'โอที รัฐธนินท์' งง! แค่เป็นกระบอกเสียงให้เพื่อนก็เป็นข่าว

ห่างหายไปจากหน้าจอมาพักใหญ่ แต่จู่ๆ ชื่อของนักแสดงมากความสามารถ โอที-รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน ว่าที่ด็อกเตอร์ สาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ม.รังสิต  ที่ผันตัวเองมาทำงานด้านธุรกิจอสังหาที่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ที่งานนี้ทำเอาเจ้าตัวงงกันไปเลย โดย หนุ่มโอที เผยว่า

“เอาจริงๆ ช่วงหลังผมอาจจะหายหน้าไปจากวงการบันเทิงบ้าง พอถึงช่วงอายุหนึ่งเราก็อยากทำธุรกิจส่วนตัว ที่ผ่านมาก็ทำหลายอย่าง มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว ก็สู้กันไปครับ ผมไม่เคยท้ออยู่แล้ว และตอนนี้ผมทำหลายอย่างมาก ทั้งกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก อยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต  สาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง และทำงานเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยสังคมด้วย  นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษา ศกช.สน.สมเด็จเจ้าพระยา และ สน.คลองสาน ให้ประชาชนที่เดือดร้อน กระทรวงยุติธรรม

ช่วงหลังผมหายไปจากหน้าสื่อพอสมควร เพราะไม่ได้รับงานในวงการ แต่ที่ผ่านมาที่เคยเป็นข่าวก็น่าจะเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนั้นผมก็มีโอกาสได้ลงไปช่วยหาเตียงและถังออกซิเจนให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด และก็มีอีกหลายๆ โครงการที่ช่วยสังคมที่เราเข้าไปช่วยเหลือ เข้าไปอยู่เบื้องหลังเพื่อซัพพอร์ต  อะไรที่เราพอหยิบยื่นช่วยเหลือได้เราก็ทำเต็มที่อยู่แล้วครับ เอาจริงๆ เวลาทำอะไรก็ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวนะ เราทำด้วยใจที่อยากทำจริงๆ

อย่างล่าสุดก็เป็นข่าวแทนเพื่อนอีก ถึงเรื่องดอกเบี้ยธนาคารในการซื้อบ้าน ที่มีกระแสไวรอล คนแชร์จากเฟชบุ๊กส่วนตัวไม่ต่ำกว่า 26,000 แชร์ ซึ่งผมก็งงมาก ที่คนให้ความสนใจเยอะ เอาจริงๆ เรื่องนี้มันเปราะบาง ถ้าพูดไม่ดีก็จะมีปัญหา แต่ผมก็อยากจะช่วยเต็มที่ ส่วนงานในวงการก็มีพี่ๆ นักข่าวถามมาบ่อยๆ ว่าไม่รับแล้วเหรอ เอาจริงก็ยังรับนะครับ แต่ตอนนี้ด้วยเวลาของผมที่ต้องเรียนและทำธุรกิจมันเลยยากสักหน่อย แต่ถ้าเจอบทที่เหมาะกับผมจริงๆ ก็พร้อมนะครับ วงการบันเทิงให้อะไรกับผมหลายๆ อย่าง ผมก็รักและผูกพัน รวมถึงผู้จัดหลายๆ ท่านก็ดีกับผมมากๆ เร็วๆ นี้ก็น่าจะมีข่าวดีเรื่องงานละครครับ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โอที รัฐธนินท์' ขึ้นแท่นที่ปรึกษาบริษัทชั้นนำของประเทศ

นักแสดงหนุ่ม โอที-รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน ที่ล่าสุดเพิ่งจะเรียนจบปริญญาเอก จากรั้ว ม.รังสิต สาขานวัตกรรมสังคม ธุรกิจและการเมือง ขอขยับไปอีกขั้นกับการเข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาธุรกิจถึง 3 บริษัทชั้นนำ ที่เจ้าตัวบอกว่า ต้องขอบคุณสำหรับโอกาสที่ดีในชีวิตจริงๆ