ขับเคลื่อนด้วยแรงด่า? สมาพันธ์ฯ กลับลำ ยอมเปลี่ยนกติกาใหม่

หลังจากที่ รายการโหนกระแส มีการถกกันเรื่องของกฎกติกาในการคัดเลือกภาพยนตร์เพื่อเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์

โดยมีกฎว่าฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ครบทั้ง 5 ภูมิภาค ต้องมียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่น จนเป็นเหตุให้ผู้กำกับ-นักแสดง ประกาศถอนตัว โดยมองว่ากติกาดังกล่าวทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และมีการติดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ ดังกระฉ่อนในโลกออนไลน์

ซึ่งก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ได้เคยโพสต์ว่าตนถามทางสมาคมสมาพันธ์แล้ว แต่กลับได้รับคำตอบมาว่าไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้ เพราะเวลาไม่ทัน และจะพิจารณาใหม่ในปีหน้า

ล่าสุด คุณชายอดัม ผู้กำกับชื่อดังได้โพสต์จดหมายแถลงการณ์จากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับกติกาใหม่

"ตามที่ได้มีกระแสต่อกรณีเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยเพื่อเข้าประกวดรางวัลสุพรรณหงส์ คณะอนุกรรมการอำนวยการจัดงานรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 31 ได้มีการประชุมหารือ และมีมติเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยที่สามารถส่งประกวดเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ให้เป็นไปเพื่อเปิดโอกาสให้กับภาพยนตร์ไทยที่หลากหลายและครอบคลุม ดังนี้

"ภาพยนตร์ไทยที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 60 นาที เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยเป็นการฉายในโรงภาพยนตร์ หรือสถานที่อื่นใดที่มีการจัดฉายภาพยนตร์ในเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย และมีระยะเวลาการฉายไม่น้อยกว่า 7 วัน"

สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนภาพยนตร์ไทยมาโดยตลอด สมาพันธ์ฯ ยินดีรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป"

ซึ่งคุณชายอดัมได้โพสต์เพิ่มเติมว่า "โอเค …หลังจากโหนกระแส ทางสมาพันธ์ชวนผมมาเข้าประชุมพร้อมกับพี่นุชชี่ที่เป็นกรรมการของงานนี้อยู่แล้ว (พี่กอล์ฟเองก็ติดงานไปห้องตัดต่อหลังโหนกระแส) ชวนให้ไปช่วยเป็นคณะทำงานและเอาเสียงจากทุกคนเข้ามา Feedback ในคณะทำงานด้วย เป็นการประชุมที่ยาวนานพอสมควร และก็ได้ถกประเด็นสำคัญที่ทุกคนต่างพูดถึงในวันสองวันนี้ และได้แถลงการณ์ฉบับนี้ออกมาจากทางสมาพันธ์ฯ นะครับ หวังว่าทุกอยากจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นครับ

ปล. หาก OTT แบบ SVOD, TVOD สามารถนำหนังมาเข้าโรงภาพยนตร์เพียงโรงเดียว (เพื่อเข้าสู่การพิจารณาภาพยนตร์เหมือนผู้สร้างภาพยนตร์ปกติ) เป็นเวลา 7 วัน ก็สามารถส่งเข้าชิงสุพรรณหงส์ได้ด้วยนะครับ ทางคณะกรรมการสรุปมาให้ละครับ"

โพสต์ก่อนหน้านี้ของคุณชายอดัม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลตั้งเป้าสร้างรายได้ถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยปี 67 ทะลุ 7,500 ล้านบาท

“เสริมศักดิ์ ตั้งเป้ารายได้ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย กว่า 7,500 ล้านบาท ปลื้ม White Lotus S3 ชมไทยสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โลก”

อลังการพรมม่วง งานประกาศรางวัล 'ไนน์เอ็นฯอวอร์ด 2024'

เป็นค่ำคืนที่หลายคนในแวดวงการบันเทิงเก็บเป็นภาพความประทับใจของปีนี้ทีเดียว สำหรับงานประกาศรางวัล “NINEENTERTAIN AWARDS 2024” (ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2024) ณ พารากอน ฮอลล์ นักแสดง และ ศิลปิน ในวงการบันเทิงร่วมเดินพรมม่วงกันเนืองแน่น “ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด” รางวัลเกียรติยศคนบันเทิงที่ยาวนานกว่า 14 ปี

'พิง ลำพระเพลิง' นำทีมบวงสรวง 'แสนสนั่น พันธุ์สั่นสู้' เขียนบท-กำกับหนังในรอบ 7 ปี

ห่างหายจากวงการกำกับภาพยนตร์ไปนานกว่า 7 ปี สำหรับผู้กำกับมากฝีมืออันดับต้น ๆ ของเมืองไทย “พิง ลำพระเพลิง” ล่าสุดได้ฤกษ์ดีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์แนวคอมเมดี้เรื่อง “แสนสนั่น พันธุ์สั่นสู้”

บวงสรวง 'Baby Hero' ภาพยนตร์ร่วมทุน 2 ประเทศ

ได้ฤกษ์ดีบวงสรวงเปิดกล้องอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับภาพยนตร์ Baby Hero ที่ร่วมมือสร้างระหว่าง 2 ประเทศ กับบริษัทยักษ์ใหญ่สิงคโปร์ HONG PICTURES และบริษัท HOLLYWOOD THAILAND ของไทย ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการสร้างภาพยนตร์แอ็คชั่น-คอมเมดี้ ที่จะเป็นก้าวใหม่และก้าวครั้งสำคัญของ HOLLYWOOD THAILAND ในการนำซอฟท์พาวเวอร์ไทยเผยแพร่ออกสู่สากล ที่ไม่ใช่แต่เพียงในสองประเทศนี้ แต่ยังเชื่อว่าจะสามารถเจาะตลาดภาพยนตร์และสามารถผลักดันในเรื่องของซอฟท์พาวเวอร์ให้ยกระดับไปได้อีกในหลายประเทศทั่วโลก

โดนเหยียดว่าควรเลิกทำหนัง 'พชร์ อานนท์' ฟาดกลับเอาตัวเองให้รอดก่อน!

โดนคนด่าว่าให้เลิกทำหนังเพราะหมดยุคของตัวเองแล้ว แต่ผู้กำกับมือทอง พชร์ อานนท์ ก็โพสต์อินสตาแกรมฟาดกลับด้วยการโชว์ถึงผลงานที่กำลังจะมีในปีนี้ เรียกได้ว่าคิวแน่นสุดๆ พร้อมทิ้งท้าย “เอาตัวเองให้รอดก่อน”

'นีญ่า-เจมส์ มาร์-สินจัย' นำทีมบวงสรวงภาพยนตร์ระทึกขวัญ 'นาคบรรพ์'

ธรรปพล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และ เทวา อาร์ต เธียร์เตอร์ สตูดิโอ จับมือสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ให้วงการภาพยนตร์ไทย ได้ฤกษ์ดีทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ “นาคบรรพ์” (อ่านออกเสียงว่า นาก-คะ-บัน) ภาพยนตร์ระทึกขวัญฟอร์มยักษ์แห่งปี กับครั้งแรกของการถ่ายทอดตำนาน “พญานาคราชแห่งภาคตะวันออก องค์เพชรภัทรนาคราช” ที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึง!