'ปราปต์ปฎล' เดินหน้าแฉขบวนการตบทรัพย์ เรียกเก็บ 'ค่าความยุติธรรม'

จากกรณีดาราหนุ่มรุ่นใหญ่ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง มีข่าวดรามา ถูกที่ปรึกษา เลขาฯ รมว. ท่านหนึ่ง ตบทรัพย์ เรียกเก็บค่าช่วยเหลือ เคลียร์กับผู้ใหญ่ ในคดี Forex-3D ของแฟนสาว หลักสิบล้าน   ล่าสุด ปราปต์ปฎล  ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD  

เล่าว่าตนคิดว่าตนถูกตบทรัพย์จากทนายเฮง โดยการ์ตูนเพื่อนสนิทของกู๋กี๋ แฟนสาวของตน ได้ติดต่อมาหาตนวันที่ 18 ส.ค. 65 หลังจากกู๋กี๋ เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ในคดี Forex-3D จากนั้นเขาบอกกับตนว่า เขามีความสนิทสนม เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ส่งรูปถ่ายยืนยันความสนิทสนมกันมาให้ตนดู และยังบอกว่า ท่านเลขาฯ เป็นคนดูแลคดี Forex-3D โดยตรง การ์ตูนอยากช่วยเหลือกู๋กี๋ จึงอยากให้ตนได้คุยกับทนายเฮง เพราะทนายเฮง เป็นที่ปรึกษาของ เลขาฯ ธนกฤต ซึ่งในตอนนั้นตนก็รู้สึกว่าเป็นความปรารถนาดีจากเพื่อนของกู๋กี๋ และเข้าใจว่าจะได้รับการช่วยเหลือ จากคนที่ดูแลคดีนี้โดยตรง   

ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. 65 การ์ตูน แฟนของการ์ตูน และทนายเฮง ได้เข้ามาคุยกับตน โดย ทนายเฮง ก็ให้คำปรึกษากับตนว่าตนต้องเตรียมตัวอะไรบ้างในการประกันตัวกู๋กี๋  ทนายเฮง บอกกับตนต่อว่า ค่าทนายในคดีใหญ่แบบนี้มันเป็นหลักล้าน เขาเลยเสนอกับตนว่าเขาจะเป็นคนช่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไร "แต่ในส่วนของผู้ใหญ่ที่ต้องไปเคลียร์มันต้องใช้เงินหลักสิบล้าน" ตัวเขาเองไม่เอา แต่ผู้ใหญ่เอา

ตนยืนยันว่าเงินในส่วนนี้ที่ทนายเฮงพูดถึง เขาไม่ได้บอกว่ามันเป็นเงินประกันตัวของกู๋กี๋ ทำให้ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้เป็นการตบทรัพย์ และตนมั่นใจในหลักฐานที่ตนมี นอกจากนี้แชตไลน์ที่ทนายเฮง นำมาแถลงข่าว มีการเบลอยอดเงินออก ซึ่งตนอยากรู้ว่ามันมีอะไรที่เป็นความลับถึงต้องไปเบลอ ถ้าเป็นค่าทนายจริง ก็ควรบริสุทธิ์ใจ

 ส่วนเรื่องที่ตนได้ไปเตะบอลกับผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรม เพราะว่าตนได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ดูแลทีมฟุตบอลนี้ หลังจากที่ตนแถลงข่าวที่สวนอาหารนาทอง ซึ่งตนก็เคยเตะฟุตบอลกับทีมนี้เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ในวันที่ไปเตะบอล  ตนก็ไม่ได้ไปคุยกับผู้ใหญ่คนใดเลย เพราะตนไม่ได้สนิทกับใคร ตนถามแค่ ร.ต.อ. วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะเขาเป็นคนสอบสวนตนในคดีฟอกเงิน ตนได้ถามเขาว่าเรื่องของตนไปถึงไหนแล้ว ตนไม่ได้ถามเพื่อให้เขาช่วย แต่ตนอยากรู้ว่ามันจะจบสิ้นเมื่อไหร่ เพราะมันกระทบต่อการงานของตน ไม่สามารถรับงานแสดงได้กว่า 5 เดือนแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้คำตอบ

ขณะที่ประเด็นที่ตนโดนคดีฟอกเงิน โดยการย้ายทรัพย์สินจากฐานที่ตั้ง ซึ่งเป็นการย้ายรถยนต์หรู แอสตันมาร์ติน จากคอนโดของกู๋กี๋ไปไว้ที่บ้านเพื่อนของตนที่ จ.ราชบุรี ที่ตนต้องทำการย้ายรถ เพราะกู๋กี๋ไหว้วานตน เพราะตอนนั้นกู๋กี๋รักษาไส้ติ่งอยู่ที่โรงพยาบาล และกู๋กี๋กลัว ปอนด์ สาวประเภทสอง เพื่อนของกู๋กี๋ เอารถไปขาย เนื่องจาก รถคันนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนโอนย้ายให้เรียบร้อย แต่มีเอกสารโอนลอยอยู่

ที่ต้องกลัวเพราะว่าก่อนหน้านั้น ปอนด์ ได้พา DSI ขึ้นไปยึดทรัพย์ของกู๋กี๋ที่คอนโดโดยพลการ แม้ว่าคอนโดดังกล่าวจะใช้ชื่อของปอนด์ในการเช่าก็ตาม นอกจากนี้ยังเปลี่ยนลูกบิดประตูทำให้ไขกุญแจเข้าไปไม่ได้ โดยที่ตอนนั้นกู๋กี๋ยังไม่ได้โดนคดีอะไรเลย ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าแฟนของตนกระทำความผิด Forex-3D เลยช่วยเหลือตามเคลื่อนย้ายรถตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่กู๋กี๋ได้รับจาก นายอภิรักษ์ เป็นการได้รับจากอดีตสามี เหมือนสามีซื้อให้ภรรยาตามปกติ กู๋กี๋ไม่ได้รู้ว่าอดีตสามี ได้เงินมาจากการทำความผิด

ขณะเดียวกัน เรื่องที่ตนเคยเร่ขายรถนั้น ไม่จริง เพราะรถคันดังกล่าวไม่ใช่ของตน แต่กู๋กี๋เคยมาคุยกับตนว่าจะขายรถคันนี้ เพื่อนำมาเงินมาหมุนใช้ในธุรกิจ และมาใช้ในครอบครัว ตัวกู๋กี๋เองตอนนั้นก็ไม่ได้มีรายได้ อีกทั้งค่าดูแลรถก็ยังสูง ซึ่งตนก็เคยเอาไปพูดกับเพื่อนว่าจะขาย แต่ไม่ได้มีการเจรจาจริงจัง แต่อย่างไรก็ตามตอนนั้นกู๋กี๋อยากขายรถโดยที่ยังไม่โดนคดี

สำหรับประเด็นที่ เคนโด้ ไปให้ข่าวว่าตนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง Forex-3D ตนยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และทุกวันนี้ DSI ก็ออกมาบอกแล้วว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และตนยินดีให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด ทั้งนี้การที่เขาช่วยเหลือผู้เสียหายเป็นเรื่องดี แต่การที่เขาไปสร้างความเข้าใจผิด ๆ กับผู้เสียหายว่าตนเกี่ยวข้องทำให้ตนถูกด่าสาปแช่ง ที่เขาทำแบบนี้มันไม่ใช่ความดี