หลังจากที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองสุดสตรอง ซาร่า คาซิงกินี ประกาศสถานะหัวใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยการตั้งสถานะแต่งงานกับหนุ่มหล่อชาวสิงคโปร์
พร้อมแท็กตรงไปที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของฝ่ายชายที่ใช้ชื่อว่า Daryl Cai ก่อนเจ้าตัวจะลบโพสต์ดังกล่าวออกไป แถมในไอจีสตอรี่สาวซาร่ายังไปดูสถานที่คล้ายกับเป็นที่ที่ใช้จัดงานแต่งงงาน พร้อมกับพูดว่า "มาดูสถานที่นะคะ" งานนี้ก็ไม่รู้ว่าใช่สถานที่จัดงานแต่งตัวเองหรือเปล่า ล่าสุด สาวซาร่า ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31
ตกลงยังไง แต่งงานใหม่แล้วหรือยัง?
ซาร่า : เรียกว่ากำลังแพลนที่จะแต่งงานแล้วกัน มีการสู่ขอแล้วเรียบร้อย จริงๆ ก็แพลนทุกอย่างไว้แล้ว น่าจะเร็วๆ นี้
แล้วทำไมเรารีบตัดสินใจลงโพสต์ว่าแต่งงานแล้วล่ะ?
ซาร่า : จะเรียกว่าโป๊ะก็ได้ คือจริงๆ เราตั้งใจจะเซ็ตไว้เป็นเฟรน เราตั้งตอนที่เราง่วงๆ เราตั้งใจจะตั้งไว้เป็นเฟรน แต่เฟรนเราก็หลายพันคนนะ
หมายถึงว่าให้เห็นเฉพาะเพื่อนที่ตั้งไว้เฉยๆ?
ซาร่า : ใช่ แต่พอตื่นเช้ามามันเป็นพับบลิค
แต่พอคนเข้ามาดูอีกทีคือสเตตัสหายแล้ว?
ซาร่า : ยังอยู่ๆ แต่กลับไปเซ็ตเป็นเฟรนเหมือนเดิม คือคนที่เป็นเพื่อนกับเรายังมองเห็น แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อนจะมองไม่เห็น
ยินดีมาก็เยอะ แต่มีดราม่าด้วย?
ซาร่า : ใช่ค่ะ จริงๆ ก็มีคนเข้ามายินดีกับเราเยอะ แต่คอมเมนต์ที่ดราม่าก็นิดนึง อารมณ์แบบ แม่พักบ้าง แม่คุมนะ จะมีลูกคนที่สามหรือเปล่าอะไรประมาณนี้
พอเจอแบบนี้เราได้ไปปรึกษาว่าที่สามีอะไรเราบ้างไหม?
ซาร่า : เขาชิลมาก เอาเป็นว่าเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ก็มีเล่าให้เขาฟัง แต่เขาชิล ไม่คิดอะไร แต่เขาถามว่าเราโอเคหรือเปล่า เราก็บอกว่าเราชิล เพราะเราอยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอ
เรามีลบคอมเมนต์ไหม?
ซาร่า : ไม่มี ปล่อยไว้แบบนั้น ค่อยฟ้องเอา (ล้อเล่น)
มันก็มีคนถามว่าซาร่าไม่เข็ดกับความรักหรือกลัวความรักเหรอ?
ซาร่า : จริงๆ เรามองความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม แล้วทุกความรักที่ผ่านมา ถึงมันจะจบลงไม่ดี แต่ทุกครั้งเหมือนเราได้เรียนรู้กับตัวเอง ได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ได้ทบทวนตัวเอง คนเรามันมีข้อดี ข้อเสีย เราคิดว่าทุกๆ ความรักมันสอนให้เราได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเสมอ ทำให้เรารู้สึกอยากเป็นแฟน อยากเป็นภรรยาในเวอร์ชั่นที่มันดียิ่งขึ้น
เข้าใจทุกอณูของความรักหรือยัง ทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี?
ซาร่า : เรารู้สึกว่าผ่านอะไรมาเยอะถึงจุดจุดหนึ่งที่พอเรามาเจอคนคนนี้ คนล่าสุด เหมือนเรารู้สึกว่าเราเป็นเวอร์ชั่นที่ ครั้งแรกที่เป็นเรา มีคนคนหนึ่งเห็นคุณค่าเราจริงๆ มาจากการกระทำของเขา จากคำพูดของเขาที่บอกเรา เราก็เลยรู้สึกแบบเออ...มันมีคนเห็นแล้วนะความตั้งใจของเรา
ซาร่าในวันนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดในชีวิตไหม?
ซาร่า : ที่สุดค่ะ เข้าใจชีวิตที่สุดแล้ว แล้วเป็นคนที่ทุ่มเทกับความรักมากๆ
ผู้ชายคนนี้ชื่อ?
ซาร่า : Daryl ค่ะ เขาเป็นหนุ่มชาวสิงคโปร์
ไปเจอกับเขาได้ยังไง?
ซาร่า : เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ตอนนั้นเหมือนเป็นวันเกิดเพื่อนแล้วนัดรวมกันทานข้าว เราก็ปิ๊งๆ กันตั้งแต่วันแรกเลย นั่งกันอยู่ 10 กว่าคน
เขาน่ารักตรงไหน?
ซาร่า : สิ่งแรกของซาร่าเลย คือต้องยอมรับว่าเป็นคนมองคนแค่หน้าตาก่อน คือเราเป็นคนชอบคนหน้าตาดีในสไตล์ของเรา ก็ทำให้เราสนใจมองที่เขา แล้วพอนั่งไปสักพักรู้สึกว่าเขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ดูเจ้าชู้ ดูแบบสุภาพๆ ก็เลยยิ่งทำให้เราสนใจเขามากขึ้น
เขารู้ไหมว่าเราแอบมองเขาอยู่?
ซาร่า : ก็น่าจะรู้นะ เขาก็มีมองเรา แต่ไม่ได้มาคุยอะไรกับเรา คือต่างคนต่างนั่งแล้วก็คุยกันบนโต๊ะ หลังจากนั้นมีการฟอลโล่ไอจี ถ่ายรูปกรุ๊ปแท็กกัน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทักมาคุยกับเรา
เขาทักเราก่อน แต่เราเป็นคนชอบเขาก่อน?
ซาร่า : เราไม่ทักเขาก่อน เราเป็นคนที่ไม่กล้า เราเป็นผู้หญิง
ซาร่ามารายการนี้บ่อย แต่ครั้งนี้แววตาสดใสมาก?
ซาร่า : คนมีความรัก
เขาทักมาเรากรี๊ดเลยไหม?
ซาร่า : ก็กรี๊ด เขาทักมาแสดงว่าเขาต้องชอบเรา เขาทักมา say hi ปกติ เป็นไงบ้าง สบายดีไหม จำได้ไหมที่วันนั้นเราไปกินข้าวกันกับเพื่อนๆ เราก็บอกว่าจำได้ ก็คุยกันต่อ หลังจากนั้นก็มีการนัดกินข้าว ดูหนังกัน
ใครเป็นคนเริ่มสานสัมพันธ์?
ซาร่า : ทางเขาหมดเลย คือเราชอบเขานะ แต่เราเก็บอาการนิ่ง แต่เขาเป็นคนตรงๆ แล้วแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ
เรามีน้องแล้ว 2 คน เขารู้เรื่องราวของเราไหม?
ซาร่า : ตอนแรกเขาไม่รู้ หลังจากที่เดตกันวันแรกเขาก็อยากรู้ว่าเราเป็นใคร เขาก็ไปถามเพื่อนแล้วไปเสิร์ชข่าว แต่อ่านภาษาไทยไม่ออกเลย แต่เขาเห็นข่าวแล้วถามเพื่อนเขา ก็เลยพอรู้เรื่องราวของเรา
แล้วเขาว่าไงที่เรามีลูก 2 คน?
ซาร่า : เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรก ในวันแรกที่คุยกับเราซีเรียสมากๆ เหมือนเขาก็พูดกับเราว่าเขาเป็นคนแบบนี้นะ มีนิสัยแบบนี้นะ อดีตเขาอย่างนี้ๆ นะ เขารู้นะว่าเรามีลูก 2 คน เขารู้สึกว่าอยสกได้ความสัมพันธ์ที่รู้สึกซีเรียส เขารู้สึกว่าถ้าคุยกันเล่นๆ เขาไม่คุยนะ เขาไม่อยากเสียเวลา แล้วเขาก็บอกว่าด้วยความที่เรามีลูก 2 คนแล้ว แล้วคิดว่าเราก็คงซีเรียสกับความสัมพันธ์ เขาเลยถามว่าจะโอเคไหมถ้าเราจะคุยกันจริงจัง เพราะเขามองถึงอนาคตอันยาวไกล
เขาไม่ว่าเราเลย เรามีลูก 2 คน แล้วเขาจะดูแลด้วย?
ซาร่า : ใช่ เขามีแบบเจอลูกได้ไหมตั้งแต่แรกๆ เลย เราเลยรู้สึกว่าเขาไม่ได้เข้ามาเล่นๆ เขาดูแบบจริงจัง
แสดงว่าเขาชอบเด็ก?
ซาร่า : เขาชอบเด็กไหม คือเขาไม่เคยเดตกับผู้หญิงมีลูกมาก่อน แต่เขาก็บอกว่าลูกเราน่ารัก แล้วเขาก็มีความประหม่าในการเจอลูกเรา เขามีความกังวลว่าลูกเราจะชอบเขาไหม เขาจะเข้ากับลูกเราได้ไหม คือเขาดูกังวลมากๆ จะเจอแล้วต้องทำตัวยังไง แต่พอถึงเวลาเขาเป็นธรรมชาติกับลูกเรามากๆ
แล้วตัวเรากังวลไหมโมเมนต์ที่เขาจะเจอกับลูกเรา?
ซาร่า : ก็ไม่นะคะ เหมือนเราชิลแล้วบอกว่าอย่าคิดมาก เพราะว่าลูกเราเข้ากับทุกคนได้ง่ายมาก พอเขาได้เจอกันก็ติดกัน เล่นกัน พอวันแรกที่แม็กซ์เวลล์เจอเขา หลังจากนั้นแม็กซ์เวลล์ก็ถามถึงต่อว่าเมื่อไหร่จะได้เจอลุงอีก ลุงจะมาอีกไหม
เขาอายุมากกว่าเรา?
ซาร่า : มากกว่าค่ะ มากกว่าประมาณ 3 ปี เขาพูดภาษาไทยได้ แต่ว่าอ่านไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดชัดมาก เขาไปๆ มาๆ ที่เมืองไทยประมาณ 10 ปีได้แล้ว แล้วแฟนเก่าเขาคนไทยทั้งนั้นเลย
แม็กซ์เวลล์โอเค แล้วเอมมิลี่ล่ะ เป็นไงบ้างเวลาเจอเขา?
ซาร่า : เอมมิลี่ก็ติดค่ะ อยากให้อุ้มตลอด
พอเราเห็นภาพที่เขาเข้ากับลูกเราได้ เรารู้สึกยังไง?
ซาร่า : เราโหยหาโมเมนต์แบบนี้ เราเห็นเขาทุกดีเทลเลย นั่งสอนการบ้านกัน จูงมือกันพาไปดูหนัง แม้กระทั้งดีเทลเล็กๆ น้อยๆ เราไปทำหน้าที่คลินิก เขาหายไปซื้อเสื้อผ้าให้เอมมิลี่ เรารู้สึกว่าเราไม่เคยได้รับโมเมนต์นี้จากใคร ก็เลยรู้สึกว่าประทับใจในตัวเขา
คุยกันนานไหมถึงตัดสินใจคบกันซีเรียส?
ซาร่า : ประมาณ 2-3 เดือน ทางเขาก็เป็นคนบอกว่าเรามาเขากันแบบซีเรียส ส่วนเราเก็บอาการ
ลูกเราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมั่นคงและเดินหน้าต่อกับผู้ชายคนนี้ด้วยใช่ไหม?
ซาร่า : มันมีโมเมนต์หนึ่งที่เรานั่งรถกันไป แม็กซ์เวลล์ก็หันไปถามว่า ลุงๆ รักแม่ไหม เขาก็ตอบว่ารัก เขาก็บอกว่าถ้ารักแม่จริงๆ ยูต้องขอแม่แต่งงานนะ ยูต้องซื้อแหวนนะ เราก็คิดในใจ โอ้โห..พูดแบบนั้นออกไปถ้าผู้ชายไม่คิดนี่หนีแน่นอน แล้วหลังจากนั้นเขาก็หันมามองแม็กซ์เวลล์ โอเคเขาจะทำแบบนั้น แล้วเราก็คิดว่ามันคงเป็นฟิลพูดเล่นๆ พอวันเวลาผ่านไปมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
นานไหมจากโมเมนต์ที่แม็กซ์เวลล์พูดอยู่หลังรถ?
ซาร่า : ประมาณ 4-5 เดือนได้
กว่าจะสอนให้แม็กซ์เวลล์พูดประโยคนี้ได้?
ซาร่า : ไม่ได้สอน เราก็ตกใจ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาโตขึ้นด้วย ตอนที่เขาพูดขึ้นมาเราก็หันไปมอง โห..ลูกเรานี่แบบสุดยอด แล้วคิดในใจว่าเขาจะคิดว่าเราบอกลูกให้ไปบอกหรือเปล่า แต่เราก็ไม่ได้ถามลูก และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกับลูกต่อ
เขาเข้ากับครอบครัวเราได้?
ซาร่า : ได้ดีมากๆ
เราเข้ากับครอบครัวเขาได้ไหม?
ซาร่า : เพิ่งไปเจอครอบครัวเขามาที่สิงคโปร์น่ารักมากๆ เลย เป็นครอบครัวคนจีน ครอบครัวใหญ่มากๆ เกือบ 20 คน
เหมือนเขานัดครอบครัวเขามาเจอเรา?
ซาร่า : ประมาณนั้นค่ะ ก็เหมือนมีพิธีเล็กๆ น้อยๆ แบบฝั่งทางบ้านเขา
เขาเรียกดูตัวไหม?
ซาร่า : เขาเรียกอะไร เหมือนคนจีนเขาจะขอ เหมือนยกน้ำชา
นั่นหมายความว่าคุณแต่งแล้วที่สิงคโปร์ถูกไหม?
ซาร่า : ไม่รู้พิธีเล็กๆ เขาเรียกว่าแต่งไหม ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราไม่ได้ใส่ชุดอะไรเลยนะคะ แบบชิลๆ กันเลย
ทางจีนยกน้ำชา แล้วมีของรับขวัญนิดๆ หน่อยๆ ใช่ไหม?
ซาร่า : ใช่ เหมือนให้อั่งเปา
นั่นแหละ แต่งแล้ว?
ซาร่า : แต่งแล้วเหรอ ใช่เหรอ
ถ้าของไทยคือการหมั้นหมาย ผูกข้อไม้ ข้อมือ?
ซาร่า : เรียกว่าหมั้นก็ได้ค่ะ
แต่ยังไม่ได้ฉลองมงคลสมรส ยังไม่ได้จดทะเบียน?
ซาร่า : จดทะเบียนแล้วค่ะ
ก็เหมือนกับแต่งแล้วแหละ แต่เป็นพิธีเล็กๆ ของที่บ้านผู้ชาย แต่ยังไม่ได้ฉลองมงคลสมรสให้ทุกคนรู้?
ซาร่า : ใช่ค่ะ
แต่ยังไม่มีงานในเมืองไทย ยังไม่ได้จองโรงแรม ยังไม่ได้ตัดชุดเจ้าสาว แต่อนาคตมี?
ซาร่า : เร็วๆ นี้แหละค่ะ เร็วมากด้วย
ย้อนกลับไปที่โมเมนต์ขอแต่งงาน เห็นว่าเราก็เซอร์ไพรส์ด้วย?
ซาร่า : จริงๆ ก็เรียบง่ายนะคะ เหมือนเขาแค่ชวนเราไปตรงทะเล ที่มาเลเซีย แล้วบอกว่าถ่ายรูปกัน
กี่คน?
ซาร่า : ก็ทั้งครอบครัวเขา ญาติเขาอยู่ตรงนั้นหมดเลย คือเราก็ยืนถ่ายรูปกับเขาสักพัก เขาก็หันมาคุกเข่า เอาแหวนให้
เขาพูดว่าอะไร?
ซาร่า : จำไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรมาก เขาแค่ขอแต่งงาน เขาแค่ขอบคุณที่เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขอะไรอย่างนี้ แล้วก็นั่นแหละ เขาบอกว่าเขาจะเป็นคนดี จะพยายามนู้น นี่นั่น ประมาณนี้แหละ
แล้วเราเซเยสไหม?
ซาร่า : เซ เยส ค่ะ หูดับ
ย้อนกลับไปที่เราตอบตกลงกับผู้ชายคนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีลังเลบ้าง เหตุผลนั้นคืออะไร?
ซาร่า : ด้วยความที่ทุกคนเห็นว่ามันมีข่าวเรื่อง forex ขึ้นมา เขาก็บอกเราว่าตัวเขาพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พิสูจน์ความจริงให้เรา ครอบครัว แล้วก็สังคมได้รับรู้ เหมือนเขาพูดว่าเขาจะเดิมพันทั้งชีวิต เพื่อที่จะกลับมาเคลียร์ปัญหาที่มันเกิดขึ้น
แล้วเขาได้ทำไหม?
ซาร่า : ทำค่ะ ก็หลังจากที่เขากลับมาก็ดำเนินการสู่ขั้นตอนตามกฎหมาย
ถ้าสมมติผิดกฎหมายจริงๆ กลับมาก็ต้องโดนจับ?
ซาร่า : แน่นอน แต่นี่ไม่ค่ะ
คือตอนนี้กำลังเคลียร์ตัวเองอยู่?
ซาร่า : ใช่ค่ะ เราก็คิดว่าถ้าเราเป็นเขา ถ้ารู้ว่าผิดก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับมาทำอะไร ฉันไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ถูกต้องไหม แต่เขาพร้อมที่จะกลับมาสู้คดีต่างๆ นานา
แต่ส่วนหนึ่งเขาทำให้เราเห็นด้วย?
ซาร่า : ใช่ค่ะ
อะไรทำให้มั่นใจในผู้ชายคนนี้?
ซาร่า : เขาเป็นคนที่พูดแล้วทำให้เราเห็นจริงๆ ที่ไม่ได้พูดอย่างเดียว พูดปุ๊บแล้วทำปั๊บ เขาเป็นคนไม่สวีทเลย ไม่หวาน เป็นคนพูดตรงๆ อะไรที่ไม่ชอบในตัวเรา อะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุงทั้งตัวเขาและตัวเรา มีอะไรเราก็นั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่ อันนี้โอเค อันนี้ไม่โอเค เรานั่งคุยกัน เรานั่งคุย เราปรับจูนกันได้ไหมอะไรหลายๆ อย่างในตัวเขาเรารู้สึกสบายใจ คุยกันแล้วมันคลิก มันไปกันได้ แล้วก็อยู่ในจุดที่เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันจริงๆ ในวันที่ซาร่าลำบากมากๆ หรือตัวเขาลำบากมากๆ เราก็ไม่ปล่อยมือกันไป เรารู้สึกว่าเรายังไม่เคยเจอคนแบบนี้ในความรักแต่ละครั้ง
แล้วเคสนี้ไปถึงไหนแล้ว จบหรือยัง?
ซาร่า : น่าจะใช้เวลานะคะ เพราะว่าต้องมีการสอบสวนต่างๆ นานา น่าจะใช้เวลาสักพักเลย
ตอนที่มีข่าว ตอนนั้นมีหวั่นไหวไหม?
ซาร่า : ก็มีนิดหนึ่ง เราก็มีถามเขาว่ามันคืออะไร มันเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นอดีตที่ตัวเราไม่รู้จักเขา เราเพิ่งมารู้จักเขาในปัจจุบัน เขาก็มีเล่าให้เราฟังบ้างว่ามันเป็นแบบนั้น แบบนี้ แต่เราก็ยัง จริง ไม่จริง มันจะอะไรเมื่อไหร่ แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งที่เขารู้สึกว่าพร้อมที่จะกลับมาเคลียร์ปัญหาต่างๆ กับคดีตรงนี้ มันก็ทำให้เรามั่นใจในระดับหนึ่งว่า ถ้ามันผิดจริงๆ ในความรู้สึกเรา เราก็คงไม่กล้าที่จะเดินเข้ามาในขั้นตอนของกฎหมาย
จะบอกไหมฉลองมงคลสมรสวันไหน?
ซาร่า : อุบไว้ค่ะ แต่เร็วๆ นี้ค่ะ
ที่แม็กซ์เวลล์ขอเบบี๋ เราแพลนจะมีต่อไหม?
ซาร่า : จริงๆ เราอยากมีลูกแค่ 2 คนมาตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว ก็คิดว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน
เขาบอกว่าอยากได้เบบี๋ไหม?
ซาร่า : เขาก็อยากมี แต่เขาเคารพการตัดสินใจของเรา แล้วเขาก็เห็นว่าเรามีลูกมาแล้ว 2 คน เขาก็รักลูกเราทั้ง 2 คนเหมือนลูกเขา
ตอนนี้เรามีลูกชาย 1 คน ลูกหญิง 1 คน ถ้าสมมติมีอีกอยากได้เพศไหน?
ซาร่า : เขาอยากได้ผู้ชาย
แล้วเราจะย้ายไปอยู่สิงคโปร์ไหม เพราะว่ากลักๆ เขาก็อยู่ที่สิงคโปร์ใช่ไหม?
ซาร่า : โอเค ถึงว่าเราจะจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่เราก็ต่างคนต่างทำงาน ตัวซาร่าเองก็ยังต้องทำงานเลี้ยงดูตัวเองอยู่ แล้วก็ลูกด้วย แล้วตัวเขาก็ต้องทำงาน ต้องให้เวลาเขาพิสูจน์ตัวเองด้วยกับเรา ครอบครัว แล้วก็สังคม ก็ยังคิดว่าเราน่าจะอยู่ที่ภูเก็ตและกรุงเทพ เขาก็น่าจะอยู่สิงคโปร์ อีกอย่างพ่อซาร่าอยู่สิงคโปร์มาจะ 40 ปีแล้ว ซึ่งการไปภูเก็ต สิงคโปร์ เป็นเรื่องปกติของที่บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแน่ 'คมนาคม' เร่งศึกษาค่าธรรมเนียมรถติด
“คมนาคม” เดินเครื่องศึกษามาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด เปิดโมเดล 4 ประเทศ “อังกฤษ-สิงคโปร์-สวีเดน-อิตาลี” พบช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน สนข. เร่งศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ ชี้ช่วยดึงดูดประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เชื่อมระบบฟีดเดอร์-ขนส่งหลัก หนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
'ปูไข่-เจี๊ยบ' เข้าสู่ประตูวิวาห์
เข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคู่รักสายสปอร์ต ปูไข่-พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ อดีตนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติ และ เจี๊ยบ-ชมพูนุช ปิยธรรมชัย หลังคบหาดูใจมากว่า 11 ปี ล่าสุดถือฤกษ์สะดวก ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างเป็นทางการในวันคล้ายวันเกิดของเจ้าบ่าว จัดพิธีแต่งงานอย่างหวานชื่น ตามประเพณีทางศาสนาคริสต์ ณ โบสถ์ St. Louis Marie de Montfort ประจำมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ท่ามกลางเพื่อนสนิท ครอบครัว ที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน
'เจมส์ จิรายุ' ขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงานแล้ว
ทำเอาเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน เมื่อพระเอกหนุ่ม เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ได้ขอแฟนสาวนอกวงการ โฟม เบญจมาส แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรนากาศธรรมชาติที่มีฝูงแกะเป็นสักขีพยาน
'ศิลปินแห่งชาติ' ยกตัวอย่าง 'สิงคโปร์' โต้คนอยากสร้างบ่อนนำเงินไปพัฒนาการศึกษา
นายวินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
'จักรภพ' ออกโรงโต้คอลัมนิสต์ชื่อก้อง หยาม 'ทักษิณ' วิสั้นกว่านายกฯสิงคโปร์
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้ลมเปลี่ยนทิศ โดยระบุว่า “คุณลม เปลี่ยนทิศ เขียนเล่าถึงวิสัยทัศน์ใหม่ของสิงค์โปร์ โดยนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ลอว์เรนซ์