เป็นอีกหนุ่งคู่รักที่ความเจ็บป่วยไม่สามารถพรากความสุขและความหวานไปจากทั้งคู่ได้ สำหรับ คุณหญิงแมงมุม - ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล และ เสธ.ดอลลาร์ - พลตรี พัชร รัตตกุล
โดยทั้งคู่เปิดใจเป็นครั้งแรก! หลังคุณหญิงแมงมุมอาการทรุดหนักหัวใจหยุดเต้นไป 12 นาที ถึงแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคในชีวิต แต่ทั้งคู่ยังจับมือกันร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน พร้อมเผยความลับที่ เสธ.ดอลลาร์ ไม่เคยบอกกับ คุณหญิงแมงมุม มาก่อน ในรายการ WOODY EXCLUSIVE
คุณหญิงแมงมุม เผยว่า "นี่เป็นรายการแรกนะที่แมงมุมมาออก ที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่เพราะเราชอบเชียงใหม่อยู่แล้ว คิดถึงงานมาก ทุกอย่างเลย แมงมุมสนุกกับการทำงาน มันสนุกเหมือนได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในสมองค่ะ จินตนาการเรา ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย แล้วกำลังจะมีโอกาสถ่ายมิวสิควีดีโอ กำกับมิวสิควีดีโอ เป็นรุ่นพี่วง The Keylookz เราก็มีโอกาสได้ฟังงานของเขาแล้ว แล้วก็สนิทกัน แล้วแมงมุมก็ชอบเพลงนี้มาก เขาบอกเราว่าถ่าย MV ให้หน่อยสิ แมงมุมก็บอกว่ามองไม่เห็นจะถ่ายได้ยังไง พี่ดอลลาร์ก็ให้เราอธิบายในสิ่งที่อยู่ในสมองเราให้ DOP (ผู้กำกับภาพ) ก็เขาเคยทำงานกับแมงมุมแล้ว ก็เข้าใจกันง่ายค่ะ พี่ดอลลาร์ก็จะเป็นตาของแมงมุม"
ด้าน เสธ.ดอลลาร์ กล่าวว่า "ที่เรามาเชียงใหม่เพราะแมงมุมอยู่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้วเลยคิดว่าอยากให้เขาลองไปอยู่นอกโรงพยาบาลแล้วถ้ามีปัญหาค่อยไปหาหมอ ค่อยกลับไปฟอกไต เหมาะสมที่สุดก็คือเชียงใหม่เพราะเขาชอบ ด้วยอากาศ อาหาร ธรรมชาติ อยู่ที่โรงพยาบาลมา 2 ปีกว่า พอมาอยู่ที่นี่หมอทางกรุงเทพฯก็ช่วงประสานหมอทางเชียงใหม่แล้วก็ไปโรงพยาบาลในเมืองเพื่อไปฟอกไต อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ในเคสของแมงมุมไตมันพังก็ต้องเปลี่ยนทำ Transplant ปลูกถ่ายไต ซึ่งเราต้องรอการบริจาคจากสภากาชาด ในขณะรอการเปลี่ยนไตก็ต้องฟอกไต รอมา 2 ปีแล้วครับ"
โดย เสธ.ดอลลาร์ ยังเปรียบเสมือนดวงตาให้ คุณหญิงแมงมุม รวมไปถึงการเลือกเสื้อผ้าให้ ในวันแต่งงานนั้น เสธ.ดอลลาร์ เคยลั่นวาจาว่าจะดูแลคู่ชีวิตจนตาย และที่ผ่านมาทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ
นอกจากนี้หลายคนอาจไม่เคยทราบมาว่าคุณหญิงแมงมุมเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยภาวะหัวใจวายเฉียนพลัน ขณะที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลโดยหัวใจหยุดเต้นไปนาน 12 นาที ซึ่ง เสธ.ดอลลาร์ เล่าว่า "วันที่ 18 พฤศจิกายน เขาหัวใจวายไป 12 นาที ในโรงพยาบาลขณะฟอกไต แล้ววันนั้นเป็นความซวยที่ พี่ไม่เคยไปไหนเลยแต่วันนั้นพี่ต้องไปธนาคาร คือเช้านั้นแมงมุมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวหายใจไม่ค่อยออก พี่ก็เริ่มเตือนหมอบอกว่าให้มาดูหน่อยอาการไม่ค่อยดี หมอเขาก็โทรสั่งว่าให้เปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจให้เป็นแบบ High Flow พี่ก็ดูสัญญาณชีพทั้งหมดเริ่มดีขึ้น พี่บอกแป๊ปเดียวนะ เพราะพี่นัดธนาคารไว้ขอครึ่งชั่วโมง พอทำธุรกรรมเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่า แมงมุมหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้น พี่ก็วิ่งขึ้นรถระหว่างทางจากสยามสแควร์กลับมาถึงโรงพยาบาล ใช้เวลา 10 กว่านาที ขณะนั้นพี่โทรกลับมา 3 ครั้ง จำได้ว่าครั้งแรกก็ 3 นาทีไม่มีชีพจร 6 นาทีไม่มีชีพจร 10 นาทียังไม่ถึง ก็ยังไม่มีชีพจร พี่ทำใจแล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้ว พอถึงโรงพยาบาลนาทีที่ 11 เขาโทรเข้ามาบอกชีพจรมาแล้ว พี่เหมือนถูกลอตเตอรี่ เขาโทรมานาทีที่ 12 กว่าว่าหัวใจมาแล้ว พี่ก็วิ่งขึ้นไปถึงเขาประมาณนาทีที่ 13 กว่า
โชคดีมากๆ ที่ หนึ่งอยู่โรงพยาบาล หัวใจวายที่โรงพยาบาล เพราะฉะนั้น เครื่องไม้เครื่องมือมีพร้อม โชคดีข้อที่สองคุณหมอที่ดูแลแมงมุมเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์ว่าท่าทางไม่ดีแล้ว เขาก็กด Cord ในศัพท์ของโรงพยาบาลหมายความว่า Cord 3 หมายความว่าทุกคนต้องมารุมที่คนไข้คนนี้ ทุกคนก็วิ่งเข้ามารุมเตรียมเครื่องปั๊มหัวใจไว้ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น สิ่งที่สำคัญคือว่าปกติถ้าคนหัวใจวายเกิน 4 นาทีสมองต้องตายละ ถึงจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นผัก แต่เนื่องจากว่าเราอยู่ที่โรงพยาบาล นางพยาบาลก็ช่วยปั้มหัวใจตั้งแต่วินาทีแรกที่หัวใจหยุดเต้นทำให้ออกซิเจนขึ้นไปเลี้ยงสมองตลอดเวลาก็เลยไม่มีความเสียหายถาวรกับสมอง คือเขาโคม่าไป 2 วัน เราก็อยู่ในความทุกข์มากไม่รู้ว่าเขาจะตื่นไหม ถ้าตื่นแล้วเขาจะเป็นยังไง ไม่มีใครตอบได้ หมอก็ตอบไม่ได้ ตอนนั้นคิดว่าอาจจะเสียเขาไป แต่พี่ก็ยังมีความหวังอยู่ เพราะเขาสู้ แต่พี่ไม่กลัวเรื่องการจากลา พี่ว่ามันธรรมชาติวันหนึ่งก็ต้องไป ในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่พี่คิดว่าเราควรที่จะซาบซึ้งหรือให้คุณค่าสิ่งต่างๆ ที่เขามาในแต่ละวัน แล้วก็ทำวันนั้นให้ดีที่สุด โดยที่ไม่ให้ใครคนอื่นเดือดร้อนนะจ๊ะ
นอกจากนี้นาฬิกาพี่สลักคำว่า PDR คือ พัชร ดอลลาร์ รัตตกุล วันที่แมงมุมเขาหัวใจวายอยู่ในโคม่าพี่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะฟื้นไหม มันว้าเหว่มาก พี่ไม่รู้จะทำยังไงก็นั่งคอยอยู่ ICU 3-4 วัน พี่ก็เลยให้ลูกน้องไปสลักให้พี่มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจว่า พี่เชื่อว่าเขาต้องกลับมาด้วยกำลังใจกำลังกาย แล้วก็รอยยิ้มที่พี่เคยเห็น ลูกน้องก็ไปทำมาแล้วก็เอากลับมาให้พี่ นาฬิกาที่พี่ชอบ สลักข้อความตรงด้านหลังว่า Waiting For When your come back with strangth and smile again ( รอคอยที่เธอจะกลับมา พร้อมกับกำลังใจและยิ้มอีกครั้งหนึ่ง ) เขาต้องกลับมาเดินได้ พี่มีความเชื่อมั่นนะ พี่เชื่อว่าภายในปีหนึ่งเขาต้องเดินได้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เจฟ ซาเตอร์' เผยเกือบไม่ได้เป็นนักร้อง เคยทิ้งฝันไปสมัครงานออฟฟิศ
ถือว่าเป็นปีทองของนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง "เจฟ-วรกมล ซาเตอร์" ที่ไม่ว่าจะมีผลงานอะไรออกมาก็ปังไม่หยุด โดยล่าสุดรายการ "วอดอวอแว" คว้าตัวมาขึ้นรถโชว์พลังเสียงขั้นเทพด้วยกันอีกครั้ง
'ไอซ์ ปรีชญา' เผยเคยแพ้ยาซึมเศร้า อาการหนักจนเห็นภาพหลอน-กรามค้าง!
นางเอกสาว "ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW หลังผ่านมรสุมชีวิต ย้อนเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นโรคซึมเศร้าถึงขนาดเคยแพ้ยาจนเห็นภาพหลอนและกรามค้าง! พร้อมเล่าวิธีการรับมือและเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหา ตอนนี้โสดแฮปปี้กับชีวิตและมีแพชชั่นในการทำงานมากขึ้น
'ณิชา' โดนคอมเมนต์แรง เล่าจุดเปลี่ยนชีวิตหลังเจอวิจารณ์หนัก
นักแสดงสาว "ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW ถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาช่อง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตที่ทำให้รู้สึกเครียดมาก เล่าเหตุการณ์สุดช็อก! จำฝังใจโดนคอมเมนต์แรงต่อหน้าว่าไม่เหมาะสมเป็นนางเอก
'เมย์ พิชญ์นาฏ' รับ หน้าเหวี่ยงจนคนมองว่าร้าย เผยสามีอยากได้ลูกแฝดชายหญิง
นักแสดงสาว "เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร" เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เผยตัวจริงไม่ร้ายเหมือนละคร หน้าเหวี่ยงจนคนคิดว่าหยิ่งเข้าถึงยาก พร้อมเล่าชีวิตหลังแต่งงาน สามีอยากได้ลูกแฝดชายหญิง
'สมรักษ์' เผยตกต่ำสุด เครียดจนอยากจบชีวิต 'เบสท์' ร้องไห้ พ่อไม่เคยทำให้ลำบาก
เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ควงคู่คุณพ่อ สมรักษ์ คำสิงห์ มาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW ถึงเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น ลั่นเป็นช่วงชีวิตที่ตกต่ำสุด เครียดหนักจนอยากจบชีวิตแต่ดึงสติกลับมาได้ เผยเรื่องการหย่าร้างเกิดขึ้นก่อนมีคดีความ เบสท์หลั่งน้ำตาชีวิตตั้งแต่เกิดมาพ่อแม่ไม่เคยทำให้รู้สึกลำบาก