'ทราย เจริญปุระ' โต้คลั่งผอม พร้อมเผยเหตุผลทำไมต้องลดน้ำหนัก

ทราย เจริญปุระ ขอควงน้องชาย ท๊อฟฟี่ ภวัต เปิดตัวครั้งแรก พร้อมเคลียร์ปมในใจที่รู้สึกผิดกับน้องชายมาตลอดชีวิตอีกทั้งยังเคลียร์ดราม่าคลั่งผอม จนคนวิจารณ์หนักมาก ถึงขั้นถูกมองว่าติดยา ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31

เห็นเล่นกันขนาดนี้ แสดงว่าสนิทกันมาก?
ทราย : สนิทค่ะ ด้วยความที่แม่ดุมาก ๆ หมายถึงว่าเขาจะเป็นสไตล์เฉพาะของเขา ดังนั้นพี่น้องจะต้องคุยกันเอง ทรายเป็นพี่คนโตก็จริง แต่ว่าเราทำงานตั้งแต่เด็ก บางทีเราจะไม่ค่อยรู้ทักษะสังคมด้านอื่นๆ ดังนั้นถ้ามีอะไรก็จะคุยกับฟี่ก่อนได้

ท๊อฟฟี่พี่สาวตัวจริงเป็นยังไง?
ท๊อฟฟี่ : เขาเงียบ ชอบอยู่เงียบๆ มีโลกของตัวเองค่อนข้างสูง ฉะนั้นเราใช้คำพูดกันค่อนข้างน้อย ใช้จิตสื่อกัน ตั้งแต่เด็กอย่างที่พี่ทรายบอกว่าแม่ดุ เราก็จะจูนเข้าหากันเองตั้งแต่เด็ก

คนข้างนอกจะมองว่าทราย เจริญปุระเป็นคนแรง ตัวจริงแรงไหม?
ท๊อฟฟี่ : ใช้คำว่าแรงก็อาจจะไม่ได้ผิด แต่ว่าในมุมมองของผม ของที่บ้านเรา เราถูกเลี้ยงมาด้วยการพูดความจริง ทุกอย่างมันจะจบด้วยการพูดความจริง ถ้าคนมองว่าแรงก็ไม่ผิด แต่จริงๆ แล้วมันคือการพูดตรงๆ ทีเดียวจบ

เวลาอยู่บ้านแสดงความรักกันยังไง?
ท๊อฟฟี่ : โอนเงินครับ อันนี้ไม่จริง แต่อยากได้ ปกติก็ซื้ออะไรให้กินมากกว่า

แต่ก็มีความรู้สึกผิดบางอย่างที่อยู่ในใจพี่สาว?
ทราย : เรื่องดูแลพ่อ ทรายทำงานเร็ว เข้าวงการก็ถือว่ามีเส้นทางอาชีพที่โอเค ช่วงนั้นพ่อทรายป่วยเป็นอัลไซเมอร์แล้วเขาก็ต้องหยุดจากวงการ ต้องมีคนดูแล ซึ่งแม่เป็นคนดูแลหลัก คราวนี้เขาทำคนเดียวไม่ไหว เพราะว่าดูแลคนป่วยมันยาก ตอนนั้นฟี่เพิ่งเรียนจบ ทำงานใหม่ๆ เลย แม่ก็มีออเดอร์ว่า ฟี่ออกจากงาน คือเป็นงานในฝันเลย แม่ต้องการแรงงานมาช่วย 1 คนอุ้ม เปลี่ยนผ้าอ้อมอะไรอย่างนี้ ถ้าจะให้ทรายหยุดเป็นไปไม่ได้ เพราะทรายเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วตอนนั้นที่ต้องทำงานหาเงินแล้ว แม่ก็พูดตรงๆ ถ้าพูดทางเศรษฐกิจ ฟี่หาเงินสู้ทรายไม่ได้ ดังนั้นคุณต้องออกมาช่วย ทรายรู้สึกมันไม่แฟร์ เขาควรจะได้มีชีวิตของเขา

ตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเราไหม?
ท๊อฟฟี่ : แว๊บแรกรู้สึกมาก อย่างที่บอกเราเพิ่งเรียนจบ เพิ่งจะเริ่มงานได้สักปีกว่าๆ เอง กำลังสนุกเลย อยู่ดีๆ ก็เปรี้ยงอยู่บ้านเลย

เราก็ทำตามคำสั่งแม่?
ท๊อฟฟี่ : ต้องทำครับ คือ 1.ผมเข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง พี่ทรายเขาก็เป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว เขามีหน้าที่หนักกว่าคนอื่นๆ อีก ส่วนผมจะให้มีความสุขอยู่คนเดียวในการทำงาน มันก็ไม่ใช่เรื่อง แว๊บแรกไม่โอเค แต่เราเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าแบบทุกอย่างต้องดำเนินไปแบบนี้ก็เลยกลับบ้านดูพ่อประมาณ 5 ปี

แสดงว่าทรายต้องแบกความรู้สึกนี้มาตลอด 5 ปี ทุกครั้งที่เราไปทำงานแล้วเห็นอยู่กับพ่อ?
ทราย : ใช่ แล้วการดูแลคนป่วยอัลไซเมอร์ มันไม่สนุก มันไม่สดชื่น มันดราม่า มันทางอารมณ์ คือฟี่นอกจากดูแลพ่อมันจะมีบางวันที่แม่เขาไม่ไหว เขาก็กรี๊ดใส่ฟี่เหมือนกัน มันรับทุกทาง อย่างทรายไม่มีชีวิตวัยเด็ก แต่ทรายได้ไปทำงานเป็นงานที่ทรายสนุก ทรายชอบ แต่ฟี่มันเริ่มชีวิตมาดีๆ แต่เหมือนโดนขโมยไป ก็รู้สึกมันแย่ ตอนนั้นทางออกคือทำร้านกาแฟ ทรายคิดว่าทุกคนควรได้มีชีวิตที่ได้บริหารเป็นของตัวเอง เพราะวันนึงก็ต้องโตไปมีครอบครัว เรารู้อยู่แล้วพ่อป่วย วันนึงพ่อจากไป แล้วฟี่จะยังไง

ในความสำเร็จของพี่สาวนางเอกร้อยล้าน มองอีกมุมนึงมันเหมือนเป็นการปล้นอนาคตของเราไหมกับสิ่งที่เขาทำอยู่?
ท๊อฟฟี่ : จริงๆ ผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย ผมมองว่าเขาทำงาน แล้วเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ผมจะไม่มองว่าเขาขโมยอนาคตผมไป เราก็แค่ทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด เขาก็ทำหน้าที่ของเขา อีกอย่างพอผมกลับมาดูแลพ่อ ผมได้มาเริ่มทำร้านกาแฟ แล้วมันก็กลายเป็นอาชีพทุกวันนี้

ตอนช่วงลำบากสำหรับเขา ตอนนั้นเรารู้สึกผิดไหม?
ทราย : รู้สึกแย่ คือไม่ได้มองว่าเขาไปทำงาน เพื่อจะมาช่วยเรา คือรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับชีวิตคนคนหนึ่ง

อยากขะบอกอะไรพี่สาวไหม?
ท๊อฟฟี่ : ขอบคุณที่เขาเข้มแข็ง เข้มแข็งกับตัวเองก็พอแล้ว เพราะผมเองไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาอยู่แล้ว

ท๊อฟฟี่ห่วงพี่สาวเรื่องผอมเกินไป?
ท๊อฟฟี่ : ส่วนตัวผม ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ภาพที่เขาผอมไหปลาร้าโผล่ตั้งแต่นางนาค ซึ่งเป็นฟิววัยรุ่นยังเด็กอยู่ แต่พอผ่านไปก็จะมีการเติบโตมาเรื่อยๆ จนวันนึงก็กลับมาเป็นแบบนี้ เราเป็นห่วงเขาเรื่องของสุขภาพมากกว่า

ผอมขนาดนี้ แต่มีบางวัน บางชุด ที่ทรายใส่แล้วรู้สึกว่าผอมไปหรือเปล่า?
ทราย : หนูอ้วนมานานกว่าผอม หุ่นตอนนี้เท่ากับหุ่นตอนเล่นนางนาคเลย

ตอนนี้มันมีดราม่าถึงขนาดคนเข้าใจว่าคลั่งผอมไปแล้ว?
ทราย : ไม่คลั่ง ดราม่านี้ค่อนข้างงงว่ามันมาได้ยังไงก่อน แต่คนไม่ได้เห็นช่วงที่เราเผชิญ ... ทำไมเราต้องผอมก่อน คือทรายเคยมีอุบัติเหตุ แล้วทรายผ่าคอใส่น็อต 6 ตัว ตอนนั้นรถยางแตก ด้วยแรงกระเทกทำให้กระดูกต้นคอมันแตกออกแล้วมันจะไปทับเส้นประสาท หมอเลยบอกว่าต้องผ่า เขาก็ถามเลยมีแพลนจะมีลูกไหม นาทีนั้นคงไม่อยากมีผัว มันไม่พร้อม หมอบอกไม่ได้กังวล คือน้ำหนักโหลดทุกกิโลมันคือการเบิ้ลที่เขาต้องคำนวนว่าคุณจะต้องใส่น็อตเท่าไหร่ทรายบอกไม่มีแผนจะมีครอบครัว มีบุตรอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ขอเอาชีวิตรอดก่อนในนาทีนั้น หมอบอกโอเคน็อตอยู่ที่ 6 ตัวแล้วมันเป็นจุดที่ใส่แล้วใส่เลย เอาออกไม่ได้ ผ่าออกก็เสี่ยง ผ่าเข้าก็เสี่ยง ทีนี้พอถึงช่วงนึงด้วยความที่ป่วยด้วย อายุเยอะด้วย ซึมเศร้า การกิน การดื่ม มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 50 หน่อยๆ ไปที่ 60 หมอก็แบบบอกว่าต้องระวังนะครับเพราะว่าผู้หญิงพอถึงจุดนึงมันจะกระดูกเปราะนะ ใครจะปล่อยให้น้ำหนักขึ้นขนาดนั้น ฉันเป็นดารานะ พรึบ 72

สูงสุด 72 แล้วมันค่อยลงมายังไง?
ทราย : หมอบอกมันไม่ได้แล้วกับอุปกรณ์เสริม แต่ทรายก็ไม่ได้ประกาศ แล้วมันก็เป็นปีที่โควิด ออกไปไหนไม่ได้ตอนแรกไม่จริงจัง ทำเหมือนคนทั่วไปงดแป้ง อะไรแบบนี้ ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ แล้วปีน้้นออกจากบ้านไม่ได้เลยงดดื่ม พอไม่ดื่มก็ไม่อยากกับแกล้ม ไม่นอนดึก น้ำหนักก็ค่อยๆ ลงมา เพราะทรายออกกำลังกายหนักไม่ได้ ระหว่างนั้นทรายก็ทำเหมือนนักแสดงคนอื่นเขาทำใส่สปอตบาร์ไปฟิตเนส ถ่ายรูป แล้วคนบอกว่าอ้วนจังเลยนะคะ มันเลยเสียเซลฟ์ เราเลยโอเคจะไม่ลงรูปตอนออกกำลังแล้วล่ะ ทรายใช้เวลาประมาณ 3 ปีกว่าจะเท่านี้

ตอนนั้นจุดไหนที่เราห่วงที่สุด?
ท๊อฟฟี่ : จริงๆ มันห่วงทุกช่วง เพราะว่าผมต้องรับจบทุกเรื่อง

หัวใจทรายเป็นยังไงบ้าง?
ทราย : ปกติมากๆ พอช่วงลดน้ำหนักได้ รู้สึกว่าเราชนะ แล้วพอสวยไม่ค่อยอยากแบ่งใคร อยากสวยเอง คือมีผู้ชายคนเดียวในบ้านมาคอยรุงรังกับชีวิตเรามันก็มากพอแล้ว

ตอนนี้โสด?
ทราย : ค่ะ ถามว่าไม่อยากมีแฟนเหรอ มันเฉยๆ มากกว่า มันเป็นเรื่องถัดไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งเช็กตัวเองว่าทำไมยังไม่มี หรือต้องมีเมื่อไหร่

ท๊อฟฟี่ชอบเวลาพี่เรามีแฟนหรือไม่มีแฟน?
ท๊อฟฟี่ : เขาเหมือนเดิม เราจะไม่เห็นมิติอื่น

อยากให้เขามีแฟนไหม?
ท๊อฟฟี่ : สุดท้ายมันคือชีวิตเขา ถามว่าผมอยากไหม ผมเฉยๆ แต่ถ้าเขามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่ตาย ทุกวันนี้เขามีผู้ชายวอแวอยู่แล้วในชีวิต นั่นก็คือแมว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำอาลัยจาก 'แม่นาก' ถึง 'พ่อมาก' ... ดีใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกัน

หลังจากมีข่าวสิ้นนักแสดงชื่อดัง เมฆ-วินัย ไกรบุตร ทำให้เพื่อนๆพี่น้องทั้งในและนอกวงการโพสต์แสดงความอาลัยมากมาย ด้าน ทราย-อินทิรา เจริญปุระ ที่เคยรับบท "นางนาก" ก็ได้เล่าถึงครั้งที่ตนได้ทำงานร่วมกับเมฆ

'แอลลี่ อชิรญา - ทราย อินทิรา' นำทีมคนดังร่วมคุยความรู้ด้านสุขภาพจิต

ศิลปินนักร้องขวัญใจคนรุ่นใหม่ แอลลี่-อชิรญา นิติพน Fresh Face of Maybelline ร่วมงานเปิดตัวโครงการ Brave Together โครงการช่วยเหลือการเข้าถึงการปรึกษาปัญหาทางใจ ซึ่งเกิดจาก Maybelline New York ประเทศไทย เเบรนด์เมคอัพอันดับ 1 ของโลก* จับมือ มูลนิธิสติแอพ (SATI App) เพื่อต้องการช่วยเหลือและวางรากฐานด้านสุขภาพจิตที่ดีให้กับทุกคน นำเสนอผ่านคอนเซปต์ “Break The Wall In Your Heart” ทลายกำแพงในใจไปด้วยกัน

'เต้น ณัฐวุฒิ' คึกคัก! โพสต์ภาพแม่ยก-แกนนำม็อบสามนิ้ว คนต้องคดีต้มตุ๋นโผล่ร่วมเฟรมด้วย

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ร้านเยี่ยมใต้ เต็มต้องรอคิวมาหลายวัน ถ้ารอนานไปบ้าง ขออย่าขุ่นเคืองใจ จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ

'มิ้วกี้-ทราย-แจ็ค' นำทีมเปิดตัว 'นะหน้าทอง' ทั้งแซ่บทั้งหลอน!

แซ่บสยองสมการรอคอย สำหรับภาพยนตร์ที่สุดของสายมูเตลู "นะหน้าทอง" ที่ อาริยา ฟิล์ม ได้เปิดรอบปฐมทัศน์ขึ้น ณ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โดยมีนักแสดงนำของเรื่องมากันครบแบบจัดเต็ม นำโดย มิ้วกี้ ไปรยา, ทราย เจริญปุระ, แจ็ค แบล็คแจ็ค, หล่ง ซื่อ ลี, ตวง สาวิกา, ซู นันท์นิชา, มายมิ้น ณัฏฐณิชา และ อาจารย์หนึ่ง ภาณุวัฒน์

'ทราย เจริญปุระ' ตีแผ่บทโสเภณี ใน 'นะ หน้าทอง' สะท้อนมุมมืดสังคม

หากให้พูดถึงหนึ่งในตัวดำเนินเรื่อง ในภาพยนตร์ "นะ หน้าทอง" คงต้องเป็นบทของ "เจ๊พร" ที่แสดงโดย "ทราย เจริญปุระ" ที่เป็นคนนำเทรนด์ทำนะหน้าทองดึงดูดลูกค้า และบอกต่อ "เอม" ที่แสดงโดยเน็ตไอดอลสาว "มิ้วกี้ ไปรยา" นางเอกของเรื่อง

'หล่งซื่อ ลี' กับความท้าทายครั้งใหม่ในบทบาทผู้ชายขายน้ำปะทะ 'ทราย เจริญปุระ'

รับบทวัยใสในซีรีส์วายมานาน ถึงคราวที่นักแสดงดาวรุ่ง "หล่งซื่อ ลี" ขอผลิกบทบาทสุดท้าทายในภาพยนตร์เรื่อง "นะหน้าทอง" กับบท "ธันวา" หนุ่มสุดหล่อล่ำประจำซ่อง ที่หัวเตียงไม่เคยแห้ง ลูกค้าต่อคิวไม่แพ้สาวบริการทางเพศตัวแม่ในเรื่อง อย่างนางเอกสาว "มิ้วกี้-ไปรยา ผดุงสุข" และ "ทราย-อินทิรา เจริญปุระ"