![539E740B-A203-409A-B56A-A05A8C3FE049](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/539E740B-A203-409A-B56A-A05A8C3FE049.jpeg)
ปกติจะเป็นสาวเปิ่นๆโก๊ะๆ แต่พอนางเอกสาว โบว์ - เมลดา สุศรี ต้องมารับบท ออสร้อย สาวอโยธยาที่มี 2 บุคลิก ในภาพยนตร์ อโยธยา มหาละลวย (Om! Crush on Me) เล่นเอาโบว์ถึงกับหมดแรง เพราะนอกจาก 2 บุคลิกที่ต้องทำให้ออกมากลมกลืนสไตล์สาวอโยธยาแล้ว ยังต้องฝึกร้องเพลงฉ่อยที่ไม่ใช่แนวเพลงที่ถนัดอีกด้วย
“เรื่องนี้โบว์รับบทเป็น ออสร้อย ที่เปรียบเหมือน ดอกบัว สีชมพูอ่อนๆ คือ ความสดใส มองทุกอย่าง ในแง่บวก เป็นหญิงแกร่งแห่งอโยธยา ต่อให้มีเรื่องร้ายเข้ามาในชีวิต ก็จะมองโลกในแง่ดี ตัวออสร้อยเป็น ผู้หญิงโบราณที่มีออร่า มีทัศนคติที่ไม่เหมือนใคร แม้บางมุมจะดูเหมือนผู้ชาย แต่จิตใจอ่อนโยน บทไม่ห่างจากโบว์มากนะคะ แต่ออสร้อยจะเป็นคนที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้าม เป็นหญิงสาวที่พ่อแม่เสียชีวิต ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง เป็นคนเก่ง แต่แฝงไปด้วยความเรียบร้อยในแบบฉบับสาวอโยธยา เรียกว่าเธอมี 2 บุคลิกในตัวคนเดียวก็ได้
ซึ่งพอโบว์ต้องเล่นบทนี้ ต้องตีความตามที่ผู้กำกับแนะนำ แรกๆ จะขัดๆ หน่อย ว่า ต้องลิมิตแค่ไหน จะทำอย่างไรให้กลมกลืน เพราะปกติส่วนตัว โบว์จะเปิ่นๆ ทะเล้นๆ โก๊ะๆ หน่อย แต่พอได้เล่นไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เราจับจุดได้ จนสามารถปรับการแสดง 2 บุคลิกของออสร้อยออกมาได้กลมกลืนจนได้ค่ะ
แต่ที่ยากอีกอย่างคือตัวออสร้อยต้องมีเหตุจำเป็น ต้องเป็นนักร้องในโรงชำเรา ต้องร้องเพลงฉ่อยในหลายๆ ฉากที่เล่น ซึ่งเป็นอีกแนวเพลงที่ไม่คุ้นเคยเลย เลยรู้สึกว่าน่าสนใจมากและอยากลองทำดู แล้วต้องมีร้องเยอะด้วย แถมต้องท่องเนื้อจำบท ไม่ใช่เพลงที่เคยฟังปกติ เนื้อหาก็จะเป็น 2 แง่ 2 ง่าม ร้องเพลงเกี้ยวกันไปมาในสมัยก่อน ก็ต้องฝึกร้องพอสมควรแต่ก็ทุ่มเทเต็มที่เพราะเป็นหนังพีเรียดเรื่องแรก ของ โบว์ ค่ะ“
![DB6E2C70-2E7A-42A6-A4D9-CB4C5B240717](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/DB6E2C70-2E7A-42A6-A4D9-CB4C5B240717.jpeg)
![DA32E29B-BA53-4E60-BEEA-169793A568C1](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/DA32E29B-BA53-4E60-BEEA-169793A568C1.jpeg)
![C99260A9-BB27-487D-AC7E-45B5CA7EA8E8](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/C99260A9-BB27-487D-AC7E-45B5CA7EA8E8.jpeg)
![539E740B-A203-409A-B56A-A05A8C3FE049](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/539E740B-A203-409A-B56A-A05A8C3FE049.jpeg)
![6C9E7ED9-B698-4CE0-BE0B-D3BD61DDD81A](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/6C9E7ED9-B698-4CE0-BE0B-D3BD61DDD81A.jpeg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โบว์-ไอซ์-เกรท-เทศน์-ลีน่า' พาย้อนวัย ทำสยามแตก!
มีเรื่องให้ร้องว้าวได้ทุกวันจริง ๆ กับทางช่อง 3 เพราะมีกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆ ได้แฮปปี้เอนจอยกันตลอด ล่าสุดกับนักแสดงจากละครเรื่อง โลกหมุนรอบเธอ ผลงานละครเรื่องใหม่ของผู้จัดฯ แอน ทองประสม บริษัท ทอง สตูดิโอ จำกัด ที่กำลังจ่อคิวลงจอให้ได้ชมตอนแรก วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคมนี้
ปังไม่หยุด! “โบว์ – เมลดา” มงลง พรีเซ็นเตอร์คนแรกของ “ศุภาลัย” เคลียร์ชัดศุภาลัยบ้านไม่แคบ!
เรียกได้ว่าฮอตสุดๆ กับ “โบว์ - เมลดา สุศรี” เจ้าของฉายาเจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์ ที่ล่าสุดมงลงได้ตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ “ศุภาลัย” ผู้นำวงการอสังหาฯ เป็นที่เรียบร้อย
'โบว์ เมลดา' ปล่อยเพลงใหม่ยอดทะลุ 10 ล้าน
แตะ10 ล้านวิวกันไปแล้ว สำหรับซิงเกิล แนะนำให้เป็นแฟนเรา ของ Bow Maylada Feat. GUYGEEGEE ผลงานเพลงของ นางเอกสาว โบว์-เมลดา สุศรี ที่ตอนนี้เป็นปลื้มลืมเหนื่อย เพราะได้รับการตอบรับดีเกินคาด จากแฟนเพลง รวมไปถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งในและนอกวงการบันเทิง ที่ต่างชื่นชอบและให้การสนับสนุนจนกลายเป็นเพลงฮิตติดปากที่ยอดวิวกำลังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ
'นก จริยา' ปลื้มกระแส 'ใต้เงาตะวัน' ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกัน
จบไปแล้วสำหรับละครเรื่อง ใต้เงาตะวัน ของผู้จัด จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งนำแสดงโดย หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ โบว์-เมลดา สุศรี โดยโอกาสนี้ผู้จัด จริยา แอนโฟเน ได้เผยความรู้สึกถึงผลงานเรื่องนี้ว่า
'หนึ่ง ณรงค์วิทย์' เปิดความลับเพลงสุดหวง 'ยื้อ' คุมเข้มหลังไมค์ 'หมาก-โบว์'
ก่อนที่ละครใหม่ช่อง 3 “ใต้เงาตะวัน” จะลงจอออนแอร์ให้แฟน ๆ ได้ชม ผู้จัดละคร “นก จริยา” ก็ได้ส่งคู่พระ-นางในเรื่องอย่าง “หมาก ปริญ” และ “โบว์ เมลดา” ให้นักแต่งมือทอง “หนึ่ง ณรงค์วิทย์” กำกับดูแลทั้งคู่ในการร้องรีเมคเพลง “ยื้อ” สำหรับใช้ประกอบละคร “ใต้เงาตะวัน”
'กลัฟ' ควง 'โบว์' บอกบุญแฟนคลับ
กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ และ โบว์-เมลดา สุศรี สองนักแสดงช่อง 3 เชิญชวนผู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อสร้างอาคารรองรับผู้ป่วย ในโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี โดยวางเป้าหมายเน้นการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของการให้ริการทางการแพทย์เพื่อให้มีมาตรฐานทางการแพทย์ให้พร้อมรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโรคในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาโรคที่ซับซ้อนเป็นต้นแบบของการรักษา