เปิดหมดเปลือก 'เอ็ม นันทวัฒน์' ยันโดน 'ม้า อรนภา' ตบจริงไม่ใช่แค่แตะ!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 'ม้า อรนภา' เคลียร์ปมร้อน ยันแค่แตะไม่ได้ตบ

หลังจากที่มีประเด็นร้อนในโซเชียลนักแสดงรุ่นใหญ่ ตบหน้า นักแสดงหน้าใหม่ที่เกาหลี ซึ่งก็คือ ม้า อรนภา และ เอ็ม นันทวัฒน์ โดยวันก่อนม้าได้ออกมาแถลงในส่วนของตนเองไปแล้วนั้น ล่าสุดวันนี้หนุ่มเอ็มเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวที่แรก ยันตบจริงไม่ใช่แค่แตะ ให้อภัย แต่ยังคงมีการแจ้งความเพื่อเป็นบทเรียนให้อีกฝ่าย ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31

เพิ่งมาถึงเมื่อวาน?
เอ็ม : ยังไม่ได้เช็คข่าว และไม่กล้าดูสัมภาษณ์เพราะเรามีคำตอบในใจอยู่แล้ว พูดอีกร้อยครั้งก็เหมือนเดิม เพราะมันเป็นความจริง

สภาพจิตใจยังไม่ค่อยโอเค?
เอ็ม : ไม่ค่อยโอเคครับ เจอแม่กอดกับแม่แค่ 5 นาทีเองครับ แม่ไปรับที่สนามบิน ผมแยกตัวมานอนที่โรงแรม

ได้เห็นคำสัมภาษณ์พี่ม้ามั้ย?
เอ็ม : เห็นที่นักข่าวตัดมาครับบางคำ รู้สึกว่ามันใช่ มันเกิดขึ้นจริง ขอบคุณพี่ม้าเลยครับ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดกลัวพี่ม้าตอบไม่ตรงคำถาม แต่มันยังตรงไม่หมดในส่วนของผม

รู้จักกับพี่ม้าได้ยังไง?
เอ็ม : รู้จักเจอตามงานอีเวนท์ แต่พี่ม้าไม่รู้จักผมหรอก ผมสวัสดีเค้า รู้จักจากพี่ธงผู้จัดการ พี่ม้าพาผมไปปรึกษาหมอศัลยกรรมก่อนไปเกาหลี ไปกัน 2 คน จริงๆต้อง 3 แต่พี่ธงติดโควิด

โอเคมั้ยไปกับพี่ม้า 2 คน?
เอ็ม : มันโอเคอยู่แล้วครับอยากไปทำหน้า แต่ถามว่ากลัวมั้ยมันกลัวครับ เพราะเค้าเป็นพี่ม้า อรนภา ผมเด็กแล้วผมเห็นเค้ามาตลอด เค้าน่ารักกับผมมากเลยเราสวัสดีแล้วกอดกัน เค้าก็พยายามสอนผมเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เค้าด่าผมผมจะขอโทษเค้าเลย ทุกครั้งที่เค้าสอนผมผมตั้งใจฟัง ผมถามเค้าเกี่ยวกับวงการบันเทิง ผมคิดว่า 9 วันเราอยู่กันรอดแล้ว พี่ม้าเข้าใจตอบ เค้าตอบผมทุกคำถาม ผมรักเค้าเลยตั้งแต่วันแรกๆ

เค้าดูแลตลอดตั้งแต่วันแรก ดูแลยังไงบ้าง?
เอ็ม : เรื่องดูแลใช่ แต่เราดูแลกันทั้งคู่ เค้าดูแลในส่วนที่ผมเป็นลูกค้า แต่ผมบอกว่าเค้าว่าแม่ไม่ต้องดูแลแบบลูกค้าเอ็มทำเองได้หมดเลย แต่เรื่องของการกินเอ็มชอบอร่อยๆ เค้าจะสอนผมตลอดเวลา ผมรู้ว่าแม่ม้าดูอยู่ เค้าจะรู้อยู่แก่ใจว่าผมมีสัมมาคาราวะหรือปล่าว มีบางคนบอกผมไม่รู้สัมมาคาราวะเลยโดนตบ แต่แม่ม้ารู้อยู่แก่ใจครับว่าผมมีสัมมาคาราวะหรือปล่าว

เหตุเกิดในวันที่ 2 พี่ม้ารอเอ็มซื้อของ 3 ชั่วโมง แยกกันไปซื้อของ?
เอ็ม : ใช่ครับ ผมบอกแม่ครับเราแยกกันหน่อยได้มั้ยเอ็มอยากชอปปิ้ง แม่บอกว่าแยกกันทำไมจะไปไหน เริ่มดุแล้ว ไล่กลับโรงแรมใช่มั้ย ผมบอกปล่าวครับ ผมอยากชอปปิ้งมากเลยแม่ เดี๋ยวผมทำจมูกหน้ามันเน่าไม่กล้าเดิน เค้าบอกโอเคพาเค้าไปร้านกาแฟ ถ่ายรูปให้ กอดแล้วก็บอกรอตรงนี้นะเดี๋ยวผมมา ในข่าวที่บอกว่าถือของเยอะของเอ็มทั้งหมดเลยครับ แม่ยังบอกเลยเดี๋ยวช่วยถือ ผมบอกไม่ต้องช่วยถือแม่ถือแอร์เมสสวยๆเลยครับ แม่ไลน์มาชอปหมดเมียงดงแล้วมั้ง พอเอ็มรู้ว่าเท่ากับนานไปแล้ว เอ็มรีบกลับไปหาเค้าเลย แล้วแม่ก็ไปซื้อรองเท้ากัน

ไม่ไปกินปู เกิดขึ้นตอนไหน?
เอ็ม : เกิดขึ้นตอนที่แม่ม้าจ่ายค่ารองเท้าเสร็จแล้วผมก็บอกแม่ม้าเอ็มอิ่มแล้ว ไม่ไปกินปูได้มั้ย แม่ม้าบอกว่าอะไร ขึ้นเสียงแล้ว บอกว่าอีบ้าตีไหล่ผม 2 ที บอกว่าโมโหแล้วนะ ฟาดหน้าผมเลย 1 ที แล้วผมก็เดินออกไปด้วยอารมณ์โมโหมากๆ

ตอนที่โดนโกรธแค่ไหน?
เอ็ม : มันโกรธครับ เพื่อนถามทำไมไม่สวน มันสวนไม่ได้ เราอายมั้ยอาย เราเจ็บมั้ยเจ็บ แม่ม้าเค้าก็ขึ้น

สิ่งที่พี่ม้าพูดมันเกิดขึ้นอย่างนั้นมั้ย?
เอ็ม : เกิดขึ้นนะครับ มาเกิดขึ้นตอนที่เราเคลียร์กันแล้ว แล้วเค้ามาอธิบายอย่างนี้ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ หลังจากที่ผมโดนตบผมเดินหนีเลยครับ ผมบอกว่าทำอย่างนี้ผมไม่ถูกนะพ่อแม่ผมยังไม่เคยทำเลยนะ แล้วแม่ม้าก็เดินมาขอโทษผมเลยบอกอย่าเพิ่งมาขอโทษต่างคนต่างอยู่ก่อน ตอนนี้อารมณ์ข้างในผมหนักมากเลยครับ แล้วผมก็เดินหนีไปเลยแล้วเค้าก็ให้เวลาผมนานพอสมควร พอเค้ามาจับมือผมเค้าถึงได้พูด แต่ผมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน เค้าขอโทษผมก่อนพอผมได้ยินคำนั้นผมขอโทษเหมือนกัน

โกรธที่พี่ม้าตีหน้า?
เอ็ม : โกรธครับแบบสั่นเลยครับ ตัวสั่น ใจสั่น ที่สำคัญผมอายมาก ไม่ได้แค่ฟาดแต่เสียงดัง เลยต้องหาคำพูดคำนึงที่ทำให้หยุดแล้ว โดยเอาพ่อแม่มาอ้าง แล้วมันก็เป็นความจริงด้วยผมไม่เคยโดนพ่อแม่ตีขนาดนี้

ความรู้สึกของผู้ที่ถูกกระทำ พี่ม้าแตะหรือตบ?
เอ็ม : ผมรู้สึกว่าผมโดนตบครับ เพราะหน้าผมหัน ตอนนั้นผมว่าแรงนะ มือแม่ใหญ่กว่าหน้าผมอีกนะ

ตอนที่เค้าตีหัวไหล่อันนั้นแตะหรือตี?
เอ็ม : อันนั้นแตะ อีบ้า อีบ้า แล้วก็โมโหแล้วนะ ก็ฟาด แรงครับหน้าชาเลย

หลังจากที่ใจเย็นลงได้พูดคุยกัน?
เอ็ม : เคลียร์กันที่เมียงดงครับ เคาวางแผนไว้แล้ว 1-2-3-4 เอ็มทำแบบนี้ผิดแผนเค้านะ เอ็มเลยบอกว่าต่อไปนี้เรามีอะไรเราพูดกันตรงๆเลยนะ เอ็มบอกว่าแม่ครับเอ็มถามหน่อย ถ้าเกิดแม่พาคุณหญิงคุณนายมา ถ้าเค้าไม่กินปู แม่จะตบเค้ายังนี้มั้ย ผมถามไปตรงๆแต่จำไม่ได้แม่ตอบว่าอะไรตอนนั้น แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างโมเมนท์หลายอย่าง แม่ม้าร้องไห้ ผมก็จบเลยทุกอย่างจบผมขอโทษ เข้าไปกอดเค้า ผมเลยบอกครับแม่ถ้างั้นเรื่องนี้เรารู้กัน 2 คนนะ อย่าไปบอกใครนะ เค้าถามเอ็มจะกลับโรงแรมเลยมั้ยลูก งั้นไปกินปูก็ได้ให้มันจบๆ พอไปกินมันเป็นปูอลาสก้าไม่ใช่ปูดอง ผมยังถ่ายรูปให้พี่ม้า

ไปกินปูแล้วอร่อยมั้ย?
เอ็ม : ก็อร่อย

เคลียร์กันแล้ว ขอโทษกันแล้ว แต่เหมือนยังไม่จบ มีข่าวหลุดออกมา?
เอ็ม : ผมกลับไปโรงแรมไปนั่งคิดดูว่าทำอะไรแย่บ้างในวันนี้ จนผมรู้สึกว่าผมกับพี่ม้าห่างกัน พี่ม้าบอกว่าก็พยายามศึกษาผม ผมก็พยายามศึกษาพี่ม้า อะไรที่ผมยอมได้อะไรที่ผมยอมไม่ได้ เรื่องที่ผมยอมได้คือทุกอย่างผมให้ได้ แต่เรื่องที่ยอมไม่ด้คือเค้าตบครับ ผมก็กลับไปคิด ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง แต่ผมคุยกับแม่เราที่เมืองไทย เมืองไทยก็ดึกนะผมบอกเลยแม่ผมไม่ได้ 2 วันระหว่างที่ผมทำจมูก ผมโทรหาแม่คุยกันปกติแม่ม้าเป็นยังไง ผมก็เล่าไป แต่เค้าบอกเสียงผมแปลกๆนะเป็นอะไร แลเล่าไปก็เริ่มจะร้องไห้ เค้าก็เริ่มจับประเด็นได้เค้าก็พยายามถาม ผมเลยบอกว่าโดนตีแต่ไม่ต้องไปเล่าให้พี่ธงฟังนะเดี๋ยวเรื่องใหญ่ แม่เค้าก็รับปากผม แต่ก็ไปเอาเรื่องพี่ธง

แม่ได้ฟังครั้งแรกเค้ารู้สึกเป็นไง?
เอ็ม : แม่โกรธมาก โกรธมากกว่าเรา ผมบอกไม่ให้บอกพี่ธง แต่เรื่องนี้คนที่มีปัญหาสุดคือพี่ธง เพราะแม่ผมก็ไปอาละวาดกับพี่ธง พี่ธงจะไม่ให้ฟ้อง จะให้ประนีประนอม พี่ธงส่งผมให้ไปทำจมูกกับแม่ม้า แต่ไม่ได้ส่งผมให้ไปโดนตบอันนี้เป็นเรื่องของผม

พอแม่รู้เรื่องบอกอะไรกับเรา?
เอ็ม : แม่บอกว่าติดต่อทนาย ผมให้แม่ช่วยติดต่อ ส่งไปหาทนายหลายคน แต่ไม่มีใครอ่านเลย เพราะผมส่งไปไม่ได้บอกว่าโดน ม้า อรนภา ตบ ผมส่งไปว่า ผมโดนตบที่เกาหลีโดยคนไทยด้วยกันผมสามารถทำอะไรได้บ้าง มีทนายท่านนึงตอบคนเดียว เลยรู้สึกว่าจะเอาคนนี้เป็นทนายของผม ผมก็ค่อยๆส่งข้อมูลให้เค้า ตอนนั้นแค่ปรึกษา

ทนายบอกมั้ยต้องทำอะไร?
เอ็ม : บอกครับ บอกละเอียดเลย

แล้วทนายรู้ได้ไงเป็นม้า อรนภา?
เอ็ม : ผมยงไม่ได้บอกครับ ตอนหลังๆผมบอกพี่ธงว่าได้ทนายแล้วนะครับ แต่โทรหาพี่ธงเป็นสิบสายไม่รับเลย ผมเลยส่งให้ทุกอย่างที่ผมมีทั้งรูปทั้งคลิป ก่อนหน้านั้นพี่ธงรับแล้วถามว่าเหมือนเค้าไปคุยกับทางฝั่งแม่ม้า บอกว่าฉันตบมีหลักฐาเนหรอ ผมเลยบอกพี่ธงจะดูมั้ย เค้าบอกไม่ดูๆ กลัวๆ พอเค้าถามว่ามีหลักฐานหรออันนี้คือคำที่ผมขึ้น ผมเลย่งหลัดฐานให้ทุกอย่างแล้วบอกว่าม้า อรนภา ตบหน้าผมครับ

พอมีชื่อพี่ม้าเลยกลายเป็นเรื่อง?
เอ็ม :พอผมได้รับข้อความถามหาหลักฐาน ผมบอกไม่ยอมเลยครับ ผมจะเอาความให้ถึงที่สุด ถ้าเค้าไม่ได้พูดหลักฐานก็อาจจะไม่หลุดมา ณ ตอนนั้น แต่ถามว่าการกลับมาที่เมืองไทยมั้ย ผมคิดเลยนะว่าผมทำแบบนี้จะดีกับตัวผมมั้ย ผมฟ้องผู้ใหญ่ ผมไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้น แต่ผมคิดว่าไม่ได้ถ้าใน 10 ปี เราอยู่ในเมียงดงเราโดนตี วันนั้นผมคิดว่าไม่ได้มีเรื่องกับม้า อรนภา ผมคิดว่าผมมีเรื่องกับคน 2 คน ผมเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร ผมอยากให้ทุกคนที่โดนยังงี้ต้องกล้า

พี่ม้าพูดว่าแจ้งความจริงหรือปล่าวที่เกาหลี?
เอ็ม : ผมแจ้งครับ มีอะไรหมดเลยครับ แต่ตำรวจเกาหลีถามกลับมาว่าคนนี้ชื่ออะไร ผมพยายามบ่ายเบี่ยงว่าไม่รู้ ถามว่ามีเบอร์คนนี้มั้ยมีโรงแรมคนนี้มั้ย ผมตอบไปว่าไม่มีครับ เพราะว่าถ้าจากในกล้องวงจรปิดเค้าสามารถไปจับตัวได้เลย ผมรู้สึกว่ามันไม่น่าจะหนักขนาดนั้น เพราะผมไม่ได้ทำให้ผมถึงกับตายเลย แต่ถ้าตำรวจมาเค้าติดคุกที่เกาหลีนะครับ ผมก็นึกกลับไปสิ่งดีๆที่เค้าทำให้ผมมันก็ยังมี นี่คือหลักฐานการแจ้งความที่เกาหลี มันจะบอกทุกอย่างเลย แล้วเค้าบอกกลับไปที่ไทยให้เอาไปที่สถานีตำรวจกับคลิปมันสามารถเอาความผิดได้ครับ

ทำไมถึงไม่บอกตำรวจเกาหลี?
เอ็ม : ผมสงสารเค้า ผมมองว่าเค้าก็แก่แล้ว ถ้าเกิดเค้าติดคุกที่นั่น ผมแค่รักษาสิทธิของผมในการโดนทำร้ายร่างกายแต่เรื่องเอาสะใจผมไม่ได้ต้องการขนาดนั้น

เรื่องมาถึงทนายไทย และยังไม่รู้จะได้ถึงขั้นไหน ขึ้นอยู่กับใคร?
เอ็ม : ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มีครับ เอ็มชัดเจนอยู่แล้วครับ อย่างที่คุยกับพี่ม้าเจอหน้ากันตัวต่อตัวบอกเอ็มรักแม่นะครับแต่สิ่งที่แม่ทำมันผิด เอ็มบอกเลยว่าเอ็มจะสั่งสอนแม่ด้วยการแจ้งความนะ แม่เค้ามองหน้าเอ็มน้ำตาคลอๆ คุยกันแค่นั้นเลยครับวันที่เจอล่าสุดเอ็มตัดไหมที่จมูก

เจอกันวันตัดไหม?
เอ็ม : ใช่ครับ ผมคิดว่าไม่เจอ ต่างคนต่างไป ความรู้สึกแรกหลังจากที่บล็อคกันไปผมเจอก็สตั๊นท์แต่ก็สวัสดีครับมาด้วยเหรอ แม่บอกฉันก็ต้องมาสิมาดูแล เค้าบอกเครียดมั้ย ผมบอกเครียดมากไม่คิดว่าข่าวจะใหญ่ขนาดนี้ ผมก็บอกเค้าว่าเราไปเคลียร์ที่ไทยนะ ผมรักแม่นะ แต่สิ่งที่แม่ทำแม่ทำกับคนอื่นไม่ได้แล้วนะ

แจ้งความไทยมั้ย?
เอ็ม : ที่ผมเงียบทุกอย่างต้องการจะพูดที่เดียวให้มันจบไปเลยครับว่ามันเป็นความจริงผมก็ยังจะแจ้งความ

ณ วันนี้ยังโกรธอยู่มั้ย?
เอ็ม : ตอนแรกโกรธมาก จะเอาให้ถึงที่สุด ผมก็ใหม่กับข่าวไม่คิดว่าจะเจอยังงี้ แล้วผมไปเจอคอมเมนท์แย่ๆ บางทีเรื่องของเราสองคน พี่ม้าตบหน้าผม ผมคือผู้ถูกกระทำ แต่พี่ม้าโดนบูลี่ว่าลุงมั่งอะไรมั่ง จากที่ผมโกรธผมไปอ่านคอมเมนท์มันเกินไปสำหรับเค้า เรามาโฟกัสกันที่ตรงนี้ดีกว่า ผมไม่ยอมความอยู่แล้ว แต่ทุกคนอย่าใช้ผมเป็นสื่อ ตอนนี้ผมเป็นผู้เสียหาย ผมโดนตบหน้าผมก็รู้สึกแย่แล้ว ผมอยู่ที่เกาหลีคนเดียวไม่ได้คุยกับใคร ผมมีมือถือเครื่องเดียวที่บ้านบอกไม่ต้องเช็คข่าว แต่สิ่งเดียวที่ดูได้คือมือถือ บางคนก็ด่าผม ดังแล้วหรอ ผมไม่ดังครับผมเป็นแค่ตัวประกอบผมไม่คิดว่าวันนี้ผมจะมีเสียงได้ออกมาพูดขนาดนี้ ผมอยู่ที่เมืองไทยผมมีเพื่อน มีครอบครัว ผมปากแจ๋วได้ ผมอยู่ที่เกาหลีผมโทรหาใครก็ไม่ได้ ทุกคนคอมเนท์เดี๋ยวเค้าก็ลิมว่าคอมเมนท์ว่าอะไร แต่ผมไปอ่านมันอยู่ในใจผม ผมใหม่เกินไปกับเรื่องพวกนี้

คอมเมนท์ที่อ่านทำให้เราแกร่งขึ้นมั้ย?
เอ็ม : ตอนอยู่เกาหลีผมแพลนจะไปเที่ยวเยอะมากแต่ไม่ใช่เลย 3-4 วันผมเก็บตัวอยู่ในห้อง ครอบครัวบอกว่าเอ็มกลับมานี่แค่จุดเริ่มต้น จะเป็นยังไงไม่ต้องกลัว หน้าที่ของเอ็มคือกินให้อิ่ม เที่ยวให้สนุก แล้วค่อยกลับบ้าน อีก 2 วันหลังผมทำอย่างนั้นจริงๆ ผมปิดทุกอย่างแล้วไปเที่ยวคนเดียว

ความรู้สึกตอนนี้ยังโกรธอยู่มั้ย?
เอ็ม : ผมไม่ได้โกรธขนาดนั้นแล้ว แต่การที่เราจะมาเจอกันมันยังไม่ได้ ผมกลัวทุกอย่างเลยครับ ทุกอยางมันต้องเป็นเรื่อง ผมจะไม่พูดเรื่องไม่จริง จะมาจับมือ มากอด เอากระเช้าอะไรได้ มันยังใหม่ผมยัให้เป็นภาพนั้นไม่ได้ แต่ใจเราไม่โกรธ

ให้อภัยมั้ย?
เอ็ม : ให้อภัยครับ

เมื่อวานพี่ม้าขอโทษแล้ว ทำไมถึงยังฟ้องอยู่?
เอ็ม : อย่างที่ผมบอกแม่ม้าวันตัดไหม ผมขอโทษนะครับสำหรับที่มองว่ามันก้าวร้าวเกินไปหรือปล่าวกับคำพูดนี้ ผมบอกว่าอยากให้บทเรียนกับแม่ แม่จะได้ไม่ต้องไปทำกับใคร ผมก็ได้บทเรียนจากเรื่องนี้เหมืนกันในเรื่องของสื่อของอะไร แม่ม้าก็ได้บทเรียนจะไปตีใครยังงี้ไม่ได้แล้วครับ พูดต่อหน้าเลยครับ แม่เค้าก็ยืนนิ่ง บอกเดี๋ยวเราไปเคลียร์กันที่ไทยนะครับ แม่เค้าพยักหน้า แล้วก็แยกกันวันนั้นเลยครับ

มีโอกาสถอนฟ้องมั้ย?
เอ็ม : ผมไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลยครับ แต่ที่บ้านผมคิดกันแล้วว่าจะฟ้อง แต่ผมจชนะไปแล้วผมได้อะไร จะถึงขนาดไหน จะเดินไปตบหน้าเค้าคืนตามคนที่เชียร์ผมหรอ ผมก็ทำไม่ได้ ณ ตอนนี้ผมก็ตอบไม่ได้จริงๆครับ ถ้าถามว่ายังฟ้องมั้ยฟ้อง

มีคนบอกสร้างกระแส เกาะพี่ม้า ทำให้ตัวเองดัง?
เอ็ม : เรื่องนี้ผมไม่ได้สร้างแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่ได้ยั่วยุ ทุกอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ผมตั้งใจไม่บอกใครว่าไปทำจมูก ผมไม่ใช่นักแสดงดัง ผมอยากดังอยู่แล้วแต่ผมไม่มีผลงานอะไรให้ใครดู ข่าวเดี๋ยวมันก็ไป ผมไม่ได้อยากได้อย่างนี้ อยากตั้งใจและอยู่กับมันไปนานๆมากกว่า

มีคนบูลลี่เรา คาใจมากที่สุด?
เอ็ม : ตอนแรกผมจะไม่มาออกรายการอะไรเลยเพราะไม่มีใครรู้หน้าผม คนก็หา อยู่ดีๆก็มีคนเปิดวาร์ป ผมก็แอบอ่านนี่ทำหน้ามาแล้วหรอ ใครไม่รู้จัก บางคนไดเร็กซ์มาดาราต๊อกต๋อย ดารากับนักแสดงต่างกัน อาชีพผมไม่ใช่ดาราอาชีพผมนักแสดง ผมเล่นได้ทุกบท ผมแค่อยากหากินกับตรงนี้

มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพี่ม้า?
เอ็ม :ผมว่าเรื่องนัเนักสืบโซเชียลเก่งมาก ถ้ามีเรื่องนี้เค้าต้องรู้อยู่แล้ว มันชัดอยู่แล้วว่าคนไทยทักพี่ม้าทั้งถนนที่เกาหลีเค้าก็รุ่นแม่ผมแล้ว ค่าศัลยกรรมผมออกเอง ค่าตั๋วผมออกเอง กินอะไรก็หารกันครับ

ความคืบหน้าคดี?
เอ็ม : ยังไม่ได้คุยกับทนายเลยครับ

มีไรอยากบอกพี่ม้า?
เอ็ม : เหมือนเดิมวันที่เราคุยกันวันตัดไหม ผมรักแม่นะ แต่ขอให้แม่พูดความจริงวันแถลงข่าว ผมขอบคุณแม่ผมกลัวมากเลยกับวงการบันเทิง ผมกลัวแม่จะออกมาพูดว่าผมเป็นเด็กเค้าอะไรอย่างนี้ เด็กเอ็น ฉันซื้อเค้ามา มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเอง มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริงของผมกับแม่มีแค่นั้นจริงๆ แม่ดีกับเอ็มมากๆในเรื่องของการสั่งสอนในวงการบันเทิงแต่เรื่องที่ผิดจริงๆคือแม่ตบหน้าเอ็มแค่นั้น

วันนึงมีโอกาสคืนดีพี่ม้ามั้ย ไปนั่งกินปูด้วยกันอีกได้มั้ย?
เอ็ม : มันพูดยาก ผู้ใหญ่เค้าขอโทษแล้ว ผมก็ขอโทษเค้าในส่วนที่ผมทำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'POW' ฮอตไม่หยุด ขึ้นแสดงที่นิวยอร์กครั้งแรก!

POW ปิดฉาก Jingle Ball Tour ช่วงปลายปีในที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงเชียร์และการร้องตามของแฟน ๆ ทั้งยังโชว์ศักยภาพในฐานะ "อัญมณี K-Pop" พร้อมได้รับความสนใจจากสื่อท้องถิ่น

'ทวี' รับแยก 'ตั้ม' ไปอยู่โซนไม่มีคู่ขัดแย้งแล้ว หลังมีข่าวถูกจองกฐิน

'ทวี' เผย แยก 'ตั้ม' ไปอยู่โซนไม่มีคู่ขัดแย้งแล้ว หลังมีข่าวถูกจองกฐิน รับ ต้องระมัดระวัง เหตุในเรือนจำมีผู้ป่วยจิตเวชด้วย

โฆษก ทบ. แจงปมเจ้ากรมยุทธฯทำร้ายทหาร รอสอบพยานเพิ่ม ชี้บทลงโทษด้านวินัย

พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้การสอบพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคำสั่งให้เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก

หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน

นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด

พ่อสุดทน! ใช้ขวานจามหัวลูกสาหัส หลังโดนทำร้ายมานาน

พ่อเหลืออด! รองรับอารมณ์ลูกชายมานาน หลังลูกอาละวาดขู่ฟันคอพ่อกับแม่ที่ป่วยติดเตียง ใช้ขวานฟันหัวลูก สาหัส สารภาพสิ้นกะฟันให้ตายคามือ