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือเขาเป็นเด็กที่ฉลาดมากเลยค่ะ 4 ขวบแต่เข้าใจ อย่าคิดว่าเด็กสมัยนี้ไม่รู้เรื่องนะคะ ตอนแรกไม่เคยคิดว่าคนเรามันต้องอดทนเพื่อลูก แล้วลูกถึงจะมีความสุขได้ แต่พอมาเจอกับตัวเองทำให้รู้เลยว่าถ้าเราไม่มีความสุขแล้วเราไม่มีแรงพอที่จะเลี้ยงเขา เขาจะได้รับผลกระทบนั้นอย่างเต็มๆ เลย

ดิสนีย์เขารู้ เขาสัมผัสได้ทุกอย่าง แค่อุ้มนั่งนิ่งๆ เขาก็จะแบบ หม่าม้าร้องไห้ทำไม หม่าม้าเศร้าเหรอ ไปเอาดอกไม้มาให้อะไรแบบนี้ค่ะ หม่าม้าดิสนีย์เป็นกำลังใจให้นะ ดิสโตขึ้นจะทำงานหาเงินดูแลม้านะ โดยที่ไม่เคยสอน เพราะไม่ได้อยากคาดหวังว่าลูกโตขึ้นต้องเลี้ยงเราหรือต้องมาให้อะไรตอบแทนแค่เขามีความสุขในแบบที่เขาเป็น แค่ 4 ขวบสามารถพูดและแสดงออกมากๆ เลยว่าเข้าใจหัวอกของเรา ถ้าเมื่อไหร่ที่อุ้มอ่อนแอ เขาจะรู้ทันที เลยทำให้รู้ว่าต้องเริ่มที่ตัวเรา คือต้องรักตัวเองก่อนในเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว เพราะเชื่อว่าเราทำดีที่สุด

อดทนมาจนถึงจุดที่มันสุดท้ายแล้วไม่ได้จริงๆ ก็ต้องยอมรับความจริงบนโลกใบนี้ ยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำหน้าที่ความเป็นพ่อเป็นแม่ดีที่สุดเพื่อลูก ให้เติบโตมาโดยที่ไม่รู้สึกว่าเขาขาดหรือว่าเขาจะไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขา สิ่งหนึ่งที่อุ้มจะไม่สอนลูกเลยคือ ไม่สอนให้ลูกตัวเองรับรู้ถึงปัญหาว่าพ่อกับแม่มีปัญหาอะไรกัน หรือเขาจะไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขา อุ้มจะบอกเขาเสมอว่า ป๊ะป๋ารักดีสนีย์มากและหม่าม้าก็รักดีสนีย์มาก ในวันนี้หม่าม้ากับป๊ะป๋าเป็นเพื่อนกัน ครั้งแรกเขาไม่เข้าใจนะคะ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนได้ยังไงแต่งงานกันก็ต้องเป็นสามีภรรยาสิ

เด็กแค่ 4 ขวบ เขาพูดคำนี้ออกมา เราก็บอกว่าได้สิลูก แต่ป่ะป๊าหม่าม้าก็ยังรักลูกเหมือนเดิม คราวนี้เราต้องย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ใช่ไหมคะ เขาเกิดที่เชียงใหม่ เขาก็พูดว่าบ้านเขาอยู่เชียงใหม่ เพื่อนเขาอยู่เชียงใหม่ ทำไมหม่าม้าต้องย้ายบ้าน เราก็ตอบว่าบ้านพังป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้าน ก็เลยเปิดคลิปวีดีโอที่เป็นบ้านพังถล่มให้เขาดู แล้วก็บอกกับพ่อเขาให้เราพูดไปในทางเดียวกัน ว่าป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้านเดี๋ยวลูกกลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับหม่าม้า อากง เฮียก้า น้านิว ซึ่งเขาก็แฮปปี้

ทำไมเราต้องเอาชีวิตของเราผูกไว้กับคนๆ หนึ่ง ซึ่งเราอยู่ตรงนั้นมันอยู่ไม่ได้อีกแล้ว ไม่มีความสุขอีกแล้ว มันไม่ได้มีคุณค่าอีกแล้ว เพราะฉะนั้นกลับมารักตัวเองค่ะ เมื่อเรารักตัวเอง เรารักคนรอบข้าง โดยเฉพาะลูก เราจะมีพลังมากเลยนะ ลองคิดดูว่าคนที่นอนร้องไห้ทุกคืนๆ เห็นหน้าเขาแต่เราต้องร้องไห้ไม่มีความสุขกลัวหวาดระแวง กับการที่เราใจแข็งสู้ดิ ทุกคนมันต้องมีทางไป และอุ้มก็เชื่อกับนิวเสมอเลยจะพูดกันตลอดอะไรเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาคงประทานมาให้เราได้เห็น ได้รู้ ไม่ตามืดตามัว คงบอกเราแล้วล่ะคุณมูฟออน ต้องเดินออกไปสิ ต้องทำได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง

แล้วแม่ของอุ้มจะพูดตลอดว่าเธอคือ อุ้ม ลักขณา ลักขณาฆ่าไม่ตายหม่าม้าบอกแล้วใช่ไหม เราดูแลตัวเองมาดีขนาดนี้ ออกกำลังกายอย่างหนัก ดูแลตัวเองให้อายุ 40 แล้วยังดูสวยอยู่ แล้วสวยกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงต้องด้อยค่าตัวเอง ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้กับสาวๆ  คนที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน เราไปได้ โดยเฉพาะเรามองหน้าลูก เรานอนกอดเขา เห็นหน้าเขา มันมีพลังมหาศาลมากมาย ซึ่งทำให้เราแพ้ไม่ได้ ยอมไม่ได้ต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ต้องดีกว่าเดิมให้ได้มากกว่าเดิมด้วยเพื่อลูกของเรา”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การจากลาเป็นเรื่องธรรมชาติ 'อาม่าแต๋ว' ไม่ได้หวังลูกเลี้ยงดูในบั้นปลายชีวิต

เปิดใจนักแสดงหน้าใหม่วัย 78 ปี "อาม่าแต๋ว-อุษา เสมคำ" ในรายการ WOODY FM ถึงความโด่งดังจากการรับบท "อาม่าเหม้งจู" ในภาพยนตร์หลานม่า ที่เรียกน้ำตาคนดูท่วมจอ มาแชร์มุมมองการจากลาที่เป็นเรื่องของธรรมชาติ เผยเลี้ยงลูกไม่เคยหวังให้มาเลี้ยงดูตอนแก่เฒ่า

'แพท ณปภา' เตรียมเปิดอู่มีลูกคนที่สอง

เจอคำถามเมื่อไหร่จะมีลูกคนที่สองอยู่บ่อยๆ แต่นักแสดงสาว แพท-ณปภา ตันตระกูล ก็เฉยมาตลอด แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านรายการ WOODY FM ถึงที่มาของการแพลนที่จะมีลูกคนที่ 2 เล่าถึงเบื้องลึกในการทลายกำแพงในใจ งานนี้ทำเอาทั้ง น้องเรซซิ่ง ลูกชายวัย 7 ขวบ กับแฟนหนุ่มดีใจมากที่ครอบครัวจะมีสมาชิกเพิ่ม

'ไก่ วรายุฑ' เปิดเผยความลับ เคยแต่งงานกับคนดังมาก่อน

เมื่ออาและหลานมานั่งพูดคุยกันแบบ Deep Talk ในรายการ WOODY FM เปิดใจ ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา ในวัย 70 ปี เผยถึงเรื่องราวชีวิตรักในอดีตที่เคยแต่งงานกับคนดังมาก่อนแต่ไม่มีใครรู้ ส่วนหนุ่มเกาหลีคนปัจจุบันแชทกันทุกวันรู้สึกชุ่มฉ่ำสดชื่น โดย ไก่ วรายุฑ เปิดใจว่า

'เป้ย' เผยทำดีที่สุดแล้ว ขอกลับมารักตัวเองบ้าง

นักแสดงสาว เป้ย-ปานวาด เหมมณี เปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวข่าวคราวกระแสที่เกิดขึ้น เผยระยะเวลาทำให้แข็งแกร่งขึ้น ที่ผ่านมา 10 กว่าปีทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับและเรียนรู้ ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง ตกผลึกชีวิตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นย่อมมีเรื่องดีเสมอ

'นัท นิสามณี' อุบเงียบเพราะอาย เคยโดนโกงเงิน 10 ล้าน

ยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ช่วงหลังมีแอบมารับเล่นซีรีส์บ้าง อย่าง นัท-นิสามณี เลิศวรพงศ์ เปิดใจครั้งแรก ในรายการ WOODY FM เรื่องโดนโกงเงิน 10 ล้านแต่ไม่กล้าบอกใครเพราะอาย ยอมรับว่าเครียดมากเพราะเสียดายเงิน แต่เป็นคนมูฟออนไว เครียดไปก็ไม่ได้เงินคืน สู้ลุกขึ้นยืนใหม่แล้วทำมาหากินต่อดีกว่า

'เสก โลโซ' ยอมรับเคยเป็นพ่อที่แย่

กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ 28 ปี LOSO We Are The Rock And Roll Concert ที่เป็นการรวมตัวกันในรอบหลายปี ล่าสุด เสก โลโซ หรือ เสกสรรค์ ศุขพิมาย ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวในอดีต ผ่านรายการ WOODY FM ยอมรับเคยเป็นพ่อที่แย่มาก ตอนนี้เลิกทุกอย่างแล้วเพื่อครอบครัว ลั่นยังรักจีเอ็มเอ็มแกรมมี่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากกลับไปร่วมงานกับค่ายอีกครั้ง